mysterious : เรื่อง
mysterious : เรื่อง
“Searching : เสิร์ชหา…สูญหาย !?” ภาพยนตร์แนวดราม่า-ทริลเลอร์จากผู้กำกับ อนีช ชาแกนตี้ ว่าด้วยการหายตัวไปของมาร์โก้ (มิเชล ชา) ลูกสาวเพียงคนเดียวของเดวิด คิม (จอห์น โช) หลังสูญเสียภรรยา พาเมลล่า คิม (ซารา โซห์น) จากโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่กลับมาลุกลามอีกครั้ง เรื่องเกิดขึ้นเมื่อเดวิดตื่นมาพบว่าเขาพลาดสายโทรศัพท์และวิดีโอคอลจากลูกสาวในช่วงเวลากลางคืนที่เขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลยว่า นั่นจะเป็นการติดต่อจากลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย
เสน่ห์ของเรื่องนี้คือ การเล่าเรื่องผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ แม้เราจะเคยเห็นการหยิบประเด็นการใช้โซเชียลมีเดียมาเล่าแล้วจาก Friend Request หรือการเล่าเรื่องผ่านแคมฟรอก
โดย Unfriended ที่ต่างก็ถูกพูดถึงและได้รับเสียงชื่นชมถึงความแปลกใหม่ไม่น้อย แต่ Searching ก็ไม่ได้สร้างความรู้สึกซ้ำเดิมให้กับคนดู ทั้งยังทำให้เราตื่นเต้นไปกับการเล่าเรื่องที่สมูท คล้อยตาม และมีจังหวะที่ผู้ชมลุ้นไปกับตัวแสดงได้ตลอดเรื่อง ทั้งการเล่าแบ็กกราวนด์ของตัวละครหลักที่ทำให้เราเชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันของตัวละครได้ รวมทั้งรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการผลัดเปลี่ยนยุคสมัยผ่านหน้าจอจาก Windows 95 สู่ Mac OS หนังก็เก็บได้แทบทุกเม็ด
นอกจากนี้ยังได้ จอห์น โช ที่เคยฝากฝีไม้ลายมือไว้ในสตาร์ เทรค (Star Trek) และอเมริกัน พาย (American Pie) มาครั้งนี้ต้องรับบทบาทเป็นพ่อของลูกสาวอายุ 15 ปี ท่าทางกระวนกระวายและความเป็นห่วงเป็นใยลูกสาวแบบแมน ๆ ของคนเป็นพ่อ โชทำได้ดี และไม่ฟูมฟายจนเกินไป ด้าน เดบราห์ เมสซิง ที่ต้องสวมบทแม่และนักสืบในเวลาเดียวกัน เราชอบแววตาของเดบราห์เวลามองลูกชายที่เธอบอกว่า
“ลูกของฉันพิเศษและไม่เหมือนกับลูกของคนอื่น ๆ” เป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงใย กังวล และพร้อมจะปกป้องทุกขณะ นั่นอาจเป็นเพราะในชีวิตจริงของเดบราห์ เธอเองก็มีลูกด้วยเช่นกัน
วิธีการเล่าเรื่องที่ผู้กำกับ อนีช ชาแกนตี้ เลือกมา ได้สร้างความพิเศษให้กับคนดูด้วยการตัดสลับระหว่างโปรแกรมและแอปพลิเคชั่นบนหน้าจออย่างรวดเร็วและเข้าใจง่าย อย่างสาเหตุการหายตัวไปของมาร์โก้ หนังทำได้ดี โดยการพาคนดูร่วมเป็นนักสืบจำเป็นพร้อมกับเดวิด ทำให้เราได้ร่วมลุ้นและคาดเดาไปต่าง ๆ นานาว่า คนไหนคือผู้ร้ายตัวจริง บางฟีเจอร์จากแอปพลิเคชั่น หรือโปรแกรมที่หลาย ๆ คนไม่เคยใช้ก็ได้เรียนรู้จากหนัง รวมทั้งการฉายภาพให้เห็นความช่างสังเกตและไหวพริบในการใช้เครื่องมือเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสม
แต่ Searching ไม่ได้ให้น้ำหนักไปกับการใช้เทคโนโลยีเพียว ๆ เท่านั้น เพราะเส้นเรื่องหลักยังถูกดำเนินด้วยดราม่าและเรื่องเล่าของครอบครัวคิม ตรงนี้เองที่เรากลับรู้สึกว่าหนังยังทำได้ไม่ดีนักในการเล่าความผูกพันระหว่างแม่-ลูก ทั้งที่ตัวหนังแทบจะยกประเด็นนี้เป็นเมนหลักของทุก ๆ เรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกสาวด้วยซ้ำ แต่กลับฉายให้เราเห็นเพียงการใช้เวลาในการทำกิจกรรมร่วมกันเพียงเล็ก ๆน้อย ๆ ทำให้ความรู้สึกที่ควรจะอินกว่านี้ ยังไปได้ไม่สุดเท่าที่ควรจะเป็น
Searching ทำให้เราเห็นทั้งด้านที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดของโลกไซเบอร์อย่างครบถ้วน หนังได้สื่อให้เราเห็นว่า นอกจากด้านมืดของเทคโนโลยีแล้ว หากผู้ใช้งานศึกษา
และรู้จักเลือกใช้งานอย่างระมัดระวังแล้ว สิ่งเหล่านี้จะยิ่งอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตแน่นอน