สรุปดราม่า หมอทวีศิลป์-อรอุมา-ช่อง 3 ก่อนลงเอย “รักนะจุ๊บๆ”

ขณะที่รัฐบาลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) พยายามรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ท่ามกลางการระบาดที่รุนแรง พบคลัสเตอร์ใหม่ ๆ ไม่เว้นแต่ละวัน ในโลกโซเชียลได้เกิดดราม่าขึ้น เมื่อ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.กล่าวถึงกรณีนักกีฬาวอลเลย์บอล-ผู้ฝึกสอน ซึ่งติดโควิดรวด 22 คน

เรื่องนี้จะจบลงที่ความขุ่นข้องหมองใจระหว่างหน่วยงานรัฐกับทีมนักกีฬาขวัญใจคนทั้งประเทศ หรือจบลงด้วยความเข้าใจผ่านการสื่อสารน่ารัก ๆ ผ่านโซเชียล “ประชาชาติธุรกิจ” สรุปดราม่านี้ตามไทม์ไลน์ให้ติดตามกัน

12 พฤษภาคม 2564

เฟซบุ๊ก Thailand Volleyball Association สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย แจ้งข่าวว่า เจ้าหน้าที่ผู้ฝึกสอน และนักกีฬา ที่เตรียมทีมไปแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นลีก ระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม – 19 มิถุนายน 2564 ที่ประเทศอิตาลี ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก จำนวน 22 คน

13 พฤษภาคม 2564

นพ.ทวีศิลป์ ตอบคำถามนักข่าวถึงการติดเชื้อของนักวอลเลย์บอลว่า “นี่คือสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ กับเชื้อโรคตัวนี้ และต้องเรียนรู้ไปด้วยกัน จริง ๆ แล้ว เป็นสิ่งที่เคยบอกกันมาก่อน ว่าการฉีดวัคซีนเป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องที่จะป้องกันโรค แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เจ็บ ไม่ป่วย ถ้ามีการติดเชื้อ ก็ยังเกิดขึ้นได้ แต่หลังการฉีดวัคซีน แต่ว่าอาการ จะป่วยหนัก จะเจ็บหนัก หรือจะเสียชีวิตนั้น จะน้อยลงกว่าการไม่ได้ฉีดวัคซีน นี่คือสิ่งที่แสดงความสำคัญ” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าวและว่า

“เพราะฉะนั้นนักกีฬาในชุดนี้เป็นบทเรือนของเราอย่างดีว่าถึงแม้ฉีดไปแล้ว แต่ถ้าไม่ระมัดระวังตัว ในการสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ในระยะที่แออัดหรือใกล้ชิดกัน หรือการเล่นกีฬาแล้วมีสารคัดหลั่งออกมาก็มีโอกาศที่จะติดเชื้อได้ นี่คือมีหลักฐานทางวิชาการ”

หลังจากนั้นสื่อหลายสำนักได้นำคำพูดของ นพ.ทวีศิลป์ ไปรายงาน หนึ่งในนั้นคือ เพจ Ch3ThailandNews ของช่อง 3 ซึ่งทำกราฟิกอ้างอิงจากคำพูดของ นพ.ทวีศิลป์ ว่า…“นักกีฬาชุดนี้จะเป็นบทเรียน ฉีดวัคซีนไปแล้ว แต่ไม่ระวังตัวเอง ก็ติดเชื้อได้” นำไปสู่ดราม่าบนโลกออนไลน์ในเวลาต่อมา

จากนั้น “อรอุมา สิทธิรักษ์” นักวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ได้โพสต์และแชร์กราฟิกโควทดังกล่าวพร้อมระบุว่า “ทุกคนทำดีที่สุดแล้วนะ ระวังตัวกันแล้วแต่มันก็เกิดขึ้น แต่คุณหมอมาพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ จะให้ฝึกซ้อมยังไงไม่ให้เหงื่อออกล่ะ ช่วยบอกหน่อยคะ นักกีฬาทุกคนก็ทำหน้าที่เพื่อชาติ รักชาติเช่นกันนะคะ”

วันเดียวกัน ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนาคณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ในฐานะทีมงานสื่อสารของ นพ.ทวีศิลป์ แสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊กว่า คุณหมอทวีศิลป์ ไม่ได้มีเจตนาที่จะตำหนิทีมวอลเลย์บอลหญิงใด ๆ เลย เป็นเพียงการอธิบายว่ากรณีนี้ เป็นตัวอย่างเพื่อให้คนอื่น ๆ ที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว ได้เรียนรู้ว่า แม้ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังติดเชื้อได้ ถ้าไม่ระมัดระวังตัว

คุณหมอไม่ได้เจาะจงต่อว่าใครเป็นพิเศษว่าไม่ระมัดระวังตัว เพราะคำว่า ไม่ระมัดระวังตัว ที่คุณหมอขยายความต่อก็คือ การไม่ใส่แมสก์ อยู่ในที่แออัด ใกล้ชิด ซึ่งสถานการณ์ทั้งหมดนี้ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นการเล่นกีฬา แต่การเก็บตัวในแคมป์ การอยู่ใกล้กัน ทานอาหารร่วมกัน ก็สามารถติดเชื้อได้ แม้จะฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม

แต่ที่ทำให้คุณอรอุมาเข้าใจผิด อาจจะเป็นเพราะโพสต์ข่าวของเพจ Ch3ThailandNews ของช่อง 3 (ที่คุณอรอุมาแชร์มา) ได้ถอดคำพูดของคุณหมอออกมา “ผิด” (misquote) ถึง 2 จุดสำคัญคือ

