BNK48…แรงไม่หยุด ปั้น CGM48 ขยายฐาน ตจว.

"จิรัฐ บวรวัฒนะ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรส อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์ จำกัด

ก่อร่างสร้างอาณาจักรไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป ด้วยกระแสล้นโซเชียลมีเดียจากเพลงคุกกี้เสี่ยงทาย ส่งให้ชื่อ BNK48 เป็นที่รู้จักและโด่งดังในเวลาเพียง 2 ปี พร้อมกับการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ๆ ทางการตลาด ตั้งแต่เพลงฮิตติดหู “คุกกี้เสี่ยงทาย” ที่ตอนนี้ยอดวิวไต่ขึ้นอยู่ที่ 172 ล้านวิว หรือยอดการขายบัตรคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกที่หมดใน30 นาที ตามมาด้วยสินค้ากว่า 10 แบรนด์ ไล่เรียงตั้งแต่รถยนต์ เครื่องดื่มร้านอาหาร ฯลฯ รุมแย่งให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ ยิ่งตอกย้ำความแรงของ BNK48

แต่โจทย์ใหม่จากนี้ไป คือ การรักษาและต่อยอดธุรกิจไอดอลกรุ๊ปให้ผลิดอกออกผลได้มากที่สุด นั่นหมายถึงกระบวนการสร้างโมเดลธุรกิจให้แข็งแรง เพื่อรองรับทุกการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น พร้อม ๆ กับสร้างการเติบโตในอนาคต

ล่าสุด “ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ “จิรัฐ บวรวัฒนะ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรส อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป ถึงการก้าวเดินของไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปยอดนิยมไว้ ดังนี้

“จิรัฐ” เริ่มต้นการสนทนาว่า จากนี้ไปจะเดินหน้าเชิงรุกมากขึ้นด้วยการขยายธุรกิจเข้าสู่พื้นที่ใหม่ ๆ ซึ่งได้เริ่มตั้งแต่ปีก่อน ด้วยการส่งสมาชิกแต่ละคนของวง BNK48 ไปแสดงภาพยนตร์และซีรีส์เพิ่มขึ้น โดยปีนี้จะมีหนัง 4 เรื่องและเข้าฉายแล้ว 1 เรื่อง คือกระสือสยามที่ร่วมทุนกับสหมงคลฟิล์ม ตามด้วย“ไทบ้านเดอะซีรีส์ X BNK48” ที่ร่วมกับบริษัท เซิ้ง โปรดักชั่น แอนด์ ออแกไนเซอร์ จำกัด

ครึ่งปีหลังจะมีเข้าฉาย 2 เรื่อง ซึ่งบริษัทลงทุนเองทั้งหมด ได้แก่ Where We Belong เข้าฉายเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้ผลตอบรับดี ส่วนอีกเรื่อง คือReal Me ภาพยนตร์สารคดีของ BNK48 จากปีก่อนที่ได้นำ “GIRLS DON’T CRY” ไปฉายในงานเทศกาลหนังโลกทำให้คนทั่วโลกสนใจเรื่องราวของ BNK48 มากขึ้น

ส่วนปี 2563 ก็จะร่วมกับบริษัทต่างประเทศผลิตภาพยนตร์เพิ่มขึ้น

คีย์แมนของ BNK48 ย้ำว่า ตอนนี้บริษัทมีแนวทางชัดเจนในการพา BNK48 ออกไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ ซึ่งสิ่งที่พาออกไปใช้ช่วง BNK48 แต่กำลังพาคอนเทนต์ออกไปตลาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะจีน และประเทศในเอเชีย ซึ่งวันนี้ก็มีคอนเทนต์ที่หลากหลายขึ้น ทั้ง ภาพยนตร์ ซีรีส์

พร้อมกันนี้เขายังขยายความว่า ถ้าหนังประสบความสำเร็จ สมาชิก BNK48 ก็จะทำหน้าที่ในการซัพพอร์ต ทั้งงานโชว์ตัว อีเวนต์ต่าง ๆ รวมถึงการเป็นพรีเซ็นเตอร์ พร้อม ๆ กับการสร้างฐานคนดูใหม่ ๆ ไปพร้อม ๆ กัน

