ฌอน : ร่ายคำคม การให้อภัยไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าไม่ทำ ยากที่จะเดินไปข้างหน้า

ฌอน บูรณะหิรัญ คืนวงการไลฟ์โค้ช ร่ายคำคม “ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้อภัย แต่ถ้าคุณไม่ทำ มันยากกว่าที่จะก้าวไปข้างหน้า”

วันที่ 26 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฌอน บูรณะหิรัญ นักสร้างแรงบันดาลใจชื่อดัง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุเป็นภาษาอังกฤษว่า “It isn’t easy to forgive but if you don’t It’s harder to move forward” ซึ่งแปลเป็นภาษไทยได้ว่า “การให้อภัยไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าคุณไม่ทำ มันยากกว่าที่จะก้าวไปข้างหน้า”

• เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
• ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
• นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น

ภายหลังเกิดเรื่องราวดราม่าบนโลกออนไลน์กรณี “ปลูกต้นไม้กับท่านประวิตร” ในงาน Climate Festival @North เมื่อกลางปี2563 ที่อ่างเก็บน้ำ ห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จนสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกออนไลน์ ลามไปถึงการจตรวสอบเงินบริจาคที่เปิดรับเพื่อช่วยเหลือดับไฟป่าของ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเจ้าตัวได้ชี้แจงเรื่องเงินบริจาค 1.3 ล้านบาท ก่อนจะเก็บตัวเงียบ หายไปจากโซเชียล

จากนั้น (21 ก.ย.) “ฌอน” ได้โพสต์ข้อคสามอีกครั้ง ได้ชี้แจงถึงกรณีเงินบริจากอีกครั้ง พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมาผมได้ให้ความร่วมมือเต็มที่กับเจ้าหน้าที่สอบสวนไม่เคยมีการหลบหนีใด ๆ โดยหลักฐานทั้งหมดได้อยู่ในมือของผู้ที่มีหน้าที่ตรวจสอบ อยู่ในกระบวนการที่ถูกต้อง และกำลังอยู่ในความดูแลของทีมกฎหมาย และกล่าวว่า ต่อจากนั้นใช้ชีวิตอออฟไลน์หลีกหนีการ Social Media สักระยะ

ข่าวของนักสร้างแรงบันดาลใจชื่อดัง ได้หายไปจากหน้าฟีดข่าวกว่า 5 เดือน ชื่อของ “ฌอน บูรณะหิรัญ” กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพพื้นที่กิจกรรมปลูกป่า ในงาน Climate Festival @North เป็นภาพความเสื่อมโทรมของพื้นที่ดังกล่าว ที่ดูแห้งแล้ง ต้นไม้ที่ปลูกไว้เหลือแต่กิ่ง

พร้อมถามกลับไปยัง “ฌอน” ว่า จำได้ไหม ป่าที่เคยมาปลูก ต้นไม้ที่เคยปลูก ก็ยังไม่มีใบงอกมาสักใบเลย ผ่านไปเป็นปีแล้ว กลับมาดูแลบ้าง พร้อมทั้งทิ้งท้ายว่า อยากสะท้อนว่าการทำอะไรแบบนี้มันไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร งบประมาณจากภาษี ประชาชน ควรใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ ประชาชน ไม่ใช่เพื่อการสร้างภาพ เสร็จแล้วก็ไม่ได้กลับมาดูแล

อยากให้คนตระหนักเรื่องภาวะโลกร้อน และหันมารักษาสิ่งแวดล้อมปลูกต้นไม้ โดยเกิดจากจิตสำนึก ไม่ใช่แค่เพื่อการสร้างภาพให้ดูดี บนซากของความล้มเหลว และไม่ได้แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน “เรื่องการดูแล คิดว่า แค่นำต้นไม้ไปปลูกในช่วงต้นฝน แล้วไม่ต้องไปไถมันอีก ปล่อยมันเป็นป่าแบบที่ควรจะเป็นดีแล้ว”

หลังจากนั้น (15 ม.ค.) มีเพียง นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า โครงการปลูกป่าในครั้งนั้นมีต้นไม้รอดกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของการปลูกป่า ในภาพรวมถือว่ากล้าไม้มีการเติบโต

ส่วนภาพที่เห็นในโลกออนไลน์คาดว่าต้นไม้กำลังผลัดใบ จึงอาจดูเหมือนยืนต้นไม้ ใบไม้ร่วงหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็เข้าไปดูแลทั้งเคลียร์วัชพืชรอบๆต้นกล้าที่ปลูกไว้ และในส่วนที่ต้นไม้ตายเจ้าหน้าที่ก็ต้องเข้าไปปลูกเสริมทดแทน ซึ่งในครั้งนั้นเป็นการฟื้นฟูป่าบริเวณป่าดอยสุเทพ บ้านศาลา (ห้วยตึงเฒ่า) ที่ถูกไฟป่าไหม้เสียหาย โดยปลูกป่านำร่องเพื่อฟื้นฟูป่าและเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มากขึ้น

ขณะที่ “ฌอน” ไม่ได้ตอบโต้อะไรบนโซเชียลมีเดียของเขา (22 ม.ค.) เขาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กครั้งแรก ในรอบ 5 เดือน ระบุเป็นภาษาอังกฤษว่า “Sometimes we must be broken in order to bloom” ซึ่งแปลเป็นภาษไทยได้ว่า “บางครั้งเราต้องอกหักเพื่อที่จะผลิบาน” หลังจากนั้น ทุกวันเขาจะโพสต์ผ่านข้อความคำคมผ่านเฟซบุ๊กตัวเองวันละหนึ่งละหนึ่งโพสต์ กระทั่งวันนี้โพสต์ข้อความที่ที่สื่อถึงการให้อภัยข้างต้น