M PICTURES (เอ็ม พิคเจอร์ส) ปล่อยหมัดเด็ดเอาใจแฟนหนังของผู้กำกับ วู้ดดี้ อัลเลน ด้วยการจัดเทศกาล “WOODY ALLEN FESTIVAL” ที่จะนำภาพยนตร์ทั้ง 4 เรื่องที่เคยฝากความประทับใจแก่คอหนังให้กลับมาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์อีกครั้ง ประกอบด้วย Everyone Says I Love You (1996), The Curse of the Jade Scorpion (2001), Magic in the Moonlight (2014) และ Café Society (2016) ก่อนนับถอยหลังพร้อมกันสู่นิยามรักครั้งใหม่ใน “Wonder Wheel” (2018) ที่มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้
เริ่มโปรแกรมแรกด้วย Everyone Says I Love You (เอฟวรี่วัน เซย์ ไอ เลิฟ ยู) ภาพยนตร์มิวสิคัลเรื่องแรกและเรื่องเดียวของ วู้ดดี้ อัลเลน ที่รวมนักแสดงแถวหน้าของวงการไว้อย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น จูเลีย โรเบิร์ตส, เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน, ดรูว แบร์รี่มอร์, วู้ดดี้ อัลเลน, ทิม รอธ, โกลดี้ ฮอว์น และ นาตาลี พอร์ตแมน ในเรื่องราวที่พูดถึงความรัก มิตรภาพ ความปวดร้าว และการลาจาก ซึ่งถูกเรียงร้อยด้วยเสียงเพลง และเล่าผ่าน 3 มหานครใหญ่ อย่าง นิวยอร์ค ปารีส และ เวนิส
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
ต่อด้วย The Curse of the Jade Scorpion (เดอะ เคอร์ส ออฟ เดอะ เจด สกอเปี้ยน) ผลงานที่วู้ดดี้ อัลเลน กำกับและนำแสดงเอง ว่ากันว่าเป็นหนังที่ตลกที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตการทำงานของเขา เป็นเรื่องราวในยุค 40s ของ ซีดับบลิว บริคส์ (วู้ดดี้ อัลเลน) ผู้ตรวจสอบคนเคลมประกัน แต่ด้วยวิธีการสืบสวนอันแสนล้าสมัย ทำให้เขาทะเลาะกับ เบตตี้ แอนน์ ฟิตเจอรัลด์ (เฮเลน ฮันท์) เจ้าหน้าที่วัดระดับพนักงานเป็นประจำ แต่แล้วพวกเขาก็ต้องพัวพันกับแผนการโจรกรรม เมื่อถูกนักมายากลใช้ “หยกแมงป่อง” สะกดจิตทั้งคู่ให้ทำการขโมยเพชรมูลค่านับล้านเหรียญ
ถัดมาที่ Magic in the Moonlight (เมจิค อิน เดอะ มูนไลท์) ภาพยนตร์รักโรแมนติกเปี่ยมอารมณ์ขัน เรื่องราวของ สแตนลี่ย์ (โคลิน เฟิร์ธ) หนุ่มอังกฤษที่มีอาชีพเป็นนักมายากล แต่เขาก็ยังมีอีกหนึ่งอาชีพก็คือการเปิดโปงนักต้มตุ๋น เขาได้รับคำขอร้องจากเพื่อนให้เดินทางไปที่คฤหาสน์หรูในเมืองทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เพื่อเปิดโปงโซฟี (เอมม่า สโตน) ผู้หญิงอเมริกันที่อ้างว่าสามารถติดต่อกับวิญญาณได้ สแตนลี่ย์ เข้าไปตีสนิทกับเธอโดยหวังว่าจะจับพิรุธได้แบบคาหนังคาเขา แต่ยิ่งเขาได้รู้จักเธอมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกเชื่อในสิ่งที่เธอกล่าวอ้าง และยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าเขากำลังตกหลุมรักเธอซะด้วย
ปิดท้ายที่ Café Society (คาเฟ่ โซไซตี้) ความรักหวานชื่นปนขมขื่นที่นำเสนอเรื่องราวย้อนยุคกลับไปยังปี 1930 ของบ๊อบบี้ (เจสซี ไอเซนเบิร์ก) ชายหนุ่มผู้ใฝ่ฝันจะทำงานในวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูด เขาทำงานให้แก่ ฟิล (สตีฟ คาเรล) คุณลุงผู้จัดการดารา แล้วก็ดันตกหลุมรักวอนนี่ (คริสเตน สจ๊วต) เลขาส่วนตัวของฟิล และแล้ว ณ ที่แห่งนั้นเองได้เรียนรู้บทเรียนชีวิตในฮอลลีวูดแบบคาดไม่ถึง
ส่วน “Wonder Wheel (วันเดอร์ วีล)” ผลงานที่ 48 ของวู้ดดี้ อัลเลน เป็นภาพยนตร์โรแมนติกดราม่า ที่จะบอกเล่าเรื่องราวความรักสุดแสนอลหม่านที่เกิดขึ้นในสวนสนุกบนเกาะ โคนี่ย์ ไอส์แลนด์ ปี 1950 เมื่อไฟรักระหว่างคู่สามีภรรยา จินนี่ (เคท วินสเล็ต) และ ฮัมพ์ตี้ (จิม เบลุชชี่) เริ่มมอดลง ทำให้เธอรู้สึกเบื่อหน่ายในชีวิตคู่ แต่วันหนึ่งความรักได้ถูกจุดประกายขึ้นอีกครั้งเมื่อจินนี่ได้พบกับ มิคกี้ (จัสติน ทิมเบอร์เลค) ไลฟ์การ์ดหนุ่มสุดฮอตประจำชายหาด ขณะเดียวกันมิคกี้ก็ได้เผชิญกับรักแรกพบของแครอไลน่า (จูโน่ เทมเปิ้ล) หญิงสาวผู้หลบหนีจากการตามล่าของเหล่ามาเฟีย มิหนำซ้ำเธอยังเป็นลูกสาวของฮัมพ์ตี้ สมรภูมิแห่งรักนี้จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวสุดแสนอลวนและนิยามของความรักที่ไม่มีใครให้คำตอบได้
สำหรับรอบฉายของภาพยนตร์ในเทศกาล WOODY ALLEN FESTIVAL จะเริ่มโปรแกรมฉายตั้งแต่วันเสาร์ที่ 27-31 มกราคม 2561 ณ โรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ 5 สาขา ได้แก่ โรงภาพยนตร์พาราก้อน ซีนีเพล็กซ์, โรงภาพยนตร์ควอเทียร์ ซีนีอาร์ท, โรงภาพยนตร์เอสพลานาด รัชดา, โรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์รัชโยธิน และโรงภาพยนตร์เซนทรัลแอร์พอร์ท เชียงใหม่ และโรงภาพยนตร์เครือเอเพ็กซ์