“เท่ากับว่าหนังจะเป็นเครื่องมือสร้างมุมมองใหม่ ทั้งการปรับภาพลักษณ์ BNK48 ให้มีวาไรตี้มากขึ้น มีมากกว่าแค่ผลงานเพลง ขณะเดียวกัน ก็จะเป็นช่องทางการหารายได้ใหม่ ๆ ให้แก่องค์กร จากเดิมที่มีรายได้จากการขายเพลง ขายแผ่นซีดี สินค้าเมอร์แชนไดซิ่ง และสุดท้ายคือ ช่องทางโปรโมต BNK48 ที่จะครอบคลุมทุกพื้นที่ทุกโลเกชั่นและทุกกลุ่มอายุมากขึ้น นั่นหมายถึงการมีฐานแฟนที่กว้างมากขึ้น”

นอกจากมิติการขยายตลาดต่างประเทศด้วยการใช้ภาพยนตร์เป็นตัวนำแล้ว ควบคู่กันนี้บริษัทยังเดินหน้าขยายฐานผู้ชมต่างจังหวัดมากขึ้น ล่าสุดเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้เปิดตัววง”เชียงใหม่ 48″ หรือ CGM48 และอนาคตก็มีแผนจะขยายโมเดลนี้ไปยังภาคอีสาน ภาคใต้ รวมถึงจังหวัดอื่น ๆ ด้วย

สำหรับวง CGM48 คาดว่าจะสามารถเปิดตัวสมาชิกใหม่ได้ในปี 2563 โดยที่ CGM48 จะทำหน้าที่นำเสนออัตลักษณ์ของภาคเหนือ เสมือนเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของภาคนี้ และมีแผนจะสร้างเดอะแคมปัส (The Campus) ขึ้นที่เชียงใหม่ด้วย เพื่อเป็นพื้นที่แสดงโชว์สำหรับ CGM48 ด้วย

เหตุผลที่เลือกตั้งวงไอดอลกรุ๊ปที่เชียงใหม่ เพราะจากการสำรวจตลาดในต่างจังหวัดพบว่า เชียงใหม่มีฐานแฟนคลับแข็งแรงและอัตราการเติบโตที่ดี ซึ่งโมเดลนี้จะทำให้ธุรกิจไอดอลกรุ๊ปชัดเจนขึ้นว่า ไม่ใช่แค่การบริหารวง แต่เป็นการบริหารระบบไอดอลกรุ๊ป เสมือนการแข่งขันของแต่ละสโมสร คล้าย ๆ กับโมเดลของสโมสรฟุตบอล แต่ละวงก็จะมีฐานแฟนคลับของตัวเอง

เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาภาพของบีเอ็นเค48 คือ ไอดอลกรุ๊ป ที่นำเสนอเรื่องการร้องเพลง การเต้น แต่ตอนนี้ภาพจะค่อย ๆ เปลี่ยน ไม่ใช่แค่ไอดอลกรุ๊ปที่ ร้อง เล่น เต้นเก่ง เท่านั้น แต่จะนำเสนอความสามารถที่หลากหลายมากขึ้นด้วยคอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมีความเป็นแมสมากขึ้นจากฐานแฟนคลับกลุ่มใหม่ ๆโดยเฉพาะต่างจังหวัดที่เพิ่มขึ้น

“ตอนนี้ผมถือว่าบีเอ็นเคเริ่มแมสเพราะเป็นที่รู้จักมากขึ้น สะท้อนจากแบรนด์สินค้าที่ดึงเป็นพรีเซ็นเตอร์ เช่น โตโยต้า ซัมซุง เป็นต้น แต่มากกว่าความแมส คือ BNK48 มีฐานแฟนคลับที่แข็งแรงและพร้อมจะสนับสนุนเรา จากนี้ไปเราจะทำให้คำว่า แมส ชัดเจนขึ้น ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ก็จะทำให้ภาพของการเป็นทาเลนต์แมเนจเมนต์ (talent management) ชัดเจนขึ้น”

นั่นหมายถึงการต่อยอดไอดอลกรุ๊ปสู่ทุกคอนเทนต์ ทั้งเพลง หนัง ละคร ซีรีส์ รวมถึงเกม “BNK48 Oshi Festival” ที่ได้ทำไปแล้ว

เมื่อถามว่า “ตอนนี้ BNK48 เป็นทุกอย่างครบแล้วหรือไม่ ?

“จิรัฐ” ตอบทิ้งท้ายว่า “ไม่ได้คิดว่าครบหรือไม่ครบ แต่ถ้ามีโอกาสที่น่าสนใจเราก็จะทำ เพราะการบริหาร BNK48 ไม่ได้ตั้งกรอบไว้ ดังนั้น จึงพร้อมโต พร้อมเปิดพื้นที่ และโอกาสใหม่ ๆ อยู่เสมอ”