บอร์ดมรดกภูมิปัญญาฯ เผยความคืบหน้าเสนอ “ต้มยำกุ้ง” ขึ้นบัญชียูเนสโกภายในมีนาคม 2563  

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ครั้งที่ 5/2562 ว่า ที่ประชุมได้รับรายงานความคืบหน้าการเตรียมเสนอ “ต้มยำกุ้ง” เพื่อขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติต่อยูเนสโกให้ทันภายในเดือนมีนาคม 2563

ด้านกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) รายงานว่า ได้ดำเนินการจัดประชุมคณะทำงานด้านการจัดทำข้อมูลมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับอาหารไทย เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 โดยสาระของ ต้มยำกุ้ง จะเกี่ยวข้องกับมรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ใน 3 สาขา คือ สาขาภาษาและมุขปาฐะ สาขาแนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรมและงานเทศกาล สาขาความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล

คำว่า ต้มยำกุ้ง เป็นคำโดดในภาษาไทย มาจากคำว่า ต้ม และ ยำ ซึ่งมีความหมายที่แสดงกระบวนการทำอาหาร แสดงอัตลักษณ์ความเป็นไทย เป็นอาหารของคนภาคกลาง ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชุมชนที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำ มีวัฒนธรรมการบริโภคอาหาร ด้วยการนำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาใช้การประกอบอาหาร เช่น กุ้งในแม่น้ำ ต้มลงในน้ำเดือด ปรุงรสด้วยสมุนไพรต่าง ๆ รับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ช่วยรักษาสมดุลของร่างกายได้

นายวีระ เปิดเผยต่อว่า เพื่อให้ตรงกับเกณฑ์การพิจารณาของยูเนสโก ต้องมีการจัดเตรียมข้อมูลให้รอบด้าน โดยกำหนดชุมชนที่เกี่ยวข้องกับต้มยำกุ้งให้ชัดเจน และสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน (public hearing) ในการจัดทำมาตรการเพื่อการสงวนรักษา

จากการประชุมคณะทำงานด้านการจัดทำข้อมูลฯ พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย สถาบันการศึกษาที่สอนเรื่องต้มยำกุ้ง สมาคมผู้ประกอบการ ผู้ได้รับรางวัลเกี่ยวกับต้มยำกุ้ง และชุมชนที่เกี่ยวข้องกับการทำเครื่องต้มยำหรือปลูกสมุนไพรพบว่า ในส่วนชุมชนมีการสืบทอดและพัฒนาสร้างสรรค์การทำต้มยำกุ้งอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับครอบครัว ชุมชน ร้านอาหาร และสถาบันการศึกษาทั้งในและนอกระบบที่มีการเรียนการสอน ทำให้สามารถอ้างอิงข้อมูลได้

เมื่อมีการรวบรวมข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องรอบด้านแล้ว จึงเข้าสู่ขั้นตอนจัดทำเอกสารตามแบบฟอร์ม พร้อมสื่อต่าง ๆ เช่น ภาพถ่ายและวีดิทัศน์ จากนั้นจะเสนอให้คณะอนุกรรมการพิจารณาและขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดก ฯ และนำเสนอคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติและเสนอคณะรัฐมนตรี และจะยื่นเอกสารต่อยูเนสโก ภายใน 31มีนาคม 2563 เพื่อเข้าสู่รอบการพิจารณาต่อไป