
บิลลี่ ไอลิช (Billie Eilish) สาวน้อยวัย 17 ปี นักร้องคลื่นลูกใหม่ที่มาแรงที่สุด และไม่พูดถึงไม่ได้เลย ณ เวลานี้ เธอคือที่สุดของความแน่นอนและเฉียบขาดในความเป็นศิลปินในคราบแฟชั่นนิสต้าสายสตรีต ที่ดีกรีความสามารถไม่เป็นรองใคร
หลังจากเปิดตัวมาได้ระยะสั้น ๆ สาวน้อยไร้รอยยิ้มคนนี้ก็ถูกจับตามอง และได้รับคำชมจากคนในวงการดนตรีอย่าง ร็อกสตาร์สาวรุ่นพี่ แอวริล ลาวีน (Avril Lavigne) และเฮย์ลีย์ วิลเลียมส์ (Hayley Williams) นักร้องนำวงพารามอร์ (Paramore) รวมถึงร็อกสตาร์รุ่นใหญ่อย่าง เดฟ โกรห์ล (Dave Grohl) นักร้องนำวงฟูไฟเตอร์ส (Foo Fighters) และอดีตมือกลองวงเนอร์วานา (Nirvana) ที่เอ่ยปากพูดถึงสาวน้อยคนนี้ว่า การมาของเธอเหมือนกับการมาของเนอร์วานาเลยทีเดียว
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เริ่มใช้ 1 เม.ย.66 รับเงินคนละกี่บาทต่อเดือน เช็กที่นี่
- กรมอุตุนิยมวิทยาเตือน 28 จังหวัด พายุฤดูร้อนถล่ม-ฟ้าผ่า-ลูกเห็บตก
- ราคาทองวันนี้ (20 มี.ค.) พุ่งขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณ 32,500 บาท
“ลูกสาวผมกำลังหมกมุ่นอยู่กับบิลลี่ ไอลิช …สิ่งเดียวกันกับที่เกิดขึ้นกับเธอนี่แหละ ที่เกิดขึ้นกับเนอร์วานาในปี 1991 ผู้คนพูดว่า ดนตรีร็อกจะตาย ? เมื่อผมเห็นคนอย่างบิลลี่ ไอลิช มันเป็นการบอกว่า ร็อกแอนด์โรลล์ยังไม่ใกล้ตาย !” เดฟ โกรห์ลกล่าว
บิลลี่ ไอลิช เพิ่งมีผลงานอัลบั้มเต็มสุดบรรเจิดครั้งแรกในชีวิต ชื่ออัลบั้ม When We All Fall A Sleep, Where Do We Go ที่รวม ความปัง ความล้ำเอาไว้อย่างลงตัว ซึ่งอัลบั้มนี้ปล่อยออกมาให้ฟังทั่วโลกเมื่อวันศุกร์ที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา
เส้นทางสู่ความเป็นสตาร์ของสาวน้อยคนนี้ เริ่มจากการฝากผลงานเพลงไวรัลเพลงแรกชื่อว่า Ocean Eyes ตั้งแต่วัย 15 ปี โดยมี ฟินนีส์ โอคอนเนล (Finneas O’Connell) พี่ชายนักแสดงของเธอ นั่งแท่นโปรดิวซ์เพลงให้น้องสาวด้วยตัวเอง เพลงนี้ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะบน Soundcloud ซึ่งความตั้งใจแรกของสองพี่น้อง คือ เพียงจะทำเพลงนี้เพื่อไปส่งให้อาจารย์คลาสเต้นฟัง แต่ความตั้งใจเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่นี้แทรกซึมออกไปอย่างกว้างขวาง แล้วเพลงนี้ก็ทำให้บิลลี่มีคนสนใจในตัวเธอมากขึ้นทวีคูณ
เธอมีฐานแฟนคลับมากจนกลายเป็นกระแสไอดอลในอเมริกาเลยก็ว่าได้ ทุกครั้งที่เธอหยิบจับขยับตัวในมาดเงียบขรึมผสมความกวน ๆ ตามสไตล์เด็กสตรีต เป็นต้องเรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาแฟนคลับที่นิยมและคลั่งไคล้ในความชัดเจนของเธอได้เป็นอย่างมาก ความชัดเจนที่พูดถึงก็คือ ความไม่ชอบยิ้ม หรือที่เรียกว่า “ความดึงหน้า” ซึ่งสาวน้อยคนนี้บอกเหตุผลเอาไว้ว่า การไม่ยิ้มทำให้นางดูมีพลังงานสูงปรี๊ด
แล้วความพยายามของเธอก็เห็นผล เมื่อสาวน้อยหน้านิ่งมากความสามารถและเต็มเปี่ยมด้วยพลัง ได้สร้างสรรค์ผลงานอัลบั้มเต็มที่แฟนเพลงตั้งตารอออกมา
ผลงานอัลบั้มแรกของเธอเปิดตัวด้วยเพลง Bury A Friend ที่เธอและพี่ชายช่วยกันแต่งเพลงและผลิตเอง บิลลี่เล่าว่า เธอเขียนทุกเพลงร่วมกับพี่ชาย โดยใช้เวลาหลายวันบนท้องถนน ทั้งกลางวันและกลางคืน เกิดเป็นผลงานเพลงแรก Bury A Friend เพลงที่เป็นแรงบันดาลใจให้อัลบั้มนี้ ทำให้เธอรู้ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปจะเป็นอย่างไร
“เพลง Bury A Friend นั้นมาจากมุมมองของสัตว์ประหลาดใต้เตียงของฉัน หากคุณคิดเองว่า สิ่งมีชีวิตนี้มีอยู่ กำลังทำอะไรหรือรู้สึกอะไร ฉันยอมรับว่าฉันเป็นสัตว์ประหลาดตัวนี้ เพราะฉันเป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของฉันเอง ซึ่งฉันอาจเป็นสัตว์ประหลาดใต้เตียงของคุณเช่นกัน”
ความมาแรงของบิลลี่ ไอลิช แรงแค่ไหนพิสูจน์ได้ด้วยตัวเลข เมื่อมีข้อมูลออกมาแล้วว่า อัลบั้ม When We All Fall A Sleep, Where Do We Go เป็นอัลบั้มที่ทำยอดขายในสัปดาห์เปิดตัวได้สูงเป็นอันดับ 2 ของปี 2019 (ณ เวลานี้) เป็นรองเพียงอัลบั้ม Thank You, Next ของอาเรียนา แกรนเด (Ariana Grande) เท่านั้น และขึ้นถึงอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard เรียบร้อยแล้ว
ความนิยมคลั่งไคล้ในตัวสาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้ไม่ได้พุ่งสูงเฉพาะในสหรัฐอเมริกาที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเธอเท่านั้น แต่เธอยังทำสถิติเป็นศิลปินหญิงอายุน้อยที่สุดที่มีเพลงติดชาร์ตอันดับ 1 ของ UK Official Chart ชาร์ตใหญ่ของฝั่งอังกฤษด้วย โดยทำลายสถิติเดิมที่ จอสส์ สโตน (Joss Stone) ทำไว้ ตั้งแต่ปี 2004
ทั้งภาพลักษณ์ สไตล์ และคุณภาพผลงาน ผนวกรวมกันก็เหมาะสมแล้วสำหรับการมาของศิลปินวัย 17 ปีคนนี้ ที่สื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Billboard ให้นิยามปรากฏการณ์การมาของเธอว่า “A Pop Star Is Born”