
พิธีไว้อาลัยแม่แอ๊ด โฉมฉาย คืนแรก เพื่อนนักแสดงอาวุโสร่วมงานจำนวนมาก ด้าน “อาร์ต พนิตนาฏ” ลูกสาว เผยการจากลากับคนที่อยู่ด้วยกัน 46 ปี ไม่ใช่เรื่องง่าย
วันที่ 24 มิถุนายน 2567 ข่าวสด รายงานว่า เมื่อวานนี้ (23 มิ.ย. 2567) ที่คริสตจักรอภิสุทธิสถาน มูลนิธิปันรักเปี่ยมสุข จ.สมุทรปราการ มีการจัดพิธีไว้อาลัยวันแรก ให้นักแสดงอาวุโสมากฝีมืออย่างแม่แอ๊ด โฉมฉาย ฉัตรวิไล ที่เสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยโรคเบาหวานที่ รพ.รามคำแหง เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา
โดยก่อนเริ่มงาน อาร์ต พนิตนาฏ ฉัตรวิไล ลูกสาวคนเดียวของแม่แอ๊ด โฉมฉาย ได้เดินออกมาขอบคุณสื่อที่มาร่วมทำข่าว และส่งแม่เป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับพูดคุยกับผู้สื่อข่าวถึงความรู้ที่มีต่อคุณแม่ว่า
การที่เราต้องจากลากับคนที่เราอยู่ด้วย 46 ปี แล้วชีวิตตนไม่มีใครเลยนอกจากคุณแม่ ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนรู้ว่าคุณแม่ทำงานมาหนักมาก และก็เหนื่อยมาก ตอนนี้คุณแม่ได้ผ่านจุดนั้นไปแล้ว ถ้าน้ำตาวันนี้ไหล ก็ไหลเพราะเห็นทุกคนรักคุณแม่มาก ๆ แล้วมาช่วยส่งคุณแม่
“ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยทำข่าว และขอบคุณเพื่อน ๆ คุณแม่ทุกคนที่ส่งมาให้อาร์ตขนาดนี้ เพราะว่าทุกคนรักคุณแม่โฉมฉาย ก็ยังอยู่ในใจทุกคน คุณแม่สร้างความสุขให้กับทุกคน วันนี้ห้ามร้องไห้ เดี๋ยวแม่ตี”
ขณะที่บรรยากาศในงานไว้อาลัยคืนแรก มีกลุ่มเพื่อนนักแสดงอาวุโสมาร่วมงาน เช่น มี้ พิศมัย วิไลศักดิ์, จิ๋ม มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช, ก้อย ทาริกา ธิดาทิตย์, ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา, ตุ๊ก ดวงตา ตุงคะมณี, ป๋อง พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา, โย ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา, ติ๋ว อรษา พรหมประทาน ให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงเพื่อนรักผู้ล่วงลับที่สนิทสนมร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมายาวนานกว่า 40 ปี
มี้ พิศมัย : “มาทราบทีหลังว่าคุณโฉมฉายป่วย นึกไม่ถึงว่าจะไปเร็วอย่างนี้นะคะ เสียดาย เขาก็คงไปสบายแล้วค่ะ มาวันนี้ก็ด้วยความคิดถึง เจอครั้งสุดท้ายคือไปทานข้าวกัน พออีกครั้งก็บอกว่าพี่แอ๊ดเขาล้มในห้องน้ำ ทราบแค่นี้ก็เงียบไป เราส่งดอกไม้ไปก็ไม่ตอบ ไม่ทราบเลยว่าพี่แอ๊ดเขาไปไหน พอมาทราบอีกทีตกใจนึกไม่ถึง ก่อนหน้านี้ไม่ทราบเลยว่ามีอาการป่วยอะไรบ้าง ก็ยังดี ๆ อยู่ ไม่ทราบเลย ตกใจค่ะ นึกไม่ถึง”
