5 หนังโรคระบาด ที่น่าดูให้ตื่นเต้น ในสถานการณ์ไวรัสคุกคามโลก

ผ่านมาเกือบ 4 เดือน สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ยังไม่ดีขึ้น สถานที่ที่มีความเสี่ยงยังไม่เปิดให้บริการ หนึ่งในนั้นก็คือโรงภาพยนตร์ และน่าจะยังคงต้องปิดไปอีกพักใหญ่ ส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่องใหม่ ๆ ที่รอคิวเข้าฉายต้องถูกเลื่อนออกไปเรื่อย ๆ

 

ในเมื่อไม่มีภาพยนตร์เรื่องใหม่ ๆ ให้ชม อีกทั้งยังต้องกักตัวอยู่บ้านเพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับ-แพร่เชื้อ พร้อมกันนั้นก็ยังต้องการข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดแบบรายวัน รายชั่วโมง หรือสำหรับบางคนอาจจะตลอดเวลา “ดีไลฟ์-ประชาชาติธุรกิจ” จึงเลือกภาพยนตร์ 5 เรื่องที่เข้ากับสถานการณ์โรคระบาดมาชวนให้ชมกัน โดยเลือกเรื่องที่มีที่มาที่ไป หรือต้องค้นหาที่มาที่ไปของโรคระบาดกันนิดนึง ไม่ใช่ว่าซอมบี้วิ่งกัดกันเอามันเฉย ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่มาที่ไปของโรคระบาดในเรื่องก็มีทั้งที่สมเหตุสมผลบ้าง ไม่สมเหตุสมผลบ้าง ตามประสาภาพยนตร์

ถ้าอยากเพิ่มความตื่นเต้นในสถานการณ์ที่ไวรัสกำลังแพร่ระบาดทำลายโลก ลองหามาดูกัน

Contagion (ปี 2011)

Contagion มีชื่อภาษาไทยว่า “สัมผัสล้างโลก” เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่พูดถึงบ่อยที่สุดในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยความคล้ายคลึงกันของการแพร่ระบาด รวมถึงต้นตอที่มาของไวรัสเหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นเมื่อเบธ เอ็มฮอฟฟ์ (รับบทโดยกวินเน็ธ พัลโทรว์) เดินทางกลับจากฮ่องกงมายังรัฐมินนิโซตา เธอรู้สึกไม่สบายตัว แต่คิดว่าเป็นเพียงอาการอ่อนเพลียจากการเดินทางเป็นเวลานานเท่านั้น แต่ 2 วันถัดมา เธอเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ต่อมาไม่นาน หลายคนเริ่มมีอาการเดียวกัน และการแพร่ระบาดก็ปะทุออกมา ผู้คนในวงการแพทย์พยายามจะจำกัดวงของผู้ติดเชื้อ แต่สังคมเริ่มมีรอยร้าวเมื่อมีบล็อกเกอร์ (รับบทโดยจู๊ด ลอว์) คนหนึ่งให้ข้อมูลผิด ๆ เกี่ยวกับการแพร่ระบาดแก่ประชาชนเพื่อขายข่าว

World War Z (ปี 2013)

เรื่องนี้มีที่มาจากหนังสือขายดีของ แมกซ์ บรูกส์ (Max Brooks) เรื่อง World War Z : An Oral History of the Zombie ที่วางขายในปี 2006 เป็นนิยายที่เล่าเรื่องราวคำบอกเล่าของผู้ที่ผ่านเหตุการณ์สงครามระหว่างมนุษย์กับซอมบี้

