เพจดังเผยไลน์หลุด “โบราณคดี” เตรียมฝืนรับน้องหลังอธิการสั่งห้าม นศ.แจงแค่ “มีตติ้ง” รุ่นใหญ่โผล่เม้นต์ด้วย!

เมื่อวันที่ 24 กันยายน เพจ ANTI SOTUS ได้เปิดเผยภาพข้อความการพูดคุยในไลน์กลุ่ม ‘โบราณคดี 62’ ของนักศึกษาคณะโบราณคดี ม.ศิลปากร ซึ่งมีเนื้อหาคล้ายการตกลงแนวทางกิจกรรมรับน้องใหม่ในแต่ละสาขาวิชาว่าให้ใช้ความระมัดระวัง อย่าถ่ายภาพลงสื่อโซเชียล การจองที่พักอย่ากระทำในนามคณะโบราณคดี และย้ำว่าทางคณะรวมถึงมหาวิทยาลัยไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งแอดมินเพจดังกล่าวได้แสดงความคิดเห็นว่า หลังจากเกิดกรณีวิพากษ์คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ อธิการบดีได้ออกหนังสือให้งดกิจกรรมรับน้อง แต่คณะโบราณคดียังคงมีกิจกรรมนอกสถานที่ ซึ่งถือเป็นการรับน้อง มีการซ่อม และว้าก โดยใช้วิธีหลีกเลี่ยงในลักษณะที่ว่า “กิจกรรมนี้ไม่ใช่รับน้อง”

เมื่อภาพไลน์และความคิดเห็นจากแอดมินเพจเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้แสดงความเห็นในเชิงตั้งคำถามว่าเป็นการเสี่ยงเกินไปหรือไม่ ที่จะนำนักศึกษาชั้นปีที่ 1 เดินทางออกนอกสถานที่ หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ใครจะรับผิดชอบ ส่วนการไม่ใช้คำว่ารับน้อง แต่ลักษณะกิจกรรมหากเป็นไปอย่างไม่แตกต่าง ก็มีค่าเท่ากัน

ต่อมา ได้มีทั้งศิษย์เก่าคณะโบราณคดี และนักศึกษาปัจจุบันเข้าไปโต้ตอบเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ชี้แจงว่ากิจกรรมดังกล่าวไม่มีการว้าก เพราะเฉลยสายรหัสทั้งหมดแล้ว แต่เป็นเพียงการมีตติ้ง หรือพบปะสังสรรค์ของแต่ละสาขาวิชาเท่านั้น ซึ่งเป็นการตกลงพูดคุยกันเอง ไม่เกี่ยวกับคณะและมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังตำหนิแอดมินเพจให้หาข้อมูลและกลั่นกรองก่อนเผยแพร่ มิฉะนั้นจะสร้างความเสียหายแก่ผู้อื่นได้

ทั้งนี้ หนึ่งในศิษย์เก่าที่เข้าไปแสดงความคิดเห็น คือ นายเอิบเปรม วัชรางกูร อดีตผู้อำนวยการกองโบราณคดีใต้น้ำ กรมศิลปากร นักโบราณคดีใต้น้ำคนสำคัญของไทย โดยบอกเล่าเรื่องราวครั้งนายสุจิตต์ วงษ์เทศ ซึ่งเป็นรุ่นพี่โบราณคดีป้อนไข่ให้ตนในงานรับน้องใหม่ หลังจากมีผู้อ้างคำวิพากษ์ของนายสุจิตต์ซึ่งไม่เห็นด้วยกับระบบโซตัส จึงเขียนหนังสือเรื่อง ‘หนุ่มหน่ายคัมภีร์’ ซึ่งได้รับความนิยมต่อเนื่องมานาน จนมีการพิมพ์ซ้ำจนถึงปัจจุบัน

ต่อมา ได้มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า นายสุจิตต์ เข้าร่วมงานรับน้องใหม่จริง แต่เป็นไปในลักษณะของการทำบายศรีสู่ขวัญ ไม่ใช่การว้ากและกิจกรรมสืบเนื่องจากระบบโซตัสซึ่งนายสุจิตต์ยืนยันตลอดมาว่าไม่เห็นด้วย

 

ที่มา มติชนออนไลน์