1.ประเด็นเรื่อง “ไม่ระวังตัว” เพจข่าวช่อง 3 ถอดคำพูดคุณหมอว่า “นักกีฬาในชุดนี้จะเป็นบทเรียนอย่างดี ฉีดไปแล้วไม่ระวังตัว” แต่แท้จริงแล้วคุณหมอพูดว่า “เพราะฉะนั้นนักกีฬาชุดนี้ก็จะเป็นบทเรียนของเราอย่างดีว่า ถึงแม้ฉีดไปแล้ว แต่ถ้าไม่ระมัดระวังตัว…” (นาทีที่ 25.47)

ความหมายต่างกันเลยนะครับ ประโยคของข่าวช่อง 3 อ่านแล้วรู้สึกเหมือนคุณหมอพูดเจาะจงว่านักกีฬาวอลเลย์บอลนั้น ไม่ระมัดระวังตัว แต่ประโยคที่คุณหมอพูดหมายถึง เป็นตัวอย่างว่า ใครก็ตาม แม้ว่าว่าฉีดไปแล้ว แต่ไม่ระมัดระวังตัว ก็จะติดเชื้อได้

2.ประเด็นเรื่อง “เหงื่อ” ประโยคสำคัญที่คุณหมอพูด ผมจะขอถอดออกมาทีละคำนะครับ กรุณาฟังในนาทีที่ 26.04 ในลิงก์การแถลงข่าวด้านล่างนะครับ คุณหมอพูดว่า “การเล่นกีฬาแล้วมี … สารคัดหลั่งอะไรทั้งหลายออกมาเนี่ย ก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อได้”

ในคำพูดของคุณหมอ ไม่มีคำว่า “เหงื่อ” เลยแม้แต่น้อย คุณหมอจึงไม่ได้หมายความว่า ในการเล่นกีฬาแล้วมีเหงื่อ จะทำให้ติดเชื้อโควิด แต่อาจจะมีสารคัดหลั่งเช่นน้ำลาย น้ำมูก ติดตามพื้น อุปกรณ์ จากการพูดตะโกนกันในสนาม หรืออื่น ๆ

แต่เพจข่าวช่อง 3 กลับถอดคำพูดของคุณหมอออกมาเป็นคุณหมอพูดว่า “เหงื่อสารคัดหลั่ง” ซึ่งทั้งถอดเทปผิด และผิดหลักการทางวิชาการแพทย์ด้วย เนื่องจากโควิดนั้น ติดจาก “สารคัดหลั่ง” ตามที่คุณหมอพูดเท่านั้น และ “เหงื่อ” ไม่ใช่ “สารคัดหลั่ง” ที่มีเชื้อโควิด ดังนั้นคุณหมอจึงไม่มีทางที่จะหมายถึงว่า ติดโควิดกันทางเหงี่อแน่นอน เพราะคุณหมอทราบข้อมูลทางการแพทย์นี้ดี

“ขอเรียนชี้แจงคุณอรอุมามาตามข้อมูลนี้ และขออภัยหากมีคำพูดใดในการแถลงวันนี้ที่ทำให้คุณอรอุมาและทีมวอลเลย์บอลหญิงต้องเกิดความไม่สบายใจ ซึ่งคุณหมอก็เสียใจที่เกิดการเข้าใจผิดนี้ขึ้นครับ และผมขอให้เพจ Ch3ThailandNews แก้ไขข้อความของคุณหมอทวีศิลป์ให้ถูกต้องด้วยนะครับ”

14 พฤษภาคม 2564

จากนั้น “อรอุมา” ได้ลบโพสต์ที่แชร์แสดงความคิดเห็นออก พร้อมโพสต์ขอโทษว่า “ได้พูดคุยกับทางทีมงานของคุณหมอทวีศิลป์แล้ว ทำให้อรได้เข้าใจเพิ่มเติมจากการอ่านพาดหัวข่าวของสื่อฯ ที่ทำให้อาจเข้าใจผิดไป ซึ่งคุณหมอทวีศิลป์เองนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะกล่าวโทษผู้ใด อรต้องขออภัยคุณหมอและผู้ที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้ทุกท่านนะคะ อรขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับคุณหมอและทีมงานทุกคนด้วยนะคะ”

ขณะที่ เพจ More ทวีศิลป์ ซึ่งคาดว่า นพ.ทวีศิลป์ เป็นผู้โพสต์ ระบุว่า “ผมเป็น FC วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ขอให้หายไว ๆ สุขภาพแข็งแรงทุกคนนะครับ รักนะจุ๊บ ๆ”

ด้านช่อง 3 จบเรื่องด้วยการด้วยการได้ลบโพสต์ข่าวออก พร้อมออกแถลงการณ์ขอโทษ ขออภัยในความคลาดเคลื่อนในการนำเสนอข่าว ย้ำว่าได้สั่งกำชับให้ทีมงานระมัดระวังในการนำเสนอข่าว

“ทีมข่าว Ch3Thailandnews กราบขออภัยกับความคลาดเคลื่อนในการนำเสนอข่าว และสื่อข้อความที่ไม่ครบถ้วน จนอาจเกิดความเข้าใจผิดในสิ่งที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ได้กล่าวถึงกรณี นักวอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทย จากนี้ทีมข่าวจะกำชับทีมงาน พร้อมระมัดระวังในการนำเสนอเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นอีกในอนาคต”