คณะแพทย์ มมส. แจงปม “น้องโวลต์” เปิดรับบริจาคทุนการศึกษา

คณะแพทย์ฯ มมส.

คณบดี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ยืนยันไม่มีแผนให้ทุน “น้องโวลต์” เนื่องจากเงินบริจาคเพียงพอ ชี้แจง-ลำดับเหตุการณ์ หลังทราบเรื่อง พร้อมตรวจเยี่ยมบ้าน

วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกระแสดราม่าบนโลกออนไลน์ กรณีการเปิดรับเงินบริจาค ของนางสาวณัฐวดี หรือ โวลต์ อายุ 18 ปี นักเรียนโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ชาว ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อนำไปเป็นทุนการศึกษาต่อในคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) โดยยอดเงินทั้งสิ้นที่ได้กว่า 2.7 ล้านบาท จึงเป็นที่ตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าตัวมีฐานะยากจน สอดคล้องกับการเปิดรับบริจาคในครั้งนี้หรือไม่ หลังพบใช้ของแบรนด์เนม

ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 ที่เพจเฟซบุ๊ก ฝ่ายกิจการนิสิต คณะแพทยศาสตร์ มมส. ได้โพสต์ข้อความชี้แจงกรณีดังกล่าว จาก ผศ.นพ.เทพลักษ์ ศิริธนะวุฒิชัย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มมส. ถึงคณาจารย์ บุคลากร และนิสิตคณะแพทยศาสตร์ทุกคน โดยลำดับเหตุการณ์ต่าง ๆ ไว้ดังต่อไปนี้

  • วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 (ช่วงบ่าย) คณะฯ ดำเนินการสอบสัมภาษณ์ผู้ผ่านการคัดเลือกที่มีสิทธิ์เข้ารับการสอบสัมภาษณ์ ผ่านระบบออนไลน์
  • วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 (ช่วงเย็น) คณะฯ ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต บนเว็บไซต์ของคณะฯ
  • วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 สื่อท้องถิ่นนำเสนอข่าวการสอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามของนางสาวณัฐวดี เพื่อขอรับความช่วยเหลือเบื้องต้นจากผู้มีจิตเมตตา ทั้งนี้ “คณะแพทยศาสตร์ไม่ทราบเรื่องการขอรับความช่วยเหลือดังกล่าว” แต่อย่างใด
  • วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 คณะแพทยศาสตร์ ได้รับการติดต่อจากองค์กร มูลนิธิ และผู้มีจิตเมตตาหลายท่าน แสดงความประสงค์บริจาคทุนการศึกษาให้นางสาวณัฐวดี ซึ่งทางคณะฯ ได้ตอบปฏิเสธผู้มีจิตเมตตาทุกท่านในขณะนั้น เนื่องจากยังไม่ถึงวันยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษา (10-11 พ.ค. 64) และยังไม่ได้มีการสัมภาษณ์นิสิตเพื่อพิจารณาทุน
  • วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 มหาวิทยาลัยมหาสารคามประสานคณะแพทยศาสตร์ ขอพบนางสาวณัฐวดี เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของครอบครัวและจะได้พิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือที่เหมาะสม เนื่องจากมีกระแสคำถามบนสังคมออนไลน์เกี่ยวกับทุนการศึกษาสำหรับเด็กเรียนดีแต่ยากจน ของคณะแพทยศาสตร์และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  • วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 (ภาคเช้า) อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผู้บริหารมหาวิทยาลัย และผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ ได้พบนิสิต มารดา และคณาจารย์โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อมูล จึงได้ทราบว่ามียอดเงินบริจาคในขณะนั้น จำนวน 2.7 ล้านบาท (ซึ่งนางสาวณัฐวดีมีความตั้งใจที่จะปิดบัญชีรับบริจาคตั้งแต่วันจันทร์ แต่เป็นวันหยุดราชการ) ทางคณะแพทยศาสตร์และมหาวิทยาลัยมหาสารคามจึงไม่ได้ให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมใด ๆ แต่ได้ให้คำแนะนำในการวางแผนการใช้จ่ายตลอดการศึกษา ซึ่งทางคณะฯ ได้รายงานข้อมูลให้ผู้มีจิตเมตตาที่แสดงความประสงค์บริจาคทุนไว้ก่อนหน้านี้เพื่อทราบ ท่านได้พิจารณาและแสดงความจำนงบริจาคทุนให้แก่นางสาวณัฐวดีเป็นค่าธรรมเนียมการศึกษา จำนวนแปดหมื่นบาท ผ่านกองทุนการศึกษาและพัฒนานิสิตคณะแพทยศาสตร์
  • วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 (ภาคบ่าย) คณะแพทยศาสตร์ทราบว่า นางสาวณัฐวดีเดินทางไปปิดบัญชีที่ธนาคาร
  • วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 คณะฯ ได้ทราบกระแสข่าวบนสื่อสังคมออนไลน์ที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับการเปิดรับบริจาคเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2564 ทางคณะฯ ติดตามและรวบรวมข้อมูล
  • วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 คณะฯ ประชุมเพื่อหาแนวทางตรวจสอบข้อเท็จจริง
  • วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 (ภาคบ่าย) ตัวแทนคณะแพทยศาสตร์ ได้เดินทางไปเยี่ยมบ้านนางสาวณัฐวดี อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ พบสภาพบ้านพักอาศัยมีขนาดเล็ก ไม่เป็นสัดส่วน ไม่มีประตูบ้าน สภาพบ้านไม่ปลอดภัย

สำหรับการวางแผนการใช้เงินบริจาค คณะแพทย์ฯ ทราบว่า นางสาวณัฐวดีจะเขียนแผนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษาตลอดหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต นำเสนอให้คณะกรรมการ พิจารณาและให้ความเห็นชอบต่อไป

ทั้งนี้ คณะแพทย์ฯ ยืนยันว่า ไม่มีแผนให้ทุนการศึกษาแก่นางสาวณัฐวดีเพิ่มเติมแต่อย่างใด เนื่องจากเงินบริจาคมีจำนวนเพียงพอ แต่อย่างไรก็ตาม คณะแพทย์ฯ มีแนวทางการพิจารณาช่วยเหลือนิสิตระดับปริญญาตรีที่ประสบปัญหาขาดแคลนทุนทรัพย์ทุกหลักสูตร