ปลาวาฬ ศรีพันวา ขู่ฟ้อง ม.112 ลูกค้ารีวิวโรงแรมจ่ายหลักแสน ไม่คุ้ม !

ปลาวาฬ ศรีพันวา

ลูกค้าเข้าพักโรงแรมศรีพันวา รีวิวจ่ายเงินหลักแสน ได้ไม่คุ้มเสีย ห้องอับ ขึ้นรา ส่งอีเมล์-หลักฐานยืนยัน เข้าพักจริง หลัง “ปลาวาฬ วรสิทธิ” ชี้เป็นรีวิวเฟกนิวส์ พร้อมขู่ฟ้อง 112 

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพ พร้อมเช็กอินที่โรงแรมศรีพันวา โรงแรมหรูในจังหวัดภูเก็ตของ นายวรสิทธิ อิสสระ หรือ ปลาวาฬ พร้อมระบุแคปชั่นว่า เข้าพัก 4 คืน เสียค่าใช้จ่าย 1 แสนกว่าบาท และหากย้อนเวลากลับไปได้ จะไม่ไปที่โรงแรมดังกล่าวเลย

“ตอนนั้นนอน 4 คืน หมดไปแสนกว่าบาทมั้ง ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ไปเหยียบที่นั่นเลยค่ะ”

ปัญหาที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวเจอ คือ ได้เข้าพักที่ห้องพักราคาเกือบ 40,000 บาท ต่อคืน แต่สภาพไม้เก่าเหมือนมีคราบน้ำและมีเชื้อราดำอยู่ที่โครงไม้ จนทำให้มีกลิ่นอับในห้อง และรับประทานอาหารในห้องไม่ได้ ต้องนำไปรับประทานที่ริมสระน้ำแทน

สาวรีวิวศรีพันวา

ต่อมา “ปลาวาฬ” ได้โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัวเพื่อชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า การรีวิวดังกล่าว เป็นเฟกนิวส์ และจะมีการดำเนินคดีกับผู้ใช้บริการรายนี้ รวมถึงมาตรา 112

ปลาวาฬ ยังระบุว่า “ผมรู้ว่าคุณคือใคร และทำไมคุณถึงทำแบบนี้ และแทนที่ว่าผมจะจัดการคุณด้วยตัวของผมเอง ผมจะใช้กฎหมายจัดการคุณ ผมจะแฉคุณ และให้คุณต้องขอโทษผมในที่สาธารณะ มิเช่นนั้นล่ะก็ ผมจะจัดของขวัญชิ้นใหญ่ให้ และคุณต้องจ่ายค่าเสียหายด้วยเงินหลักล้าน”

“ผมแค่อยากจะเตือนสติเกรียนคีย์บอร์ดว่า คุณมีปัญหาผิดคนซะแล้ว ผมอยู่บนโลกโซเชียลมีเดียมานานแล้ว ตั้งแต่ยุคเฟซบุ๊กและ hi5 อาจจะอยู่มาก่อนที่คุณเกิดซะอีก สำหรับผมแล้ว เรื่องของการรักษาความปลอดภัยบนโลกอินเทอร์เน็ต ผมก็เหมือนกับประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา และประธานาธิบดีของจีน”

“ดังนั้น ถ้าจะมีปัญหากับผม ก็เหมือนกับคุณมีปัญหากับหน่วยงานด้านการรักษาความปลอดภัยของจีน รัสเซีย และอเมริการวมกัน งั้นขอให้โชคดีนะ เพราะถ้าใครมาขู่ฆ่าผม ผมจะตามหาตัวคุณ ตามสืบว่าคุณมีรายได้จากทางไหน สร้างแอ็กหลุมจากไหน ที่ไหน และใครเป็นคนจ่ายให้ทำ แต่เพราะเราอยู่ใน land of compromise (ดินแดนแห่งการประนีประนอม) เราเลยอาจจะทำงานกันช้า แต่ทันทีที่รู้ว่าคุณคือใคร ผมอาจจะยกห้องให้คุณไปนอนฟรี ๆ ถือว่าสงสารก็ได้”

ปลาวาฬ ศรีพันวา

ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความระบุว่า มีคนได้ติดต่อไปยัง คุณปลาวาฬ แล้วบอกให้ส่งข้อมูล เพิ่มเติมให้ผ่านทางอีเมล์ พร้อมให้แจ้งวันเวลาเข้าพัก เธอจึงรีบเขียนรีวิวและความรู้สึกที่ติดค้างในใจ

