กรกนก มาอินทร์ : เรื่อง, Live Nation BEC-Tero and Unusual Entertainment : ภาพ
ใครจะไปคิดว่าวงที่ยุบไปแล้ว ศิลปินต่างแยกย้ายไปทำสิ่งต่าง ๆ แล้ว วันหนึ่งเมื่อเวลาผ่านไปทั้งหมดจะมารวมตัวยืนร้องเพลงสดๆ อยู่ตรงหน้า !
เป็นเวลาหลายสิบปีที่เราเติบโตมาพร้อมกับเพลง “My Love” เพลงแรกที่พาเราไปรู้จักกับ Westlife วงบอยแบนด์จากไอร์แลนด์ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากมายเมื่อปลายยุค 90s ก่อนที่จะมีข่าวยุบวงในปี 2012 และเพิ่งมารวมตัวกันอีกครั้งเมื่อปีที่ผ่านมา พร้อมกับการเริ่มต้นทัวร์คอนเสิร์ตให้แฟน ๆ ได้หายคิดถึง
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
คอนเสิร์ต “The Twenty Tour” การทัวร์คอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 20 ปี ที่ Westlife โลดแล่นอยู่ในวงการเพลง ซึ่งทำการแสดงในเมืองไทยเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี สมาชิกวงทั้ง 4 คน พร้อมหน้ากันบนเวที ได้แก่ เชน ฟิแลน, คีแอน อีแกน, มาร์คัส ฟีฮิลิ และนิกกี้ เบิร์น ให้แฟน ๆ ได้กรี๊ดสมกับความคิดถึง
Westlife ประเดิมเวทีด้วยเพลง Hello My Love เพลงแรกที่ทำเอาทั้งฮอลล์ร้องตามเสียงดังสนั่น หนุ่ม ๆ มาในชุดสีดำ คาดด้วยแถบสีต่าง ๆ ก่อนจะปลุกแฟน ๆ กันรัวๆ ด้วยเพลง “Swear It Again”, “What About Now”, “My Love” ด้วยพลังเสียงที่เหมือนถอดออกมาจากอัลบั้ม ก่อนจะปิดช่วงแรกด้วยเพลง “When You’re Looking Like That”, “Uptown Girl”, “If I Let You Go” และ “Better Man”
ทั้ง 4 หนุ่มต่างมีพลังเสียงที่ต่างกันออกไป เชน คือ คุณลุงที่เสียงดี นุ่ม ละมุน คีแอน คือ คุณลุงที่ดูทะเล้น ขี้เล่น ที่เสียงร้องดี มาร์ค คือคุณลุง ที่เสียงร้องทรงพลัง เสียงแหบพร่าช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน และนิกกี้ คุณลุงที่เสียงร้องดี แต่ลีลาพริ้วไหวบนเวทีต้องยกให้
เหมือนเราไม่ได้นั่งดูคอนเสิร์ตของศิลปินที่ชอบอย่างเดียว แต่บรรยากาศและการเล่นกับคนดูจนเหมือนเรามาดูทอล์กโชว์ และในบางจังหวะที่ทั้งวงต่างแซวแฟนเพลงเรียกเสียงหัวเราะ จนแอบคิดว่าตัวเองมาดูหนุ่ม ๆ เล่นตลกเสียไม่ได้
ช่วงที่ทั้ง 4 คน ร้องคัฟเวอร์เพลง Another One Bites the Dust/ Radio Gaga/ I Want to Break Free/ Somebody to Love/ Don’t Stop Me Now/ We Will Rock You/ We Are the Champions ของวงควีนแบบเม็ดเลย์ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็ทำเอาทั้งฮอลล์ลุกขึ้นเต้นตามศิลปินที่รักตรงหน้า
เข้าสู่ช่วงท้ายคอนเสิร์ตด้วยเพลง “I Have a Dream”, “Unbreakable”, “Fool Again”, “Queen of My Heart”, “Dynamite” ซึ่งหนุ่ม ๆ ร้องเพียงครึ่งเพลง จนทำให้แอบคิดว่าโปรเจ็กต์ที่แฟนคลับต่างเฝ้ารอทำให้ในเพลง “Raise Me Up” จะลุล่วงหรือเปล่า แต่ก็ผ่านมันไปได้ดี เพราะพอถึงท่อนที่ต้องทำโปรเจ็กต์ ชูป้ายกระดาษพร้อมเปิดแสงไฟจากโทรศัพท์ ทั้งฮอลล์ก็สว่างจ้าไปด้วยแสงไฟมากมายที่แฟนคลับต่างทำเพื่อศิลปินตรงหน้า เราว่านอกจากจะทำมันด้วยความรักศิลปินแล้ว ยังเป็นการต้อนรับพวกเขาในการทัวร์เอเชียครั้งแรกที่กรุงเทพฯ ที่แสนอบอุ่น เสียงขอบคุณจากหนุ่ม ๆ และสมาชิกวงอย่าง มาร์คที่ขอกระดาษโปรเจกต์ขึ้นไปบนเวที ทำเอาเราอิ่มเอมหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
จบเพลงด้วยเสียงขอบคุณ และเสียงร้องอย่างมีความสุขของแฟน ๆ ก่อนที่ทั้งหมดจะลงเวที ไฟทั้งฮอลล์ยังคงมืดสนิท เสียงร้องตะโกนเรียก Westlife ดังทั้งทั่วทั้งฮอลล์ เพื่อให้พวกเขาทั้งสี่กลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้ง
และก็เป็นจริง ทั้งหมดกลับมาในชุดสีขาว ปิดโชว์คอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยเพลง “Flying Without Wings” และ “World of Our Own” อย่างสมบูรณ์
นับเป็นฝันที่เป็นจริงครั้งหนึ่งของแฟน ๆ ที่ได้เห็น ได้ฟังศิลปินที่ชื่นชอบตรงหน้า เสียงร้องสดดีเกินจะบรรยาย ความสุขที่ได้จากคอนเสิร์ต เราบอกกับตัวเองว่าจะไม่มีวันลืมโมเม้นต์เหล่านี้กับ Westlife วงที่เราเติบโตมาพร้อมกับเพลงของพวกเขา และหวังว่าคำสัญญาที่ให้ไว้ระหว่างเล่นคอนเสิร์ตที่จะกลับมาอีกครั้งในปีหน้า…จะเป็นจริง