จิ๋ม มยุรฉัตร : “ทราบพร้อมพี่แหม่มวันนึง ก็เสียใจ คนดี ๆ น่าจะอยู่กับเรานาน ๆ ก็ขอให้ไปสู่สรวงสวรรค์ค่ะ”
ก้อย ทาริกา : “ทราบว่าแอ๊ดป่วยมาตลอดเวลา 3 เดือน แต่แอ๊ดเป็นคนที่เข้มแข็ง และไม่อยากให้เพื่อน ๆ กังวล ห่วง แอ๊ดจะปฏิเสธตลอดเวลา แล้วบอกตลอดเวลาว่าเราโอเคเพื่อน เดี๋ยวก็หายแล้ว พอแอ๊ดล้มครั้งที่ 2 แอ๊ดก็ค่อนข้างที่จะไม่ค่อยแข็งแรง โดยสภาวะของเบาหวานด้วย แอ๊ดค่อนข้างเป็นผู้หญิงที่เปอร์เฟ็กต์มาก จะไม่ยอมให้เพื่อนทุกคนไปเยี่ยม”
“ถ้าเผื่อไปเห็นสภาพตัวเองป่วยไม่สบายตอนอยู่โรงพยาบาล ก็ได้แต่บอกว่าเดี๋ยวเพื่อนกลับบ้านแล้วค่อยเจอกันนะ แล้ววันที่เราเจอที่บ้านพี่โป๊ย แอ๊ดก็ยังเข้มแข็งอยู่ พอวันเกิดพ่ออี๊ดเราก็พยายามตามอีกครั้งนึง แอ๊ดก็บอกว่าเพื่อนไม่ไหว เดี๋ยวไว้เจอกันนะ ก็ได้คุยผ่านอาร์ต (เสียงสั่น) เพราะก้อยกับแอ๊ดก็ค่อนข้างจะสนิทกัน”
“เสียใจและตกใจ ก็ได้บอกเพื่อน ๆ ว่าแอ๊ดไม่อยู่แล้วนะ แอ๊ดไปอยู่กับพระเจ้าแล้ว และคิดว่าในความรักของเราทุกคน และรักแอ๊ดเหมือนเดิม (เสียงสั่น) แอ๊ดเป็นคนตรง เป็นคนรักเพื่อน เป็นคนรักครอบครัว เป็นคนจริงใจ แอ๊ดจะเตือนพวกเราทุกอย่างในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้าเตือน แอ๊ดพูดตรง แอ๊ดเป็นคนมีน้ำใจ แอ๊ดเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นครู เป็นทุกอย่างของพวกเราและน้อง ๆ”
ไก่ วรายุฑ : “ไก่กับพี่แอ๊ดค่อนข้างสนิทกัน ในกลุ่มเราทั้งหมดตรงนี้ก็สนิทกัน เวลาทำอะไรก็ทำร่วมกันตั้งแต่สมัยนู้น เริ่มแรกก็มีฟุตบอลผู้หญิง ตอนนี้เพิ่ง 25 เราก็ต้องไปเตะบอลกัน เราก็ต้องเตะบอล แต่ต้องแต่งเป็นผู้หญิง แม่แอ๊ดก็บอกว่าไก่ มึงต้องวิ่งสิ ทำไมไม่วิ่งล่ะ เราก็บอกว่าเจ๊ เดี๋ยววิกหนูหลุด คือพี่แอ๊ดเป็นคนสนุก พี่แอ๊ดอยากให้ทุกคนสนุก อยากให้ทุกคนมีความสุข”
“พี่แอ๊ดไม่อยากให้ใครร้องไห้ พี่แอ๊ดอยากให้ทุกคนแฮปปี้ ถึงพี่แอ๊ดจะอยู่ในอ้อมอกพระเจ้าแล้วก็ตาม แต่เราก็ทำไม่ได้หรอก ทั้งหมดนี่กับพี่แอ๊ดก็ 40 กว่าปีนะที่รู้จักกันมา ดื่มกินนอนอยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกัน รักกันเล่นกัน ด่าทะเลาะกัน พี่แอ๊ดเป็นคนตรงและชัดเจนมาก ไม่คือไม่ สามารถที่จะด่าพวกเราได้ทุกคน”
“เขาเป็นตัวโจ๊กประจำกลุ่ม เสียงหัวเราะจะมาก่อน ถามว่ายังมีห่วงอะไรมั้ย คิดว่าพี่แอ๊ดคงไม่ห่วงอะไรแล้ว คือพี่แอ๊ดเป็นผู้หญิงที่เปอร์เฟ็กต์มาก ๆ มืออาชีพเลย ไม่อยากให้พวกเราไปเห็นไปรู้เขาป่วย ว่าเขาไม่สวย เราอยากไปกันนะ บอกอาร์ตว่าพวกเราขอไปจับมือกันก็ได้ ให้แม่แกหลับก่อน แล้วเราไปหาเขา ก็ไม่ทัน พี่แอ๊ดคือคนที่ทำให้เราเป็นอีอ๊อดอย่างทุกวันนี้ (ยิ้ม)”
