ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์ ฉลองสมรส มาวิน เผยที่มาชุดเจ้าสาวปักเพชรร้อยล้าน

รอผ่านพ้นสถานการณ์โควิดเกือบสองปี ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์ ฉลองสมรสกับ มาวิน ทวีผล แบบอลังการและระยิบระยับมาก ด้วยชุดเจ้าสาวปักเพชร มูลค่าร้อยล้านบาท

วันที่ 9 ตุลาคม 2565 ตู่ปิยวดี มาลีนนท์ ผู้จัดละครคนดังของช่อง 3 และ มาวิน ทวีผล หวานใจที่ครองรักกันมาจนขึ้นปีที่ 14 จัดงานฉลองสมรส ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ด้วยไฮไลต์ที่ชุดเจ้าสาว ปักเพชรทั้งชุด 300 กว่าเม็ด มูลค่า 100 ล้านบาท วันที่ 9 ตุลาคม 2565

ดังนั้นนอกจากเปิดใจถึงเส้นทางความรักแล้ว ยังเผยถึงรายละเอียดชุดปักเพชรมูลค่าร้อยล้านบาทที่น่าฮือฮาด้วย

ตู่ ปิยวดี

สำหรับชุดเจ้าสาวนี้ สร้างสรรค์โดน แบรนด์ Patarasiri (ภัทรสิริ) ใช้เพชรแท้ทรงฮาร์ตกว่า 300 เม็ด และใช้เวลาปักกว่า 6 เดือน

ชุดที่ใส่ตอนนี้ ก็คือปักตาแตก เป็นปกติของชุดแต่งงานอยู่แล้วค่ะ แต่ตอนปักเพชรจะช้าที่สุดคือวันสุดท้าย เพราะเราจะไม่เอาเข้าไปในชุดก่อน เขาต้องระดมช่างมา เพื่อจะปักภายในระยะเวลาอันสั้น เพราะเราไม่ได้เอาเพชรไปทิ้งไว้นานค่ะ

ตู่ ปิยวดี

ตู่ ปิยวดีเผยด้วยว่า ถามดีไซเนอร์ตั้งแต่ทีแรกว่า ต้องใช้เพชรเยอะเท่าใดสำหรับชุดที่เขาออกแบบมา ซึ่งพอได้ยินตัวเลขก็แอบสงสัยเหมือนกันค่ะว่าจะทำได้หรือไม่ แต่พอได้คุยกับเพื่อนที่เขาเชี่ยวชาญเรื่องเพชรเขาก็บอกว่าไม่ใช่เรื่องยาก

จากนั้นก็จะเป็นในส่วนของกระบวนการยึดติดเพชรกับชุดให้เข้ากัน คือต้องทำใหม่ทั้งหมดเลย แถมด้ายที่ใช้ต้องเหนียวเป็นพิเศษเพื่อมั่นใจว่าจะต้องไม่หลุดออกจากชุดสักเม็ดเดียว

ตู่ ปิยวดี

เผยมีทีมคุ้มกันชุดร้อยล้าน

” เริ่มแรกเราวางไว้ที่ 200 เม็ดค่ะ แต่พอใช้ไปจริง ๆ ปักแค่ครึ่งด้านหน้าแล้วมันแปลก ๆ ก็เลยต้องไปเพิ่มครึ่งหลังทั้งหมด ก็กลายเป็นประมาณ 300 กว่าเม็ดค่ะ ก็มีน้ำหนักตั้งแต่ครึ่งกระรัตไปถึง 2 กะรัตค่ะ ขนาดไม่เท่ากัน เจ้าสาวกล่าว

ต่อข้อถามว่า ต้องมีทีมมาดูแลชุดนี้หรือไม่ เจ้าสาวกล่าวว่า มีทีมรักษาความปลอดภัยมาช่วยดูแล เฝ้าอยู่หน้าห้องค่ะตอนนี้ (หัวเราะ) ห้ามใครเข้าออก เป็นห้องต่างหากที่เราไว้เก็บชุดอย่างเดียวเลย ไม่มีใครเข้าออกทั้งสิ้น

