Chloe นำเสนอเสน่ห์สาวฝรั่งเศสยุคคลาสสิก
โคลเอแบรนด์เครื่องหนังเจ้าดังเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่พร้อมกับเปิด “โคลเอ ป๊อป อัพ สโตร์” ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี คอลเล็กชั่นนี้เลือกหยิบสไตล์สาวฝรั่งเศสยุคคลาสสิกเป็นแรงบันดาลใจในครั้งนี้ นำเสนอเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นใหม่
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ด้วยซิลูเอตที่หรูหรา มาในโทนสีอย่างสีเหลืองทอง สีเหลืองดอกดาวเรืองตัดกับสีกรมท่า และสีเขียวอ่อนผสานความพลิ้วไหวที่ดัดแปลงมาจากสไตล์ฝรั่งเศสยุคคลาสสิกเพื่อส่งต่อจิตวิญญาณอันชวนฝันของแบรนด์
ส่วนกระเป๋านำเสนอรุ่น Tess ทำจากหนัง SPAZZOLATO SFUMATO ไล่โทนสีด้วยเทคนิคการปัดสีให้กลมกลืนกันสร้างมิติให้กับกระเป๋าและหนังปั๊มลายจระเข้ให้ความหรูหราสไตล์เอ็กโซติกด้วยรูปลักษณ์การดีไซน์ที่ดูโมเดิร์น โฉบเฉี่ยว โดดเด่นด้วยห่วงกลมที่เป็นซิกเนเจอร์ประจำแบรนด์และสายสะพายยาวปลดปล่อยการสะพายของหญิงสาวให้พลิ้วไหวอย่างอิสระ และกระเป๋ารุ่น ROY มาพร้อมกับความเงางามของหัวเข็มขัดอักษร C ติดเข้ากับกระเป๋าหนังเนื้อด้านและหนังเนื้อมันวาว ฮาร์ดแวร์ทำจากโลหะสองสีให้ความรู้สึกสปอร์ตแต่ยังคงความคลาสสิกไว้ด้วย
ASV ความงามนอกขนบแบบแอฟริกัน
เอเอสวีเลือกผสานกลิ่นอายแอฟริกันในคอลเล็กชั่นใหม่ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือรวมภาพถ่ายชุด FARM ของช่างภาพชื่อดังแจ็กกี้ นิกเกอร์สัน ซึ่งบอกเล่าถึงความสวยงามของแอฟริกาที่ไม่ได้ดำเนินไปตามขนบและศักยภาพในการสร้างสรรค์ของมนุษย์ ก่อให้เกิดคอลเล็กชั่นล่าสุดที่มีชื่อตามหนังสือ FARM เปรียบเสมือนการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ออกไปสำรวจสิ่งใหม่ ๆ เปิดรับและเข้าใจในวัฒนธรรมที่แตกต่าง สร้างตัวตนผ่านการหยิบจับและผสานสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
คอลเล็กชั่นนี้เลือกใช้โครงเสื้อที่ผสมผสานความเป็นมาสคิวลีนและเฟมินีนเข้าด้วยกัน ทั้งชิ้นเบสิกของแบรนด์อย่างเสื้อไหล่เดียว (one-shoulder blouse), เคปเบลาส์ (cape blouse) และเคปเดรส (cape dress) หรือชุดที่ผสมผสาน
อิทธิพลของสปอร์ตแวร์ เน้นฟังก์ชั่นการสวมใส่ที่สบายและทะมัดทะแมงอย่างจัมป์สูท (jumpsuit), คาร์โก้แพนต์ (cargo pants)หรือแทร็กสูท (tracksuit) บวกกับกางเกงผ่าข้างทรงโสร่ง (wrap pants) และกางเกงทรงบูตคัต (bootcut pants) ที่เพิ่มเข้ามาเป็นชิ้นเบสิกใหม่ สามารถจับมิกซ์แอนด์แมตช์กับเสื้อผ้าชิ้นอื่นในคอลเล็กชั่นได้อย่างกลมกลืนและที่ขาดไม่ได้คือโครงชุดคลาสสิก ซึ่งถือเป็นซิกเนเจอร์สำหรับเอเอสวีอย่างชุดนอน (pajamas) ที่เพิ่มเติมดีเทลสปอร์ตและเฟมินีน บ่งบอกถึงเสน่ห์ในแบบผู้ชายและความอ่อนหวานแบบผู้หญิงอย่างลงตัว
ส่วนเนื้อผ้าและสีสันนำกลิ่นอายและอิทธิพลของความเป็นแอฟริกามาผสมผสานเข้ากับความร่วมสมัยในสไตล์เอเอสวีให้เหมาะกับการเดินทางท่องเที่ยวฤดูร้อน ไม่ว่าจะเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์อย่างผ้าลายริ้วต่าง ๆ ทั้งผ้าคอตตอนลายริ้ว (cotton stripe), ผ้าแจ็กการ์ดทอลายริ้ว(jacquard stripe), ผ้าไหมพรมทอพิเศษ รวมไปถึงผ้าที่ให้ความรู้สึกอ่อนหวานอย่างผ้าลูกไม้ (lace), ผ้าออร์แกนซาทอลายดอกซ้อนทับผ้าลายริ้ว (embroidered organza)ผ้าลายตารางสีพาสเทล (gingham) ผนวกเข้ากับผ้าซึ่งทำขึ้นพิเศษสะท้อนกลิ่นอายของแอฟริกาอย่างผ้าโปร่งปักลวดลายเสือ (embroidered tulle)