ก้อย ทาริกา : “แอ๊ดไม่อยากให้เรารู้ว่าเขาเจ็บ ไม่อยากให้รู้ว่าเขาป่วย อยากให้รู้ว่าเขาเข้มแข็งนะ เพราะในเวลาที่เขาป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลเขาก็ยังบอกว่าตัวเองเป็นยังไง ตัวเองโอเคนะ ถามว่าเสียดายมั้ยที่ไม่ได้ไปเยี่ยม แต่ก็เข้าใจเพื่อนมาก ๆ เพราะเขาไม่อยากให้เรากังวล เขาเป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่คบกัน”
“เรารู้จักกับแอ๊ดมาตั้งแต่วันแรกที่เราเข้ามาอยู่ในทีวี มันนานมากเหลือเกินตั้งแต่อายุ 18 (เสียงสั่น) แอ๊ดก็เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นครูที่ดี และเขาก็ให้ความรัก ให้ความเป็นห่วงเป็นใยมาตลอดเวลา จนกระทั่งเขาจากไปเขาก็ยังบอกว่าไม่ต้องห่วงเพื่อนนะ เพื่อนโอเค”
ตุ๊ก ดวงตา : “ประทับใจพี่แอ๊ดมาก อย่างที่พี่ก้อยบอกพี่แอ๊ดเป็นคนตรง และโผงผาง ซึ่งตรงกับนิสัยของเรา เราก็จะเป็นอะไรแบบนั้น เพราะฉะนั้นจะคุยกับพี่แอ๊ดรู้เรื่อง และเคยเล่นละครของพี่ปิ่นเป็นแม่ลูกกัน และเป็นแม่ลูกที่มันมาก จำได้ว่าพี่แอ๊ดชอบทานมะขามคลุก พอรู้แล้วเราไปเจอมะขามคลุกที่ไหนอร่อยก็ต้องซื้อฝากพี่แอ๊ด พี่แอ๊ดก็จะปลื้มใจมาก เดี๋ยวคิดว่าจะไปหามะขามคลุกอร่อย ๆ และทำบุญส่งไปให้พี่แอ๊ดค่ะ”
“คิดถึงพี่แอ๊ด เราได้วิชามาจากพี่แอ๊ดเยอะมาก พี่แอ๊ดเป็นคุณครูสอนการแสดงให้เยอะมาก เราดูเขาเล่น เราก็ก๊อบปี้จากเขาด้วย ที่แน่ ๆ เลยก็คือได้นิสัยจากพี่แอ๊ดมาบ้าง (หัวเราะ) เพราะว่านิสัยคล้าย ๆ กัน”
ป๋อง พิมพ์แข : “ก็สนิทกับแม่แอ๊ดมาเท่า ๆ กับพวกเราด้วยกันนี่แหละค่ะ 30-40 ปี แล้วก็มาสนิทกันมากตอนเล่นละครซิตคอมของช่องวัน”
ตุ๊ก ดวงตา : “ตอนเล่นไพ่ไม่ใช่เหรอ (หัวเราะ)”
ป๋อง พิมพ์แข : “ก็ด้วยกันนั่นแหละ (หัวเราะ) ก็ใช่อยู่ มาสนิทกันมากค่ะ ของแม่ป๋องเล่นบางรักซอย 9 แม่แอ๊ดเขาเล่นบ้านนี้มีรัก และมีอยู่ช่วงนึงที่คุณบอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) เอา 2 เรื่องนี้มารวมกันประมาณ 10 กว่าตอน ก็จะเจอกันบ่อยมากช่วงนั้น หลัง ๆ ไม่ค่อยได้เจอ แต่ก็เป็นห่วงเพื่อนอยู่เสมอค่ะ เขาเป็นคนดีและเข้มแข็ง เป็นคนตรงอย่างที่พี่ก้อยบอกเลยค่ะ”