เมื่อนักข่าวถามถึงความตั้งใจในการทำชุดนี้ ผู้จัดละครสาวกล่าวว่า งานแต่งงานคืองานในความฝันของผู้หญิงทุกคน และตู่เองก็อยากจะหาภาพจำให้กับงานของเรา ภาพที่จะทำให้ทุกคนจำงานเราได้ ซึ่งเราก็คิดว่าสิ่งนี้แหละที่น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้คนไม่ลืมงานเรา

ด้านเจ้าบ่าวกล่าวเสริมว่า “ส่วนผมไม่เอาสักเม็ดเลยครับ ไม่เอาเลยครับ ผมเดินเบา ๆ สบาย ๆ ดีกว่าครับ

เมื่อถามว่าจะเก็บชุดไว้เป็นความทรงจำหรือว่าเอาเพชรออก เจ้าบ่าวกล่าวว่า เลาะออกเถอะครับ อย่าเก็บไว้เลยครับ (หัวเราะ) ส่วนเจ้าสาวกล่าวเสริม พอถอดชุดเสร็จปุ๊บ ซีเคียวริตี้ก็จะนำออกจากงานไปเลยค่ะ จะได้ไม่ต้องระวัง

คำถามสุดท้ายเกี่ยวกับชุดเจ้าสาว นักข่าวถามว่า เสร็จออกมาสวยถูกใจหรือไม่ เจ้าสาวตอบว่า “เอาเป็นว่าเกินที่คิดไว้มาก เกินที่คาดหวังไว้เยอะมาก

โมเมนต์หวานชีวิตสมรส

สำหรับประเด็นเส้นทางรักและการใช้ชีวิตสมรสด้วยกันมาปีกว่า เจ้าสาวเผยว่า ต่างกับตอนก่อนแต่งงานมากคือ ไม่ทะเลาะกันเลย

มาวินกล่าวเสริมว่า “ไม่ทะเลาะกันเลยครับ เพราะตอนห่างกัน มันจะมีจังหวะที่ไม่รู้ทำอะไร โทร.ไปไม่รับสาย ถ้าผมรับไม่ทันเขาจะขึ้นทันทีเลย แต่พออยู่ด้วยกันมันก็ไม่ต้องห่าง ไม่ต้องใช้โทรศัพท์ ตื่นมาเห็นหน้าก็จบแล้ว สบาย” 

ผมมีความสุขทุกเช้า ก่อนนอนจะจับแขนเขา ตื่นมาก็หอมเขาทุกวัน มีความสุขมาก” เจ้าบ่าวหยอดหวาน

ด้านเจ้าสาวกล่าวว่า “เขาเป็นคนชอบสัมผัส ชอบกอด ชอบหอม แต่เราจะพอแล้วกอดนานไปแล้ว ต่างจากตู่จะเป็นคนขี้รำคาญ

ตู่ ปิยวดี

จังหวะนี้ มาวินเอ่ยแซวภรรยาว่า “แต่เวลาแมวมากอดถ่ายคลิปมาให้ดู แมวได้แต่สามีไม่ได้” ขณะที่เจ้าสาวแฉกลับว่า เวลาตู่ไม่อยู่ก็ไล่เตะแมวในห้องเลย (หัวเราะ) เพราะแกใช่ไหม

เมื่อนักข่าวให้เจ้าบ่าวพูดถึงภรรยา มาวินเอ่ยว่า  “ผมโชคดีที่ได้เขามา โชคดีจริง เขาน่ารักมาก ผมรักเขามาก เขาเป็นกำลังใจที่สำคัญให้ผม ใช่ เขาดุ แต่ที่เขาดุเพราะว่าบางอย่างผมเป็นผู้ชายเกินไป อาจจะละเลยเกินไป ผมรู้วึกว่ามีเขาได้ทั้งเพื่อน ได้ทั้งเมีย ได้ทั้งแม่ ในคนเดียว ครบมากครับ (หัวเราะ)

ผมแฮปปี้ ผมมีความสุขมาก ครับ ถ้าซึ้ง ก็ รักนะที่รัก ปีที่ 14 แล้ว สุดท้ายก็ฝันเป็นจริง วันที่จะจัดงานแต่งผมบอกเขาเลยว่างานนี้มันต้องเกิดนะ อยากให้เขาทำตามใจฝัน เขาจะทำอะไรอะไรทำเต็มที่เลย ผมพร้อมซัพพอร์ตเขาหมด เพราะว่าคือความฝันของเขา แล้ววันนี้ผู้ชายคนนี้ทำให้ได้แล้ว มาถึงตรงนี้แล้ว รักนะคะ

