ดราม่าลงเอยสลด ผู้คุมหญิงสหรัฐ พานักโทษคดีอุกฉกรรจ์หนีคุก จบชีวิต

ผู้คุมหญิงสหรัฐ
(U.S. Marshals Service, Lauderdale County Sheriff's Office via AP)

คดีที่เป็นกระแสดราม่า ผู้คุมหญิงสหรัฐ พานักโทษชาย หนีคุก ทำให้ผู้คนโพสต์วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ลงเอยเป็นโศกนาฏกรรมแล้ว เมื่อฝ่ายหญิงปลิดชีพตนเอง

วันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ซีเอ็นเอ็น รายงานความคืบหน้าคดีเจ้าหน้าที่หญิงสำนักงานเขตรัฐแอละแบมา มีตำแหน่งระดับสูง เป็นถึงรองผู้อำนวยการทัณฑสถาน กลับช่วยนักโทษชายหนีจากคุกด้วยความสเน่หา 

น.ส.วิกกี ไวต์ อายุ 56 ปี รองผู้อำนวยการทัณฑสถาน เขตลอเดอร์เดล ผู้พานายเคซีย์ ไวต์ นักโทษที่รอขึ้นศาลคดีฆาตกรรม อายุ 38 ปี (นามสกุลทั้งสองคนเหมือนกันแต่ไม่เกี่ยวข้องกันมาก่อน) หนีคุกนาน 11 วัน ล่าสุด เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาล 

ผู้คุมหญิงสหรัฐ
ตั้งเงินรางวัลล่า น.ส.ไวต์

เดฟ เวดดิง นายอำเภอเขตแวนเดอร์เบิร์จ ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นว่า น.ส.ไวต์ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในสภาพมีบาดแผลร้ายแรงมากจากการยิงตัวเอง จังหวะที่ถูกเจ้าหน้าที่ไล่ล่าและจับกุมได้ที่เมืองอีแวนส์วิลล์ รัฐอินเดียนา

น.ส.ไวต์ถูกออกหมายจับพร้อมนายเคซีย์ ไวต์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 พ.ค. หลังจากทั้งสองหนีออกจากเรือนจำไปด้วยกัน ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 29 เม.ย. การสอบสวนพบว่าทั้งสองวางแผนการหนีโดยไตร่ตรองและเตรียมการไว้ก่อน น.ส.ไวต์ถูกตั้งเงินรางวัลนำจับ 5,000 ดอลลาร์ ส่วนนายไวต์มีค่าหัว 10,000 ดอลลาร์ ต่อมามีการเพิ่มเงินรางวัลเป็น 10,000 และ 15,000 ดอลลาร์ ตามลำดับ

หมายจับนายไวต์

แผนการแหกคุกดังกล่าว เริ่มต้นจากการที่ผู้คุมหญิงอ้างว่าจะพานายไวต์ไปประเมินสุขภาพจิต โดยพานักโทษชายขึ้นรถออกไปตามลำพัง ซึ่งเป็นการกระทำผิดระเบียบว่าต้องมีเจ้าหน้าที่ควบคุม 2 คนขึ้นไป จากนั้นเพื่อนร่วมงานติดต่อน.ส.ไวต์ไม่ได้ ตรวจสอบพบว่าไม่ได้มีหมายนัดตามที่กล่าวอ้าง จนแน่ใจว่าทั้งสองตั้งใจหนีไปด้วยกัน ต่อมาพบรถยนต์ของน.ส.ไวต์ถูกจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้า

คนในครอบครัวและเพื่อนร่วมงานของฝ่ายหญิงต่างสับสนและงุนงงมาก ที่น.ส.ไวต์มีส่วนพานักโทษหนี ทั้งที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำงานให้สำนักงานเขตมานานกว่า 16 ปี ส่วนนายไวต์ต้องโทษจำคุกอยู่แล้วถึง 75 ปี ฐานพยายามฆ่าและยังก่อคดีอาชญากรรมอื่นอีกมาก

ฉันนึกภาพไม่ออกเลยว่า วิกกี้ไปกับคนแบบนั้น” นางฟรานเซส ไวต์ อดีตแม่สามีของน.ส.ไวต์ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ซึ่งยังคงเอ็นดูอดีตสะใภ้ที่หย่าร้างกับลูกชายของเธอไปแล้ว และลูกชายเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อต้นปีนี้

นางฟรานเซสกล่าวว่า อดีตลูกสะใภ้เป็นคนใจดี และต้องการช่วยคนอื่นอยู่เสมอ เพียงแต่บางครั้งก็ถลำเอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องมากเกินไปจนกลายเป็นปัญหากับตัวเอง