โย ทัศน์วรรณ : “เหมือนทุกคนพูดเลย เพราะว่าเราคบกันมานานพร้อม ๆ กัน ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ทำงานด้วยกันมาตลอด ไปนู่นไปนี่ด้วยกันมาตลอด ไปทำบุญ ไปไหนมาไหน ก็สนิทกันหมดเลย โฉมฉายเขาเป็นคนที่รับผิดชอบงานเยอะมากเลยนะคะ ช่วงที่เขาจำบทไม่ค่อยได้ เขาแย่มาก เขารู้สึกว่าเขาเป็นปัญหาให้กอง เขาเครียดและเขาก็บ่นตลอดเวลาว่าเขาจะเลิกเล่นแล้ว เราก็บอกว่าฝีมืออย่างนี้มันหาไม่ได้อีกแล้ว ไม่เป็นไร ทุกคนรอได้ แต่เขาก็จะนอยด์”
“เขาคิดว่าทำให้ทุกคนเสียเวลาเพราะเขา เขาเคยเป็นคนที่คล่องแคล่ว อ่านบทแป๊บเดียวจำได้หมดแล้ว เล่นก็เทคน้อยมาก แต่เขาต้องมานั่งจำบทไม่ได้ แค่จำบทไม่ได้ 1-2 คำหน้าเขาก็เสียแล้วค่ะ เพราะเขาเป็นคนที่รับผิดชอบงานสูงมาก ได้ร่วมงานกับเขาเยอะ ยิ่งช่วงที่เขามีปัญหาเรื่องความจำนี่แหละค่ะ ก็ได้ร่วมงานกับเขาหลายเรื่อง เขาก็จะบ่นทุกเรื่องเลยว่าเขาไม่เอาแล้ว เราก็ได้แต่ให้กำลังใจกันตลอดเวลา ถ้าจะถามถึงความรู้สึกก็คือความรู้สึกเดียวกันหมดทั้งกลุ่มนี่เลย”
ก้อย ทาริกา : “เพราะกลุ่มเราเป็นกลุ่มที่สนิทกันเหนียวแน่นมาก ไปไหนก็ไปด้วยกัน ก็อยากขอบคุณแฟนคลับแอ๊ดทุกคนนะคะ และคนที่ติดตามผลงานแอ๊ดอยู่ ตอนนี้ก็ได้แต่ดูผลงานเก่า ๆ ของแอ๊ดเนอะ และแอ๊ดเองก็รักการแสดงเป็นชีวิตจิตใจ”
“แอ๊ดอยากที่จะแสดง แอ๊ดจะมีความสุขทุกครั้งที่เล่นละคร เล่นลิเก พอแอ๊ดทำไม่ได้แอ๊ดก็หงุดหงิด และเขาก็มีความรู้สึกว่าบางครั้งเขาดูนู่นนี่นั่น แต่ก็เหมือนเขาเป็นตัวแสดงไปด้วย เพราะฉะนั้นเราก็อยากจะบอกว่าให้ทุกคนกลับไปดูผลงานเก่า ๆ ของแอ๊ดนะ”
“แอ๊ดไม่ต้องห่วง ทุกคนยังคิดถึงผลงานของแอ๊ดตั้งแต่ต้นจนกระทั่งมันไม่มีจบ เพื่อนทุกคนก็ยังคิดถึงบทบาทของแอ๊ด ทุกคนคิดถึงเสียงใส ๆ ของแอ๊ดที่ร้องเพลง เสียงใส ๆ ที่เล่นลิเก (เสียงสั่น) แอ๊ดไม่ต้องห่วงทุกคนก็ยังคิดถึงแอ๊ด ยังอยู่ในใจตลอดไป เข้าใจว่าแฟนคลับทุกคนก็ต้องรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน (น้ำตาซึม) ก็ขอบคุณที่ทุกคนติดตามผลงานของแอ๊ด และรักแอ๊ดต่อไป เหมือนกับที่พวกเรารักนะคะ”
โย ทัศน์วรรณ : “อยากจะบอกแอ๊ดด้วยว่าไม่ต้องห่วงอาร์ตนะคะ อาร์ตแข็งแกร่งมาก และอาร์ตเป็นที่รักของพวกเราค่ะ”
จิ๋ม มยุรฉัตร : “อยากจะบอกว่าไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว ในวันนี้พวกเราทุกคนเข้มแข็ง และเชื่อว่าถ้ายังอยู่เราก็จะเจอกันข้างบนนะคะ”
ติ๋ว อรสา : “อยากบอกแม่แอ๊ดว่าแม่แอ๊ดเป็นพี่ เป็นเพื่อนที่อบอุ่นที่สุดในโลกนี้ และเป็นคนที่น่ารักมาก เป็นห่วงเป็นใยเพื่อนฝูงทุกคน เที่ยวกันมา 40 ปี เป็นทั้งขาไพ่ ขาอะไรกัน (หัวเราะ) ตอนที่อยู่เฉย ๆ ไม่ได้ทำงานก็เล่นไพ่อย่างเดียว เราจะเล่นต่อไปนะแม่ ว่าง ๆ แม่มาสักขานึงนะ (ยกมือไหว้) คิดถึงนะแม่ ขอให้แม่สู่อ้อมกอดของพระเจ้าค่ะ”