พระเอกฮอลลีวูด คริส เฮมสเวิร์ธ มาถ่ายรายการถึงการค้นหาปัจจัยที่ทำให้อายุยืน ไป ๆ มา ๆ ตรวจร่างกายแล้วถึงกับพบว่า ตนเองมียีนที่บ่งชี้ถึงโรคอัลไซเมอร์
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า คริส เฮมสเวิร์ธ พระเอก “ธอร์” วัย 39 ปี เปิดเผยกับนิตยสาร Vanity Fair ว่า ระหว่างการถ่ายทำซีรีส์รายการ “Limitless with Chris Hemsworth” ของค่ายดิสนีย์ จึงมีโอกาสได้ตรวจร่างกายกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งพบว่าตนเองมีพันธุกรรมที่เพิ่มแนวโน้มเป็นโรคอัลไซเมอร์
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
ดร.ปีเตอร์ แอตเทีย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีชีวิตยืนยาว พบผลการตรวจเลือดของพระเเอกคนดัง ว่ามียีน APOE4 สองชุด ซึ่งมาจากพ่อแม่แต่ละคน บ่งบอกถึงแนวโน้มที่จะเป็นโรคอัลไซเมอร์มากขึ้น จึงโทร.บอก ดาร์เรน อโรนอฟสกี ผู้กำกับฯ รายการ
“ผมไม่ต้องการบอกเรื่องนี้กับเขาต่อหน้ากล้อง เราจำเป็นต้องคุยกันหลังกล้อง แล้วค่อยถามเขาว่า เขาอยากให้เนื้อหาตรงนี้อยู่ในรายการด้วยหรือเปล่า” ดร.แอตเทียพูดกับผู้กำกับฯ อโรนอฟสกี เรื่องที่จะต้องบอกพระเอกคนดังหลังไมค์
ต่อมาเมื่อเฮมสเวิร์ธทราบเรื่อง ก็มีคำถามมากมาย รวมถึงความรู้สึกว่า ไม่รู้จะต้องคิดกับเรื่องนี้อย่างไรดี ต้องกังวลไหม และน่ากังวลหรือไม่
พระเอกคนดังกล่าวว่า ยีน APOE4 ไม่ใช่ยีนที่กำหนดโรคล่วงหน้า แต่เป็นข้อบ่งชี้ที่ชัดเจน ข้อมูลวิจัย ระบุว่า ยีน APOE4 สองชุด ทำให้มีโอกาสเกิดโรคอัลไซเมอร์มากขึ้น 8 ถึง 10 เท่า จนทำให้เฮมสเวิร์ธเริ่มตระหนักถึงความตาย
“พวกเราส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงการพูดถึงความตายด้วยความหวังว่าเราจะหลีกเลี่ยงมันได้ เราทั้งหมดชอบคิดว่า เราจะรอดพ้น แต่จู่ ๆ เมื่อมีตัวบ่งชี้ใหญ่เลย มาบอกเส้นทางว่าอะไรจะเกิดขึ้น มันทำให้ความจริงของเรื่องนี้จมดิ่งลงไป” เฮมสเวิร์ธกล่าวเสริม
“Limitless” เป็นซีรีส์ของเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก แต่ละตอนของซีรีส์ เฮมสวิร์ธจะเข้าร่วมบททดสอบทั้งด้านร่างกายและจิตใจในรูปแบบต่าง ๆ ที่ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์และแพทย์แนวหน้าของโลก เพื่อปลดล็อคหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของการมีอายุที่ยืนยาวขึ้น และการเผชิญหน้ากับความตายในตอนสุดท้าย
“ผมคิดว่าตอนสุดท้ายเป็นตอนที่ผมชอบที่สุด นั่นคือที่ที่ฉันทำงานร่วมกับผู้ที่ทำงานด้านการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย จากการที่ได้พูดคุยกับผู้คนที่กำลังเผชิญหน้ากับความตายที่กำลังจะมาถึง แม้แต่คนอายุน้อยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง และอาจมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน
การทำฉากเกี่ยวกับความตายและการเผชิญหน้ากับความตายของตัวเองทำให้ต้องพูดว่า ‘โอ้พระเจ้า ผมยังไม่พร้อมที่จะไปฉันอยากนั่งและอยู่ในพื้นที่นี้ด้วยความรู้สึกสงบนิ่งและรู้สึกขอบคุณมากขึ้น”
เฮมสเวิร์ธยังกล่าวอีกว่า “ซีรีส์เรื่องนี้อาจเป็นแรงจูงใจให้ผู้คนหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น และเข้าใจว่ามีขั้นตอนที่คุณสามารถทำได้”
สำหรับผลงานภาพยนตร์ล่าสุดของเฮมสเวิร์ธที่เพิ่งฉายไป คือ Thor: Love and Thunder ภาพยนตร์เดี่ยวที่สานต่อมาถึงภาคที่ 4 ของหนังจักรวาล MCU อีกทั้งภาพยนตร์ภาคต่อเรื่อง “Extraction 2” ที่มีกำหนดฉายปีหน้า ทาง Netflix
และภาพยนตร์เรื่อง “Furiosa” หนังภาคต้นของ “Mad Max: Fury Road” ที่มีกำหนดฉายในปี 2024 ซึ่งนำแสดงโดยอันยา เทย์เลอร์–จอย
……
เจาะเวลาหาอดีต สุดซึ้ง ไมเคิล เจ. ฟ็อกซ์ หวนพบคริสโตเฟอร์ ลอยด์