สรุปดราม่า #ทองแท้ไม่กลัวไฟ ทำไม รพ.เชียร์ “อนุทิน” โซเชียลถึงเดือด

ดราม่าล่าชื่อจี้อนุทินลาออก
ภาพจากเฟซบุ๊ก Like Anutin

สรุปที่มา #ทองแท้ไม่กลัวไฟ เมื่อโรงพยาบาลหลายแห่งพร้อมใจโพสต์ข้อความให้กำลังใจ “อนุทิน” เหตุใดชาวโซเชียลถึงเดือด 

วันที่ 26 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงดึกวานนี้ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้า บรรยากาศในโลกโซเชียลร้อนระอุ มีการวิพากษ์วิจารณ์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผ่าน #ทองแท้ไม่กลัวไฟ อย่างดุเดือด ล่าสุด ณ เวลา 08.00 น. มีการทวีตข้อความเกี่ยวกับเรื่องนี้ถึง 403,000 ครั้ง

รพ.แห่ให้กำลังใจ “อนุทิน”

เหตุการณ์นี้สืบเนื่องมาจากที่หลายโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลปากช่องนานา (จ.นครราชสีมา), โรงพยาบาลลำปาง (จ.ลำปาง) และ โรงพยาบาลพุทธชินราช (จ.พิษณุโลก) พร้อมใจกันขึ้นโพสต์ข้อความให้กำลังใจนายอนุทิน ที่ได้เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจในการแก้ปัญหาโควิด-19 มาโดยตลอด ซึ่งชาวเน็ตตั้งข้อสังเกตว่าโรงพยาบาลเหล่านี้โพสต์ข้อความในเวลาไล่เลี่ยกัน อีกทั้งยังมีเนื้อหาใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะการใช้ #ทองแท้ไม่กลัวไฟ และ #Saveอนุทิน

ชาวเน็ตบางรายตั้งข้อสังเกตเป็นพิเศษกับโรงพยาบาลลำปาง ซึ่งเมื่อวันที่ 22 เมษายน มีข่าวว่า บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลลำปางรายหนึ่งมีอาการที่ไม่พึงประสงค์ หลังได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวก โดยหลังฉีดเข้าไป 15 นาที ปรากฏว่ามีอาการเวียนศีรษะ จึงเข้ารับการปฐมพยาบาล และรักษาที่หน่วยฉุกเฉินของโรงพยาบาลลำปางทันที จากนั้นทางโรงพยาบาลจึงหยุดการฉีดวัคซีนชั่วคราว เพื่อประเมินสถานการณ์

นอกจากนั้น ยังมีบุคลากรทางการแพทย์อีกเกือบ 40 ราย มีอาการแค่เล็กน้อย เช่น ชาที่ปลายมือ ปลายเท้า รู้สึกเมื่อยอ่อนเพลีย หลังการฉีดวัคซีน

เพจดังดึงสติ

หลังโรงพยาบาลต่าง ๆ โพสต์ข้อความให้กำลังใจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปรากฏว่าชาวเน็ตแห่เข้าไปถล่มที่เพจโรงพยาบาลเหล่านั้นอย่าล้นหลาม บางโรงพยาบาลจึงตัดสินใจลบโพสต์ดังกล่าวออก ต่อไปนี้คือข้อความบางส่วนที่คนดังและชาวเน็ตไปแสดงความเห็นใต้โพสต์เชียร์นายอนุทิน

ด้านเพจดังอย่าง Drama-addict ซึ่งที่ผ่านมาช่วยเป็นตัวกลางประสานหาเตียงและเป็นกระบอกเสียงให้ผู้ป่วยโควิด ได้โพสต์ข้อความดึงสติแอดมินเพจโรงพยาบาลต่าง ๆ ว่า แอดมินเพจโรงพยาบาลต่าง ๆ คิดดี ๆ นะครับ เวลาหมอพยาบาลเดือดร้อน ใครช่วยพวกเรา ก็ประชาชนทั้งนั้น เวลาเราขาดหน้ากาก PPE ใครที่ประเคนให้พวกเราเป็นสายธาร ก็ประชาชนทั้งนั้น ไม่ได้ประชาชนช่วยพวกเราจบเห่ไปนานแล้ว จะให้กำลังใจใคร จะขอบคุณใคร ขอบคุณให้ถูกคนคนับ

ส่วนเพจ หมอแล็บแพนด้า ที่มีบทบาทไม่แพ้ Drama-addict โพสต์ข้อความบอกให้ทุกคน ช่วยกันส่งกำลังใจให้บุคลากรทุกสาขาที่กำลังทำงานกันอย่างหนักในตอนนี้ ถ้าพวกเขาผ่านมาเห็นโพสต์นี้ จะได้มีกำลังใจในการทำงานเพื่อพวกเราต่อไป ปิดท้ายว่า ถ้ามีอะไรที่พวกเราช่วยได้ สามารถแจ้งมาได้เลย