ด้านเจ้าสาวพูดถึงเจ้าบ่าวว่า ตู่ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้แต่งงาน วันที่เขาขอคนที่เห็นคลิปจะทักเลยว่าทำไมร้องไห้เร็วมาก เห็นปุ๊ปน้ำตาหยดเลย เพราะอย่างที่บอกว่าไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่เขาจะมาขอเราแต่งงานได้

รู้สึกว่าตั้งแต่แต่งงานกับเขามาความสุขในชีวิตเรามันเกิดง่ายจัง กินข้าวด้วยกันมื้อนึงมีความสุขมากเลย ความสุขเกิดขึ้นทุกวันและง่ายดายมากโดยที่ไม่ต้องดิ้นรนหามัน มันอยู่ข้าง เรา

เผยประวัติเจ้าบ่าว-เจ้าสาว

ปิยวดี มาลีนนท์ เป็นลูกสาวของประชา มาลีนนท์ จบปริญญาตรีด้านวิทยุ โทรทัศน์ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโทด้านการเงิน มหาวิทยาลัยบอสตัน 

ทำงานให้สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในฐานะผู้จัดละครช่อง 3 ด้วย ในนามค่ายเวฟ ทีวี มีผลงานละครดัง เช่น ทัดดาวบุษยา, วนาลี, แววมยุรา, พรพรหมอลเวง, รักสุดฤทธิ์, แก้วตาหวานใจ, บ่วงอธิฏฐาน, บัลลังก์ดอกไม้ 

มาวิน ทวีผล จบปริญญาตรีจากเอแบค เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเดินแบบ ก่อนได้รับการชักชวนจาก ไก่วรายุฑ มิลินทจินดาให้มาเล่นละครกับทางช่อง 3 มีผลงานแสดงเป็นทั้งตัวดีและตัวร้าย อาทิ จอมใจ, ดิน น้ำ ลม ไฟ, ศิราพัชร ดวงใจนักรบ, ธาราหิมาลัย, วายุภัคมนตรา, แววมยุรา, ชาติเจ้าพระยา, รักนี้เจ๊จัดให้, แก้วตาหวานใจ, บ่วงอธิฏฐาน, เลือดรักทระนง, ดวงใจพิสุทธิ์, บัลลังก์ดอกไม้, สายลับจับแอ๊บ ฯลฯ

ช่วงที่พบกัน มาวินเผยว่า ตนเองมีแฟนอยู่แล้ว ส่วนตู่ ปิยวดี ถือเป็นลูกเจ้านาย กระทั่งฝ่ายชายเป็นโสดและเจอฝ่ายหญิงคลานเข้ามาหาในงานพิธีครอบครูของช่อง 3 เพื่อชวนไปเล่นละคร จึงเริ่มคุยกันเรื่องงาน และฝ่ายชายเริ่มขายขนมจีบและคบหากัน

ช่วงแรกมีผู้ใหญ่ติงด้วยความเป็นห่วง แต่ฝ่ายชายสู้ไม่ถอยใช้เวลาพิสูจน์อยู่ 8 ปี กว่าที่ครอบครัวของฝ่ายหญิงจะเปิดใจยอมรับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง และเข้ากับครอบครัวได้ดีทั้งสองครอบครัว

เมื่อครบ 10 ปีคบหากัน วันที่ 19 กรกฎาคม 2563 มาวินทำเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอฝ่ายหญิงแต่งงานในร้านอาหารญี่ปุ่น จนสาวตู่ปลื้มปริ่มน้ำตาไหล หลังจากนั้น ทั้งสองจัดพิธีหมั้นและแต่งงานวันที่ 20 ธันวาคม 2563 และรอจนสถานการณ์โควิดคลี่คลาย จึงได้จัดฉลองสมรส วันที่ 9 ตุลาคม 2565

…..

….

ตู่ ปิยวดี เผยความคืบหน้าเรือนหอ งบบาน 50 ล้าน? ลั่นงานคู่ไม่เกี่ยง-งานเสี่ยงก็รับ