ดีเจอ๋องแอ๋ง แก้เกมส์ แนะเสื้อยืดคน Anti ผู้ชายหัวฟู พื้นหลังสีฟ้า

ดีเจอ๋องแอ๋ง สบัดแผ่น แนะเสื้อยืด สำหรับกลุ่มไม่ชอบผู้ชายหัวฟู ๆ พื้นหลังสีฟ้า หลังเกิดดราม่าชุดใหญ่ 

วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกรณี นายอัษฎางค์ ยมนาค ได้โพสต์ตั้งคำถามผ่านเฟซบุ๊กถึงการนางสาว มณฑล กสานติกุล หรือ “มิ้นท์ I Roam Alone” ยูทูปเบอร์ท่องเที่ยวชื่อดัง สวมใส่เสื้อยืดชายหัวฟู ซึ่งเป็นเสื้อยืดแบบเดียวกับนายพริษฐ์ ชีวรักษ์ ว่า “แค่หาคำตอบครับ ยังไม่ได้ฟันธง มาช่วยกันหาคำตอบละกัน ว่าใช่มั้ย และ 3 คนในภาพ มีอะไรสัมพันธ์กันหรือไม่!”

จากนั้น “มิ้นท์ I Roam Alone” ได้ออกมาชี้แจงถึงการสวมใส่เสื้อดังกล่าวว่า เสื้อยืดตัวที่มีคนนำไปจากใน IG ที่เป็นผู้ชายหัวฟู ๆ พื้นหลังสีฟ้าเป็นเสื้อยืดหน้า “ดีเจอ๋องแอ๋ง สบัดแผ่น” นักร้องนำวงไปส่งกู บขส. ดู๊ ซึ่งเป็นเสื้อของวงดนตรีที่ตนเองชื่นชอบ

“วงนี้มิ้นท์ชื่นชมเพราะเป็นวงดนตรีที่ดังจากการทำการตลาดที่เก่งมาก ๆ ทั้ง ๆ ที่ร้องเพลงฟังกี่รอบมิ้นท์เองก็ยังไม่เข้าใจความหมาย คอนเสิร์ตทีไรคนมาดูเต็มไปหมด ทั้ง ๆ ที่ตอนพี่เขาร้องเพลงตัวเองในคอนเสิร์ต พี่เขาเองก็ยังจำเนื้อร้องตัวเองไม่ได้ แต่ด้วยความที่เน้นความเป็นตัวของตัวเอง ออกลายเสื้อที่แปลกแหวกไปจากคนอื่น ออกมาหลาย edition ด้วย ทำให้เสื้อหน้าพี่ดีเจอ๋องแอ๋งกลายเป็นของหายาก ออกมาทีไรก็หมด หมด หมด”

ขณะที่ เจ้าของเสื้อชื่อดังอย่าง “ดีเจอ๋องแอ๋ง” ได้แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า “ถ้าไม่โอเคกับเสื้อลายนี้ ก็ขอแนะนำสั่งเสื้อ Anti อ๋องแอ๋งได้นะครับ”

จากนั้นนายอัษฎางค์ โพสต์ถึงเรื่องนี้อีกครั้งว่า ติดตามผลงานและชื่นชมน้องมิ้นท์มาก ส่วนดีเจอ๋องแอ๋ง ถึงไม่ได้ติดตามผลงาน ก็ไม่ได้มีอคติใด ๆ

พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า “ถ้าอ่านในแคปชั่น ก็จะเห็นได้ว่า ไม่ได้มีคำวิจารณ์ ตำหนิ ให้ร้ายใด ๆ เลย เป็นเพียงการตั้งคำถาม เพราะมีแฟนเพจของผม ซึ่งเป็นแฟนคลับของน้องมิ้นท์จำนวนหนึ่ง สงสัยกัน ผมก็เอามาตั้งประเด็นเพื่อหาคำตอบ ใจจริงของผมและอีกหลายคนอยากให้คำตอบออกมาว่าน้องมิ้นท์และดีเจอ๋องแอ๋ง ไม่ เกี่ยวข้องสัมพันธ์ กับคนอ้วนตรงกลาง”

สำหรับผม ต่อให้น้องมิ้นท์และดีเจอ๋องแอ๋ง จะนิยมคนอ้วนกลางจริง ผมก็ไม่แปลกใจหรือตำหนิ ตราบใดที่ไม่เอาประเด้นทางการเมือง มาสอดแทรกในผลงานความบันเทิงของตนเองที่เผยแพร่ในสาธารณะ ผมก็จะชื่นชมน้องทั้ง 2 ต่อไป ว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่รู้จักแยกแยะ

ความเห็นและความนิยมทางการเมือง แตกต่างกันไม่แปลกและยอมรับได้ แต่ต้องแยกแยะให้ได้ว่า ตัวเราซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมจะมีผู้ติดตามผลงานของเรา ที่นิยมการเมืองที่แตกต่างกันไป

เพราะฉะนั้นเรา (ซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะในแง่ผู้ให้ความบันเทิง) ต้องไม่ชี้นำ สนับสนุนหรือต่อต้าน กลุ่มการเมืองไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด และเราต้องวางตัวเป็นกลางถึงแม้ว่าใจจะไม่เป็นกลางก็ตาม ยกเว้นว่า เราพร้อมจะออกมาเปิดหน้าสนับสนุนกลุ่มการเมืองใดๆ อย่างชัดเจน เป็นกิจลักษณะ ซึ่งนั้นก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้เช่นกัน
ผมเชื่อว่า คำอธิบายหรือคำแนะนำนี้ใช้ได้กับดารานักแสดง นักร้องนักดนตรี คนในวงการบันเทิง YouTubers Celebrity Influencer ทุกคน

“เพราะคุณคือผู้นำทางความคิด เป็นผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด เป็นผู้ที่ถูกรักและนิยม จากทุกกลุ่มคนในสังคมที่มีความนิยมในการเมืองหรือความนิยมใดๆ ที่แตกต่างกัน ดังนั้นคุณจึงควรวางตัวเป็นกลาง
ซึ่งมันจะส่งผลดีต่อชีวิตและหน้าที่การงานและผลงานของคุณ รวมทั้งเป็นผลดีต่อสังคม”


สิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ประเทศขาติพัฒนาได้ดี คือความสามัคคีของคนในชาติ ไม่ใช่ความแตกแยกในสังคม “แตกต่างได้ แต่ต้องไม่แตกแยก”