ล่าชื่อจี้ “อนุทิน” ลาออก

กรณีที่โรงพยาบาลต่าง ๆ โพสต์ข้อความให้กำลังใจนายอนุทิน จนถูกโซเชียลถล่มนั้น เกิดขึ้นหลังจาก กลุ่มหมอไม่ทน ได้สร้างแคมเปญล่ารายชื่อผ่านเว็บไซต์ Change.org เรียกร้องให้นายอนุทินลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากล้มเหลวในการแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย

แคมเปญนี้ระบุว่า กว่า 1 ปีเต็มที่ผ่านมาของการระบาด COVID-19 เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่มีความสามารถมากพอในการควบคุมดูแลการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั้งเรื่องการวางนโยบาย การจัดการทรัพยากร การจัดหาวัคซีน และการสร้างความเชื่อมั่นให้บุคลากรทางการแพทย์

นอกเหนือไปกว่านั้น หลายครั้งบทสัมภาษณ์จากนายอนุทิน ยังทำให้เห็นชัดเจนว่าไม่มีวิสัยทัศน์ที่เหมาะสมในการทำงานควบคุมกระทรวงที่เป็นกระทรวงหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่การระบาดไม่สามารถควบคุมได้

เริ่มต้นตั้งแต่ที่พูดว่า “เป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา” เมื่อบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ ก็แจ้งว่า “หมอไม่ระวังตัวเองจนติดโควิด-19 ไม่ได้ติดจากงาน แบบนี้ต้องหวดกัน” และบทสัมภาษณ์อีกมากมาย ที่ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกัน

จากความล้มเหลวทั้งหมดนี้ เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าเราไม่อาจจะให้เวลาอันมีค่าของเรา หมดสิ้นไปกับการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพไม่มากพอได้ ขอเรียกร้องให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล ลาออก และให้ผู้ที่มีความสามารถ มีความเหมาะสมมากกว่าเข้ารับตำแหน่ง ในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังตกอยู่ในความวิกฤตนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ณ เวลา 09.40 น. วันนี้ มีผู้ลงชื่อสนับสนุนแคมเปญนี้แล้ว 154,204 คน คาดว่าจะถึงเป้าหมาย 2 แสนคน ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

อนุทิน ลั่น “ถ้าจะไปขอไปเอง”

หลังทราบว่ามีแคมเปญกดดันให้ตนเองลาออก นายอนุทิน ได้ตอบคำถามกับนักข่าวว่า ตนยังทำงานอยู่และอดทน มั่นใจว่ายังทำงานกับบุคลากรทางการแพทย์ได้ หมอยังให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี อย่างที่ได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับคำยืนยันว่าจะมอบพื้นที่อินดอร์สเตเดียมหัวหมากให้เป็นศูนย์แรกรับส่งต่อผู้ป่วย ล่าสุด อธิบดีกรมการแพทย์ก็ลงพื้นที่ไปเตรียมเตียงไว้แล้วกว่า 300 เตียง

“เรื่องขวัญกำลังใจของผมไม่มีปัญหา เพราะผมทำงาน ผมบอกตัวผมเองว่ากำลังทำงาน ใครชมผมก็ขอบคุณ ใครว่า ผมก็ฟัง ถ้ามันเข้าท่า ผมก็ทำตาม ตอนเข้าผมขอเข้ามาที่นี่ ดังนั้น ถ้าจะไป ผมก็ขอไปด้วยตัวเอง” นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามว่าการบริหารงานล้มเหลวหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า จะให้มาพูดตอนนี้ก็เหมือนแก้ตัว “ผมกินเงินเดือนประชาชน ก็ทำงานตามหน้าที่ และมั่นใจว่ายังสามารถทำงาน ทำประโยชน์ และไม่ได้ทำอะไรที่เสียหาย” นายอนุทินกล่าว

ส่วนความเคลื่อนไหวของนายอนุทินเช้านี้ มีการโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเล่าว่า เมื่อคืนนี้ยาฟาวิพิราเวียร์สำหรับรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด จำนวน 2 ล้านเม็ด มาถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว โดยองค์การเภสัชกรรมได้เร่งกระจายจัดส่งให้สถานพยาบาลต่าง ๆ พร้อมระบุว่า ภายในเดือนพฤษภาคมจะมีการจัดส่งยามาเพิ่มอีก 1 ล้านเม็ด รวมเป็น 3 ล้านเม็ด รวมที่องค์การเภสัชกรรมจัดหาอีก 2-3 ล้านเม็ด ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ามียาเพียงพอสำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด ปิดท้ายด้วยแฮชแท็ก #ทำงานต่อไป

ทั้งนี้ การลงชื่อทางเว็บไซต์ change.org แม้จะสร้างแรงกดดันทางสังคมได้ แต่ก็ไม่มีผลในทางกฎหมาย เนื่องจากรัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่ได้ให้อำนาจประชาชนเข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอนนักการเมืองได้ เหมือนรัฐธรรมนูญปี 2550 หรือ รัฐธรรมนูญปี 2540