รุจิรา สันตโยภาส จากคนไม่สนใจแฟชั่น สู่แชมป์เวทีออกแบบ

“ถ้าเราไม่จำกัดตัวเองก็จะพบว่ายังมีสิ่งที่เราทำได้อีกมาก” คำพูดจาก mindset ของ ยุพิณ-รุจิรา สันตโยภาส หญิงสาววัย 26 ปี ที่คว้ารางวัลชนะเลิศ Sakura Collection Thailand 2019 และได้นำผลงานไปโชว์ถึงแดนอาทิตย์อุทัย พร้อมทั้งได้ใกล้ชิดดีไซเนอร์ระดับโลกมาแล้ว แต่เบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้ก็น่าแปลกใจไม่น้อย เมื่อเธอบอกว่า ก่อนหน้าที่จะส่งชุดเข้าประกวดเพียง 1 เดือน

เธอเพิ่งตัดเย็บเป็นแค่กระโปรงทรงเอเท่านั้น และนั่นก็ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเธอได้ทำอย่างที่เธอพูด

เส้นทางของดีไซเนอร์มือใหม่คนนี้แตกต่างจากดีไซเนอร์คนอื่น เพราะเธอไม่ได้สนใจแฟชั่นเครื่องแต่งกายมาตั้งแต่เด็กเหมือนดีไซเนอร์ส่วนใหญ่ แต่เธอสนใจงานออกแบบสิ่งก่อสร้างมากกว่า จึงเลือกเรียนปริญญาตรีสาขาออกแบบภายใน

คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร หลังจากเรียนจบก็ทำงานเป็น Store Planning & Maintenance Executive ดูแลการตกแต่งร้านของแบรนด์แฟชั่นระดับโลกอย่าง CHANEL ซึ่งในช่วงเวลาที่ทำงานกับ CHANEL มาจนถึงปัจจุบันนั่นเองที่เป็นจุดเปลี่ยนให้เธอหันมาหลงใหลแฟชั่น จากนั้นยุพิณตัดสินใจจะพัฒนาตนเองไปอีกขั้นด้วยการเรียนด้านออกแบบแฟชั่นอย่างจริงจังที่สถาบันออกแบบนานาชาติ

ชนาพัฒน์ (CIDI Chanapatana) สถาบันการศึกษาแห่งเดียวในประเทศไทยที่ผ่านการคัดเลือกให้อยู่ในสมาคม Cumulus หรือเครือข่ายนานาชาติหนึ่งเดียวที่เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และงานวิจัยด้านการออกแบบจากทั่วโลก

ADVERTISMENT

เมื่อถามถึงการประกวด Sakura Collection Thailand 2019 ที่คว้ารางวัลชนะเลิศมา รุจิราเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า
ด้วยความที่เป็นงานแข่งขันงานแรก เธอจึงได้ลองผิดลองถูกจนเกิดสิ่งใหม่ ๆ ณ ตอนที่เข้าประกวดนั้น เธอทำเป็นอย่างเดียวคือกระโปรงทรงเอ แต่เมื่อตัดสินใจทำไปแล้วก็ต้องต่อไปให้สุด

“มันเหนือความคาดฝันจริง ๆ จากการฝ่าฟันผู้เข้าแข่งขันร่วม 100 คน และการสร้างผลงานในช่วง 1 เดือนสุดท้าย ต้องฝึกการเอาตัวรอด ประยุกต์ใช้ทุกอย่างที่เรามี mindset เราควรเริ่มจากจุดที่ว่า อย่าคิดว่าอะไรเป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถดึงสิ่งที่เรามีอยู่ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดหรือไม่ อย่าคิดว่า เพราะความไม่มีจึงไม่ทำ”

ADVERTISMENT

สำหรับผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ยุพิณบอกว่า เธอได้แรงบันดาลใจมาจากดาบคาตานะ หลังจากไปเที่ยวที่โตเกียวทาวเวอร์

“เวลาหาคอนเซ็ปต์อะไรสักอย่างต้องมองให้ลึก หาดีเทลว่ามันมีมากกว่าสิ่งที่มองเห็น มีสิ่งที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น มุมมองอาจจะแตกต่างกันไปตามกระบวนการความคิดของแต่ละคน” เธออธิบายรายละเอียดว่า ดาบคาตานะมีความพิเศษตรงที่ข้างในอ่อน ข้างนอกแข็ง ต้องผ่านการตีหนึ่งหมื่นชั้น เหมือนจิตใจมนุษย์ที่ข้างนอกแข็งแกร่ง แต่ข้างในอ่อนโยน

“งานดีไซน์บางครั้งไม่ได้มาจากอะไรที่ยิ่งใหญ่เลย แต่กลับเป็นสิ่งที่เราพบเจอในชีวิตประจำวันแค่เราต้องตีค่าของมันให้ได้”

จากเด็กที่ไม่เคยสนใจแฟชั่น มาถึงวันที่ประสบความสำเร็จกับก้าวแรกในเส้นทางสายแฟชั่น เมื่อมองไปถึงอนาคตยุพิณก็วาดฝันอยากมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง และการได้ไปเรียนต่อที่อิตาลีก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายในชีวิต อย่างไรก็ตาม เธอก็มองถึงความเป็นจริงว่า ต้องทำงานประจำหาเงินไปด้วยเพื่อจะได้ส่งเสริมความฝันทางด้านแฟชั่น

“ถ้าเราไม่ทำงาน เราจะเอาเงินจากไหนมาทำสิ่งที่เรารัก ถ้าคิดว่า นี่คือความฝัน ต้องลาออกจากงานมาทำก็คงไม่ใช่ขอเพียงทุกวันนี้เราคิดอะไรก็ทำเลย อย่ามีข้ออ้างเยอะ ถ้าเราหลงใหลอะไรจริง ๆ เราต้องมีเวลาทุ่มเทให้มันแน่ ๆ ทุกครั้งที่ปล่อยเวลาล่วงเลยไป อาจทำให้เราเสียใจทีหลังว่าทำไมไม่ทำตอนนั้น ทำไปให้สุด ลองไปเลย น่าจะดีกว่า”