วันที่ 25 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์เริ่มมีการพูดถึงผลิตภัณฑ์หมูแดดเดียว ตรา “อีเหมียวปีนตู้กับข้าว” โดยเฉพาะในทวิตเตอร์ ซึ่งผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายคนมองว่า ชื่อแบรนด์มีความแปลกใหม่ เรียกรอยยิ้ม และ สร้างการจดจำอย่างรวดเร็ว
ผู้ใช้ทวิตเตอร์บางคน กล่าวว่า ชอบคำโฆษณา “สันคอหมูแดดเดียว ตรา อีเหมียวปีนตู้กับข้าว อร่อยจนต้องร้องว้าว ปีนตู้กับข้าวล้มลงมาพัง”
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
เมื่อตรวจสอบไปที่เพจเฟซบุ๊ก “เนื้อหมูแดดเดียว ตรา อีเหมียวปีนตู้กับข้าว” พบว่า เป็นเฟซบุ๊กที่เริ่มเคลื่อนไหว เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา โดยใช้รูปโพรไฟล์เป็นหน้าแมวลายเสือ จิกกล้องด้วยสายตาเกรี้ยวกราด ทำท่าคล้ายสะพายถุงย่าม นั่งอยู่บนตู้กับข้าว พร้อมคำโฆษณาด้านล่างว่า อร่อยจนต้องปีนตู้กับข้าว
ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความเห็นในเชิงเอ็นดูน้องแมว บางคนไม่เชื่อว่าจะมีการตั้งชื่อแบรนด์แบบนี้จริง ๆ และ เมื่อมีคนเข้ามาถามว่าทำไมน้องต้องทำหน้าโกรธ เจ้าของเพจมาตอบว่า “ชอบปีนตู้กับข้าวไปหาจิ้งจกค่ะ สงสัยจะหาจิ้งจกไม่เจอ”
หลังจากนั้น ทางเพจเริ่มมีความเคลื่อนไหวโดยขายผลิตภัณฑ์เนื้อหมูแดดเดียว พร้อมกับโพสต์รูปน้องแมว ที่มาของโลโก้แบรนด์ไปด้วย
แทบไม่น่าเชื่อว่า ด้วยเอนเนอร์จี้ของน้องแมว จะทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากแห่ออร์เดอร์ผลิตภัณฑ์ จนเจ้าของเพจรับออร์เดอร์ไม่ทัน เลยต้องประกาศปิดรับออร์เดอร์ ในอีก 4 วันต่อมา
ด้วยความแรงของแบรนด์ “อีเหมียวปีนตู้กับข้าว” บวกกับประสบการณ์ของเจ้าของเพจที่เริ่มขายของออนไลน์คล่องขึ้น เมื่อวานนี้ทางเพจจึงมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 1 ชิ้น คือ หมูแผ่นสุดเฟี้ยว พร้อมกับย้ำสโลแกนเดิมคือ “อร่อยจนต้องปีนตู้กับข้าว”
ความแรงของแบรนด์หมูแดดเดียว “อีเหมียวปีนตู้กับข้าว” ไม่น่าจะหยุดเพียงเท่านี้ หลังจากนี้เราคงจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ๆ ตามมา สร้างยอดขายให้กับเจ้าของเพจได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
ส่วนผู้ที่อยากจะริเริ่มทำธุรกิจออนไลน์ น่าจะได้แรงบันดาลใจเรื่องการสร้างแบรนด์เป็นอย่างดี
ภาพจากเฟซบุ๊ก อีเหมียวปีนตู้กับข้าว