จากคำบอกเล่าของนางฟรานเซส น.ส.ไวต์ไม่มีลูก และเมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งขายบ้านตัวเองบนที่ดิน 12 ไร่ มีทั้งโรงนาและรถพ่วง หลังจากซื้อไว้เพื่ออยู่ใกล้ๆ พ่อแม่ แต่ต่อมารู้สึกว่าบ้านหลังใหญ่เกินไปสำหรับคนที่อยู่คนเดียว

ก่อนพาชายคนรักที่เป็นนักโทษหนี น.ส.ไวต์ขายบ้านได้ในราคา 95,500 ดอลลาร์ หรือราว 3.2 ล้านบาท เพียง 12 วันก่อนจะหายไปกับนายไวต์ ราคาดังกล่าวถือว่าต่ำกว่าราคาตลาดของบ้านในบริเวณนั้น

ส่วน นายริก ซิงเกิลตัน นายอำเภอเขตลอเดอร์เดล กล่าวว่า น.ส.ไวต์แจ้งตนก่อนก่อเหตุว่า วางแผนจะเกษียณไว้แล้ว และคาดว่าวันที่หายตัวไปนั้นคือวันที่เจ้าหน้าที่หญิงทำงานวันสุดท้าย

ผู้คุมหญิงสหรัฐ
กล้องวงจรปิดยืนยันชัด ผู้คุมหญิงพานักโทษออกไปเอง

“การกระทำแบบนี้ไม่ใช่วิกกี้ ไวต์ที่พวกเรารู้จัก ไม่แม้แต่น้อยนิดที่เราจะคาดคิดถึง” นายอำเภอซิงเกิลตันกล่าว

สำหรับการล่าตัวครั้งนี้ สำนักงานตำรวนระบุว่า ทั้งสองอาจใช้รถฟอร์ด เอดจ์ ปี 2007 สีส้มหรือทองแดง มีรอยเสียหายตรงท้ายรถฝั่งซ้าย นอกจากนี้ตัวนายเคซีย์ ไวต์ น่าจะเป็นที่สังเกตได้ง่าย เพราะสูงถึง 2.06 เมตร

ระหว่างการตามล่าตัว ตำรวจมีคำเตือนประชาชนทั่วไปด้วยว่า ไม่ควรเข้าใกล้คนทั้งสอง เนื่องจากมีอาวุธติดตัวอยู่ด้วย เป็นปืนไรเฟิล AR-15 ปืนพก และปืนสั้น ล้วนถือเป็นอาวุธอันตราย

ภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นนายไวต์นำรถไปล้างที่อู่เมืองอีแวนส์วิลล์ รัฐอินเดียนา

ต่อมาวันที่ 9 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยแพร่ภาพบุคคงต้องสงสัยว่าเป็นนายเคซีย์ ไวต์ นำรถไปอู่ล้างรถที่เมืองอีแวนส์วิลล์ เป็นครั้งแรกที่พบเบาะแส จากนั้นเมื่อตำรวจตรวจกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง พบน.ส.วิกกี ไวต์ ใส่วิกปลอมอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง

เมื่อทั้งสองขึ้นรถไปด้วยกัน ตำรวจจึงขับรถไล่ตาม และสุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องขับรถพุ่งชนรถคาดิแลคของทั้งสองจนกระเด็นพลิกคว่ำ จังหวะที่จะเข้าไปนำตัวทั้งสองออกมา น.ส.ไวต์ใช้ปืนยิงศีรษะตัวเองภายในรถ ส่วนนายไวต์พยายามดิ้นรนจะช่วยหญิงคนแรก แต่ช่วยไม่ทันแล้ว

สภาพรถที่คนรักขับหนีตำรวจ แต่ไม่รอดถูกพุ่งชนกลางลำ / CNN

นายอำเภอซิงเกิลตันเผยว่าจะนำตัวนายเคซีย์ ไวต์ กลับรัฐแอละแบมา เพราะอยู่ระหว่างการรับโทษจำคุก จากคดีพยายามฆ่า ปล้น และลักขโมย  ทั้งยังอยู่ระหว่างการต้องคดีแทงผู้หญิง อายุ 58 ปีถึงแก่ความตายอีกคดี

“ผมคาดไว้แล้วว่าเรื่องจะจบลงแบบนี้ ผมรู้ว่าเราจะจับพวกเขาได้ในที่สุด ขึ้นอยู่แค่ว่าเวลาใดเท่านั้น คนที่หนีคุกส่วนใหญ่แล้วจะไปไหนไม่รอด การหนีคุกครั้งนี้ พวกเขาเตรียมการมาอย่างดี มีเงินสด มีพาหนะ มีทุกอย่างที่จะไว้สำหรับหนี ส่วนเราต้องเริ่มนับตั้งแต่ศูนย์ และเมื่อเราเริ่มไล่ล่า พวกเขาจะนำเราไปแล้ว 6 ชั่วโมง” ซิงเกิลตัน นายอำเภอเขตลอเดอร์เดล กล่าว