ส่วนโทนสีมีการผสมผสานเกิดเป็นโทนสีพิเศษที่ช่วยเสริมให้คอลเล็กชั่นมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นอย่างสีเหลืองไลม์ไลต์, สีส้มแทนเจอรีน สีฟ้าโคโลนี, สีน้ำเงินสนอร์เคิลบลู, สีฟ้าคราม, สีม่วง และโทนสีที่ขาดไม่ได้คือโทนสีคลาสสิกของแบรนด์อย่างสีขาว, สีดำ, สีเบจ, สีน้ำเงินกรมท่า และสีเขียวโอลีฟ
LOEWE แรงบันดาลใจจากงานสถาปัตยกรรม
โลเอเว่หยิบเอาแรงบันดาลใจจากอิทธิพลของกลุ่มงานสถาปัตยกรรมบรูเทลิส เฮโดนิซึ่ม ที่เน้นความงามของวัสดุธรรมชาติมานำเสนอ มีการนำสีสันจากพาลเลตสีน้ำหมึก ปลอกคอตกแต่งแส้หนังเอ็กโซติกรูปโครงเส้น เป็นอีกหนึ่งการยกระดับระหว่างเสื้อผ้าและผืนหนังแขนเสื้อ
แบบบิชอป ทรงกระดิ่ง และจูเลียตปรากฏบนชุดท่อนบนแบบ ruched และเสื้อกันหนาวชาวประมง ในขณะที่เทคนิค crinkled ถูกนำไปใช้กับผ้าวาฟเฟิลแจ็กการ์ด และหนังแกะรวมเข้าด้วยกัน
ไอเท็มในคอลเล็กชั่นมีทั้งเสื้อคลุมตาข่ายตกแต่งขนนกกระจอกเทศ
ฟูฟ่องซ้อนทับเลเยอร์กับเสื้อเชิ้ตผ้ากาบาร์ดีน ผ้าพันคอฟรินจ์สำเร็จรูปที่เย็บติดกับชุดทูนิกและเบลาส์ มีการบุนวมด้านในหลาย ๆ ชุดเพื่อเสริมโครงชุดให้มีกลิ่นอายความเป็นมาสคิวลีน ชุดเดรสผ้าพ็อปลิน และผ้าปักลายดอกไม้สีขาว รวมถึงผ้าคอตตอนเนื้อนุ่มที่ถูกตัดเย็บเข้ากับหนังกลับ (suede) อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
นอกจากนี้ ผลงานของโจ ฮอแกน ศิลปินชื่อดังยังถูกนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบเครื่องหนังและเครื่องประดับในคอลเล็กชั่นนี้ด้วย อาทิ กระเป๋ารุ่นพัซเซิลที่ทำด้วยหนังลูกวัวสาน และกระเป๋าเกสทำจากวัสดุธรรมชาติอย่างราฟเฟีย ส่วนกระเป๋าที่เพิ่มเข้ามาในคอลเล็กชั่นนี้คือกระเป๋ารุ่นไคท์
COS เชิ้ตขาวที่สร้างสรรค์แบบเหนือชั้น
แบรนด์ดังจากลอนดอนไม่ได้ส่งไอเท็มใหม่ออกมาในนามคอลเล็กชั่นสปริง/ซัมเมอร์ แต่เปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ในช่วงนี้พอดี และก็เป็นคอลเล็กชั่นที่เหมาะกับการสวมใส่ในฤดูร้อน นั่นก็คือ
The White Shirt Project เป็นคอลเล็กชั่นเสื้อเชิ้ตสีขาวที่นำเสนอออกมาเอาใจทั้งชายและหญิง โดยเป็นเสื้อผู้ชาย 3 แบบ และผู้หญิง5 แบบ
คอลเล็กชั่น The White Shirt Project นี้ ทีมดีไซเนอร์และช่างตัดเย็บของ COS ครีเอตไอเดียร่วมกัน โดยอิง nonlinear creativeprocess หรือขั้นตอนการออกแบบชิ้นงานจากการปะติดปะต่อจินตนาการของผู้ออกแบบเข้าด้วยกัน และถ่ายทอดความสัมพันธ์ผ่านชิ้นงาน ผสมผสานเทคนิคการตัดเย็บเหนือชั้นอย่าง 3D draping หรือการจับจีบที่สลับซับซ้อน โดย COS เริ่มต้นจากการนำเสื้อเชิ้ตสีขาวมาเลาะรูปทรง และรังสรรค์ผลงานขึ้นมาใหม่จากผ้าชิ้นเดิม
แต่ละไอเท็มสะท้อนดีไซน์ที่เรียบง่ายและการตัดเย็บที่ละเอียดประณีตอันเป็นเอกลักษณ์หลักของแบรนด์ เล่าเรื่องราวผ่านแพตเทิร์น
สบาย ๆ ที่ไม่เน้นสัดส่วน นอกจากนี้ ยังเน้นความเป็นซิลูเอตและความคลาสสิกเฉพาะตัวของเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ไม่ว่าจะสวมใส่ชิ้นเดี่ยวหรือเข้าคู่กับชิ้นอื่นก็สามารถทำได้ง่าย เข้าได้กับทุกสไตล์