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าว ระบุว่า “มีหลายคนหาว่า เราไม่ได้ไปพักจริง ๆ แต่กุเรื่องขึ้นมา สร้างข่าวปลอม (Fake new) เราขอยืนยันนอนยันเลยว่า เราคือลูกค้าที่ได้ไปพักจริง ๆ ที่เราเงียบ ไม่บอกพนักงาน หรือมารีวิวเลย ณ ตอนนั้นคือเราช็อก แล้วก็อายด้วย อายที่ว่าจ่ายค่านอนไปตั้งแพง แต่ได้สภาพห้องที่ได้รับ บรรยากาศที่ไม่โอเค แบบนี้”

“เรากลัวคนจะหาว่าเราโง่ แบบว่าจ่ายตั้งแพงแล้วทำไมมันไม่ดี มันไม่สมราคากับที่จ่ายไป เลยพยายามปล่อยผ่าน ไม่คิดอะไร เพราะคิดว่าทุกคนที่มาพักห้อง ๆ นี้ ก็คงโอเคกับสภาพราดำที่ขึ้นตรงเสาไม้ ห้องนอนมีกลิ่นอับชื้น ๆ ซึ่งเรารู้สึกว่า มันไม่โอเคจริง ๆ วันนั้นเลยต้องสั่งข้าวมากินที่ริมสระว่ายน้ำ เพราะทนกลิ่นอับไม่ไหว”

“เราอยากจะบอกว่า เกิดมาไม่เคยเจอโรงแรมที่แพงแล้วสภาพเป็นแบบนี้เลยสักครั้งในชีวิต จนเรากับเพื่อนเราที่ได้ร่วมทริปกันซึ่งตอนนั้นมันเป็นการไปเที่ยวภูเก็ตครั้งแรกในชีวิต เราเลยเลือกโรงแรมที่ดังที่สุด แล้ววิวสวยที่สุด ณ ความคิดตอนนั้น”

“จนเวลาผ่านไป ช่วงโควิดเรากับเพื่อนมาคุยปรึกษากันว่า เรารีวิวดีมั้ย เพราะมันถึงเวลาที่เราต้องออกมาพูด ออกมารีวิวแล้วแหละ เพื่อให้คนที่ยังไม่มีโอกาสมาพักที่นี่ หรือกำลังจะตัดสินใจมาพัก ได้รับรู้ถึงความรู้สึก ของคนที่ต้องจ่ายเงิน แล้วมาพักมาเจอสภาพจริง ๆ ของห้อง ๆ นี้ แล้วถามว่าทำไมไม่ไปรีวิว ในเพจหลักของเขา ??? คือเพจเขาไม่เปิดให้คนมารีวิวไงคะ เราก็เลยพยายามไปรีวิวเพจอื่นเพจต่าง ๆ เพื่อส่งต่อความรู้สึก ประสบการณ์ที่ได้มาพักที่นี่ ตอนนี้ถ้าคนอื่นมาเราถามว่า มึง ๆ ไปนอนศรีพันวามาดีมั้ยซิส”

“นี่ก็จะบอกเพื่อนว่า มึงอย่าไปเลยค่ะ มันไม่ต๊าช สภาพ คือบ่าได้เลย พักก๊อน หนีไป๊ลูกกกก มึงให้กูกะเพื่อนดูเป็นคนที่พลาด ผิดหวัง ณ ตอนนั้นไปเถอะ ไปหาโรงแรมอื่นที่ใหม่แล้วดีกว่านี้ดีกว่า ประมาณนี้เลยค่ะ… ปล. ไม่ใช่มีแค่เราที่รู้สึกแบบนี้ ยังมีเพื่อนคนอื่นที่ได้ไปพักมารีวิวใต้โพสต์ที่ลง ว่ามันไม่ดี มันแย่ มันไม่สมราคาที่จ่ายไปยังไง ลองไตร่ตรองดูเอาเองนะคะ..”

ปลาวาฬ ศรีพันวา

นอกจากนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าว ยังได้โพสต์ภาพถ่ายที่มีระบุวันที่ในอัลบั้มรูป เพื่อยืนยันอีกด้วย