จับตา 5 ซีรีส์ไทย-เอเชีย NETFLIX เตรียมส่งออกไปอวดโลก

นับตั้งแต่การเกิดขึ้นมาของเน็ตฟลิกซ์ (NETFLIX) ผู้ให้บริการความบันเทิงระดับโลกที่ปัจจุบันเข้าถึงคนดู 190 ประเทศทั่วโลก เน็ตฟลิกซ์ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการเสพคอนเทนต์บันเทิงทั่วโลกไปไม่น้อย และมีส่วนสร้างเทรนด์การรับคอนเทนต์บันเทิงใหม่ ๆ ขึ้นมาด้วย ตัวเลขอัพเดตไตรมาส 3 ปี 2018 เน็ตฟลิกซ์มีสมาชิกทั่วโลก 137 ล้านราย ซึ่งตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นต่อไป ด้วยทิศทางนี้เน็ตฟลิกซ์น่าจะยังมีอิทธิพลมีส่วนสร้างเทรนด์ต่าง ๆ ต่อไปอีกเรื่อย ๆ

เริ่มแรกการเข้ามาในเอเชียของเน็ตฟลิกซ์เป็นการนำคอนเทนต์จากฝั่งตะวันตกมาให้ชาวเอเชียชม จากนั้นมีการนำคอนเทนต์ดั้งเดิมจากเอเชียเข้าระบบของเน็ตฟลิกซ์ ตามมาด้วยการร่วมงานกับผู้ผลิต-ผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์บันเทิงในเอเชียสร้างสรรค์ออริจินอลคอนเทนต์ของเอเชียส่งออกไปทั่วโลก การทำหนังหรือซีรีส์กับเน็ตฟลิกซ์จึงถือว่าเป็นโอกาสสำคัญของคนสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่จะมีโอกาสนำผลงานไปสู่สายตาผู้ชมทั่วโลกจริง ๆ

ในงาน See What’s Next : Asia ที่เน็ตฟลิกซ์จัดขึ้นที่สิงคโปร์เมื่อเร็ว ๆ นี้ เน็ตฟลิกซ์ได้เปิดตัวผลงานหนังและซีรีส์เอเชีย 17 เรื่องจากหลายประเทศ ทั้ง ญี่ปุ่น ไต้หวัน ไทย อินเดีย และเกาหลีใต้

เท็ด ซาแรนดอส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายคอนเทนต์เน็ตฟลิกซ์

เท็ด ซาแรนดอส (Ted Sarandos) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายคอนเทนต์ของเน็ตฟลิกซ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้เอเชียนับว่าเป็นศูนย์กลางความคิดสร้างสรรค์การผลิตภาพยนตร์และซีรีส์ที่สำคัญของโลก ความได้เปรียบของเน็ตฟลิกซ์คือสามารถนำเรื่องราวจากเกาหลีใต้ ไทย ญี่ปุ่น อินเดีย ไต้หวัน หรือจากที่อื่น ๆ ที่ไม่เคยนำเสนอที่ไหนมาก่อนมาให้ผู้ชมทั้งในเอเชียและทั่วโลกได้รับชม

เขาเปิดเผยว่า ในปี 2018 ยอดชมภาพยนตร์และซีรีส์เอเชียกว่าครึ่งมาจากผู้ชมที่อยู่นอกภูมิภาคเอเชีย ดังนั้น จึงมั่นใจว่าภาพยนตร์และซีรีส์จากเอเชียชุดใหม่ที่กำลังจะนำเสนอออกไปทั่วโลกในปี 2019 จะได้รับความนิยมทั้งในประเทศแถบเอเชียและทั่วโลก

จากผลงานภาพยนตร์และซีรีส์เอเชีย 17 เรื่องที่เน็ตฟลิกซ์เปิดตัวและเตรียมจะส่งออกไปอวดทั่วโลกในปีหน้า “ดีไลฟ์-ประชาชาติธุรกิจ” เราเลือกมา 5 เรื่องที่น่าจับตามองและไม่ควรพลาด

Kingdom

1.ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด (Kingdom)

ซีรีส์ย้อนยุคจากเกาหลีใต้ของผู้กำกับ คิม ซอง-ฮุน (Kim Seong-hun) เรื่องนี้ทีมงานของเราได้ชมในงาน See What’s Next : Asia ไป 2 EP. บอกเลยว่าหลังจากได้ดูก็ตั้งหน้าตั้งตารอให้ถึงวันที่ 25 มกราคม 2019 ที่เน็ตฟลิกซ์จะปล่อยออนแอร์

ความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้ นอกจากเป็นเรื่องย้อนยุคเกี่ยวกับราชสำนัก การเมือง อำนาจ แบบที่เคยได้ดูในหนังและซีรีส์ย้อนยุคส่วนใหญ่แล้ว ยังมีอีกมิติความสนุกที่ดำเนินไปควบคู่กันคือปมสำคัญของเรื่องเป็นเรื่องผีดิบ ซึ่งมาเชื่อมโยงกับเรื่องบัลลังก์ การสืบทอดอำนาจ การฉ้อราษฎร์บังหลวงของเหล่าอำมาตย์ได้อย่างลงตัวและชวนลุ้นชวนตื่นเต้นตลอดเวลา

2.เคว้ง (The Stranded)

เรื่องนี้น่าจับตามองตั้งแต่ประกาศว่าเป็นเน็ตฟลิกซ์ออริจินอลซีรีส์ภาษาไทยเรื่องแรก กำกับโดย โสภณ ศักดาพิศิษฎ์ ผู้กำกับที่สร้างชื่อจากหนังเรื่องลัดดาแลนด์

เคว้ง เป็นซีรีส์ดราม่า, ไซไฟ-แฟนตาซี เรื่องราวของ “คราม” เด็กหนุ่มวัย 18 ปี ผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติสึนามิบนเกาะในทะเลอันดามันพร้อมเพื่อนนักเรียนจากโรงเรียนเอกชนชื่อดังอีก 36 คน หลังเกิดเหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวบนเกาะและความช่วยเหลือยังมาไม่ถึง ครามต้องลุกขึ้นเป็นผู้นำเพื่อช่วยเหลือตัวเองและเพื่อนให้รอดจากสถานการณ์ครั้งนี้

3.อุบัติกาฬ (Shimmers)

อีกหนึ่งซีรีส์ไทยที่ถูกประกาศพร้อมกัน ถือเป็นเน็ตฟลิกซ์ออริจินอลซีรีส์ภาษาไทย 1 ใน 2 เรื่องแรก กำกับโดย วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง และสิทธิศิริ มงคลศิริ เป็นซีรีส์ดราม่าเรื่องราวเกี่ยวกับวัยรุ่น 5 คน ในโรงเรียนห่างไกลแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศไทย กลุ่มวัยรุ่นถูกผีจากอดีตของตัวเองหลอกหลอนในช่วงปิดเทอม และยังพบว่ามีสิ่งลี้ลับชวนสยองขวัญที่น่ากลัวกว่านั้นคอยคุกคาม

4.Triad Princess

ซีรีส์จากไต้หวัน กำกับโดย นีล หวู่ (Neal Wu) เป็นเรื่องราวของแองจี้ หญิงสาวซึ่งเติบโตมาจากการเลี้ยงดูของพ่อผู้เป็นอั้งยี่ เธอต้องการมีชีวิตเป็นของตัวเองและไม่ยอมทำตามความต้องการของพ่อ จึงแอบทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้กับนักแสดงสาวที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ซึ่งทำให้เธอพบโลกใบใหม่ที่ไม่คุ้นเคย ที่เต็มไปด้วยแสงสี สิ่งล่อตาล่อใจ รวมถึงความรักด้วย

Selection Day

5.Selection Day

ซีรีส์ดราม่าจากอินเดีย ที่เน็ตฟลิกซ์จะปล่อยออกอากาศช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 28 ธันวาคมนี้ เป็นผลงานผู้กำกับ Simran Sethi ร่วมโปรดิวซ์โดย Anil Kapoor โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ออสการ์เรื่อง Slumdog Millionaire

Selection Day เป็นเรื่องราวของ Manju เด็กชายอายุ 14 ปี กับพี่ชายที่ถูกเลี้ยงอย่างเข้มงวดเพื่อให้ทั้งสองเติบโตขึ้นไปเป็นนักคริกเก็ตที่ประสบความสำเร็จ ตามความต้องการของพ่อผู้หมกมุ่นกับกีฬาคริกเก็ต แต่ปัญหาก็คือ Manju เกลียดการเล่นคริกเก็ต

เมื่อครอบครัวย้ายไปที่มุมไบ เขาและพี่ชายที่เป็นนักคริกเก็ตเข้าเรียนที่โรงเรียนใหม่ Manju ค้นพบความสนใจอื่นของตัวเองนอกจากการเล่นคริกเก็ต และที่สำคัญ Manju ได้เป็นเพื่อนกับคู่แข่งคริกเก็ตคนสำคัญของพี่ชาย เป็นเด็กที่มีความคิดอิสระเสรีและมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ Manju ไม่เคยมี หลังจากนั้น Manju จะเลือกเส้นทางชีวิตอย่างไร…

อย่างที่บอกว่าเราเลือกมาแค่ 5 เรื่อง ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่ได้เลือกมาก็น่าสนใจไม่น้อยเลย ส่วนที่เราเลือกมาจะตรงใจใครหรือไม่ ต้องรอดูและตัดสินกันเอาเอง