ส่วนในภาพยนตร์จะแตกต่างจากในหนังสือ โดยจะดำเนินเรื่องตามตัวละครหลักชื่อ เจอร์รี่ เลน (รับบทโดยแบรด พิตต์)อดีตเจ้าหน้าที่สืบสวนขององค์การสหประชาชาติ ที่เช้าวันหนึ่ง เจอร์รี่และครอบครัวต้องเผชิญกับเหตุการณ์โกลาหล บางสิ่งบางอย่างกำลังทำให้ผู้คนทำร้ายกันอย่างรุนแรง สิ่งนั้นคือเชื้อไวรัสไม่ทราบที่มาที่แพร่กระจายได้ผ่านการโดนกัดเพียงครั้งเดียว กลายเป็นโรคระบาดไปทั่วโลก เจอร์รี่ถูกสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องหวนกลับไปใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยอันตราย เพื่อรับประกันความปลอดภัยของครอบครัว และเขาเป็นผู้นำการค้นหาที่มาของโรคระบาดที่เกิดขึ้น

12 Monkeys (ปี 1995)

12 Monkeys มีชื่อภาษาไทยว่า “12 ลิงมฤตยูล้างโลก” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโลกในอนาคตราวปี 2035 ที่ไวรัสทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์จนไม่สามารถอาศัยอยู่บนพื้นดินได้อีกต่อไป เหล่ามนุษย์ที่รอดพ้นจึงต้องอพยพลงไปอยู่ใต้ดิน นักโทษนามเจมส์ โคล (รับบทโดยบรูซ วิลลิส) ถูกส่งย้อนเวลาไปในอดีตเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสตัวนี้ รวมถึงหาข้อมูลความเกี่ยวข้องของเชื้อไวรัสกับลิง 12 ตัวที่ยังคงเป็นปริศนาด้วย

Outbreak (ปี 1995)

Outbreak หรือ “วิกฤตไวรัสสูบนรก” เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ไวรัสแพร่ระบาดที่มีความสมจริง โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเชื้อไวรัสอีโบลา เชื้อไวรัสในภาพยนตร์มีชื่อว่าโมทาบา มีที่มาจากลิงทดลองในแอฟริกาที่ถูกลักลอบนำเข้ามา ทำให้เกิดการแพร่ระบาดร้ายแรงขึ้นในเมืองเล็ก ๆ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย พันเอกแซม แดเนียลส์ (รับบทโดยดัสติน ฮอฟฟ์แมน) นายแพทย์ทหารได้รับมอบหมายให้มาตรวจสอบ โดยได้รับความช่วยเหลือจากอดีตภรรยา (รับบทโดยเรเน รุสโซ) ในการทำงานแข่งกับเวลาเพื่อช่วยเหลือโลก ท่ามกลางความเลวร้ายของเหล่าผู้มีอิทธิพล นายทหารในกองทัพบกสหรัฐ ที่มีแผนการซ่อนเรื่องราวการแพร่ระบาดของไวรัสและยารักษาโรคไว้เป็นความลับ

28 Days Later (ปี 2003)

ภาพยนตร์ 28 Days Later หรือ “28 วันให้หลัง เชื้อเขมือบคน” เป็นภาพยนตร์ทุนต่ำที่เป็นที่น่าจดจำในเรื่องของความสยองขวัญมากที่สุดเรื่องหนึ่ง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ไวรัสแพร่ระบาดอยู่นี้

เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์บุกเข้าไปในห้องทดลองแห่งหนึ่งเพื่อปล่อยลิงชิมแปนซีที่ถูกจับมาทดลอง ซึ่งลิงเหล่านี้ติดเชื้อไวรัสที่ทำให้ก้าวร้าว กลุ่มนักเคลื่อนไหวไม่สนใจคำเตือนของนักวิทยาศาสตร์ ปล่อยลิงเหล่านี้ออกมาอาละวาด เป็นเหตุให้ทั้งหมดตกเป็นเหยื่อของเหล่าลิงที่กำลังเดือดดาล 28 วันต่อมา ไวรัสที่ไม่มีทางรักษานี้แพร่กระจายไปทั่วสหราชอาณาจักร เปลี่ยนผู้คนให้มีความก้าวร้าวและกระหายเลือดไม่ต่างจากซอมบี้