Rambo : Last Blood ตำนานที่ยังคงความมันส์ได้ถึงกึ๋น

mysterious : เรื่อง

ทิ้งช่วงห่างหายจากจอเงินไปนาน สำหรับภาพยนตร์บู๊แอ็กชั่นล้างผลาญระดับตำนาน “Rambo” ที่เมื่อ 11 ปีก่อนก็ดูเหมือนว่าตำนานของจอห์น แรมโบ้ จะหยุดไว้ที่ภาค 4 เป็นภาคสุดท้าย ในขณะที่ “พี่สไล” หรือซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ตอนนั้นก็มีอายุอานามปาไป 62 ปีแล้ว แต่ภายหลังการปลุกตัวละครแอ็กชั่นอย่าง “Rocky” ขึ้นมาใน “creed” อีกครั้ง และดันได้รับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด ก็ทำให้นักสู้มือสังหารอย่างแรมโบ้ได้กลับมาโลดแล่นบนหน้าจออีกครั้งเช่นกัน และภาคนี้ก็ดูจะเป็น “last” ของนายทหารผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวกรำศึกมายาวนานหลายทศวรรษแล้วจริง ๆ เสียด้วย

Rambo : Last Blood ได้เอเดรียน กรัมเบิร์ก ผู้กำกับมาแรงจากซีรีส์ชื่อดังทั้ง Narcos และ Sense 8 มาควบคุมงานสร้างทั้งหมด ส่วนบทภาพยนตร์ซิลเวสเตอร์ยังคงรับหน้าที่เขียนบทร่วมกับแมทธิว ไซรูลนิก ในภาคนี้เราจะได้เห็นการเติบโตของตัวละครค่อนข้างชัดเจน จอห์นอาจจะไม่บ้าดีเดือดเท่าภาคแรก ๆ เพราะด้วยอายุของเขาก็เทียบเท่าวัยเกษียณที่น่าจะได้รีไทร์ตัวเอง นั่ง ๆ นอน ๆ จิบกาแฟ-ปลูกต้นไม้อยู่บ้านเลี้ยงหลานไปแล้ว ซึ่งแรมโบ้ก็มีพาร์ตนี้ในเรื่องอยู่บ้างเช่นกัน

จอห์น แรมโบ้ ที่ผ่านศึกสงครามและการต่อสู้มาหนักหน่วง ใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายกับมาเรีย (เอเดรียนา บาร์ราซา) แม่บ้านคนสนิทและหลานสาวของเธอแกเบรียล (อีเวตต์ มอนเรียล) ชนวนของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อแกเบรียลเกิดอยากตามหาพ่อแท้ ๆ จนเธอได้ทราบข่าวว่า เขาใช้ชีวิตอยู่ที่เม็กซิโก ทั้งจอห์นและมาเรียพยายามห้ามไม่ให้แกเบรียลไปที่นั่น แต่ด้วยความกระหายใคร่รู้เธอตัดสินใจขับรถไปเจอพ่อ และพลาดท่าโดนแก๊งมาเฟียค้ามนุษย์จับตัวไป

หนังเลือกเปิดเรื่องด้วยซีนเท่ ๆ คูล ๆ สไตล์แรมโบ้ด้วยการเข้าไปเป็นอาสาช่วยชีวิตเหยื่อจากน้ำป่า แค่กล้องแพลนไปที่จอห์นก้มหน้า ใส่หมวก และควบม้าเบา ๆ ก็เท่อย่าบอกใครแล้ว และแม้ในช่วงแรกหนังจะเล่าปูมหลังของจอห์น แรมโบ้ ไปนานอยู่เสียหน่อย แต่ก็พอจะทำให้เราอินไปกับเรื่องราวต่อจากนั้นที่บอกเลยว่า บ้า ระห่ำ และหนักหนาเอาการกว่าภาคที่ผ่าน ๆ มาแบบสุดขั้วเลยล่ะ

ฉากแอ็กชั่นในภาคนี้ไปไกลกว่าภาคก่อน ๆ ในแง่ความโหด ดิบ เถื่อน ฉากเรต R ที่ได้มาหนังใช้คุ้มค่ามาก ๆ เพราะทันทีที่จอห์นเริ่มไล่ล่าพวกมาเฟียเม็กซิกัน ความดิบเหล่านี้ก็จัดเต็มชนิดที่หลายคนคงจะดูแบบเบือนหน้า-จิกเบาะไปไม่น้อยกว่า 10 ฉากแน่นอน ครั้งนี้บู๊แอ็กชั่นมาทุกชนิด ทั้งเชิงมวย ปืน มีด ธนู ระเบิด ครบจบในเรื่องเดียว และที่สำคัญความสนุกของการไล่ล่าครั้งนี้ไม่ใช่การนั่งลุ้นตัวโก่งว่าใครจะแพ้หรือชนะ แต่เป็นการดูเอาสะใจแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะซีนอุโมงค์ใต้ดินภายในบ้านของแรมโบ้ที่เดินเรื่องได้ดีทั้งทีมแอ็กชั่น ทีมตัดต่อ นักแสดงนำ รวมถึงนักแสดงประกอบ เข้าขากันได้ลงตัวเลย

จุดอ่อนในเรื่องคงจะเป็นบทที่ดูเบาไปสักหน่อย ตัวร้ายในเรื่องเน้นปริมาณแต่ไม่ค่อยมีคุณภาพ เหมือนดันให้แรมโบ้เป็นพระเอกเท่ ๆ ฆ่าคู่ต่อสู้แบบง่าย ๆ จนเกินไป แม้แรมโบ้จะถูกเอาคืนในบางฉากแต่นั่นก็ไม่ระคายผิวพี่สไลเลยสักนิด แถมยังพลิกกลับมาอัดศัตรูซะกระจุยจนคนดูไม่ต้องลุ้นตามเลย เอาเป็นว่าเข้าไปดูแรมโบ้บู๊ ๆ ให้หายคิดถึงกันก็พอ

ในชีวิตจริงซิลเวสเตอร์ปาเข้าไป 72 ปีแล้ว แต่หุ่นยังบึกบึนแข็งแรงกว่าหนุ่ม ๆ หลาย ๆ คนเสียอีก ข่าวแว่ว ๆ ที่ยังไม่คอนเฟิร์มพี่สไลน่าจะมีแพลนสำหรับแรมโบ้ไปอีกสักภาคด้วย ดูจากภาคนี้แล้วก็ไม่แปลกใจ เพราะแรงเหลือเฟืออีกเยอะ ฉากบู๊แอ็กชั่นจัดจ้าน หรือซีนดราม่าส่งอารมณ์พี่แกกินเรียบเอาอยู่หมดจริง ๆ