LOMOSONIC กับวิถีใหม่ของศิลปินยุคโควิด เล่นคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มทางออนไลน์

ราว 3 เดือนแล้วที่การแสดงดนตรีสดไม่สามารถทำได้ เช่นกันกับกิจกรรมอีกหลายอย่างที่วิถีของมันคือมีคนจำนวนมากมารวมตัวกัน สิ่งที่เป็นอยู่นี้เป็นภาวการณ์ที่ทำให้ขาดความสนุก เกิดความรู้สึกเหี่ยวเฉา แต่เราทุกคนก็เข้าใจและยอมรับมัน


พอจัดการเรื่องสำคัญได้ เริ่มปรับตัวได้ สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ก็มีความพยายามสร้างกิจกรรมทางบันเทิง อย่างสถานบันเทิง ผับ บาร์ หลายแห่งได้ทำไลฟ์สตรีมการแสดงดนตรีสดในร้าน ค่ายเพลงก็เริ่มทำคอนเสิร์ตออนไลน์ให้ศิลปิน พยายามสร้างความสุข ความมีชีวิตชีวาเท่าที่จะทำได้

หนึ่งในไลฟ์สตรีมการแสดงดนตรีสดที่เกิดขึ้นอย่างน่าประทับใจก็คือ คอนเสิร์ต เปิดตัวอัลบั้ม SWEET BROS. ของวงโลโมโซนิค (LOMOSONIC) เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเดิมทีการเปิดตัวอัลบั้มนี้จะเป็นคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบที่เปิดให้แฟนเพลงเข้าร่วมชมจริง แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ทำให้คอนเสิร์ตที่วางแผนกันไว้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ พวกเขาและทีมงานจึงปรับเป็นการแสดงคอนเสิร์ตในคุณภาพเท่าเดิม แต่ไลฟ์สตรีมผ่านเฟซบุ๊กแทนการให้แฟนเพลงเข้ามาร่วมชมตรงหน้า

อัลบั้ม SWEET BROS. เป็นผลงานเพลงชุดที่ 4 ของโลโมโซนิค หนึ่งในวงดนตรีที่เราอยากนิยามพวกเขาว่า “จัดจ้าน” ทั้งตัวเพลงและการแสดงสด ซึ่งอัลบั้มนี้พวกเขาได้ย้ายค่ายใหม่จากสนามหลวงมิวสิก (Sanamluang Music) สู่ค่ายจีนี่ เรคคอร์ดส (genie records) และมีอ๊อฟ บิ๊กแอส เป็นโปรดิวเซอร์ให้

หลังจากการแสดงคอนเสิร์ตที่ช่วยปลุกความมีชีวิตชีวาของวงการเพลง เราก็ได้พูดคุยกับบอย ป้อม ปิติ และออตโต้ 4 หนุ่มวงโลโมโซนิคเกี่ยวกับอัลบั้มนี้ และความรู้สึกของศิลปินที่ได้เล่นคอนเสิร์ตวิถีใหม่ให้แฟน ๆ ดูผ่านหน้าจอ

โลโมโซนิคบอกว่า อัลบั้มนี้พวกเขาสื่อสารเนื้อหาแบบคนที่โตขึ้น พูดเข้าใจง่ายขึ้น ด้วยความที่วงเติบโตขึ้น และเริ่มมีความเป็นพี่คน มีแฟนเพลงมาร้องไห้ในคอนเสิร์ต ซึ่งพวกเขามองว่าคนเราไม่ใช่จะร้องไห้กับใครก็ได้ แต่คนจะร้องไห้กับคนที่รู้สึกไว้ใจเท่านั้น พวกเขาจึงรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นพี่ชายที่แฟนเพลงไว้ใจ

“BROS. ก็คือพี่ชาย ส่วน SWEET เป็นคำสแลงแปลว่า เจ๋ง เฟี้ยว มันก็สื่อถึงแกนคอนเซ็ปต์อัลบั้มนี้ที่จะมีสีสันมากขึ้น ขี้เล่น แมสขึ้น สื่อสารเข้าใจ แต่ทั้งหมดอยู่บนโครงสร้างพื้นฐานดนตรีที่เป็นโลโมโซนิค มีความซับซ้อนที่ย่อยออกมาแล้ว อัลบั้มนี้เราตั้งใจจะพูดให้รู้เรื่องขึ้น” ซึ่งกระบวนการคิดให้ย่อยออกมาแล้วเข้าใจง่ายนั้นยากสำหรับคนทำงาน

ถ้าเป็นเมื่อก่อนโลโมโซนิคจะไม่มีความคิดอยากสื่อสารให้ง่ายแบบนี้ พวกเขาเคยบอกว่า พวกเขาทำเพลงแบบที่ตัวเองชอบ ถ้าใครชอบก็ฟัง ใครไม่ชอบก็ไม่ต้องฟัง ตรง ๆ ง่าย ๆ แค่นั้น แต่ด้วยความที่โตขึ้นทำให้พวกเขาอยากสื่อสารกับคนวงกว้างขึ้น นี่คงเป็นอย่างหนึ่งที่เรียกกันว่า “พัฒนาการ”

“พอเรามีประสบการณ์การทำงาน เรามานั่งคุยกันว่าเราชอบเล่นสด และเราชอบเล่นมันต่อหน้าคนเยอะ ๆ ตอนนี้เรามองกว้างขึ้น การทำให้คนที่ไม่ได้รักเรารู้สึกชอบมัน อันนี้ท้าทายกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเปลี่ยนเพื่อเขา ณ เวลานี้เรามีอายุอานามประมาณ 34-35 ถ้าเรายังทำเพลงแบบชุดแรก เราต้องอยู่ในห้องนอนแล้วฟังกันเอง”

พวกเขาบอกว่า อีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้อยากสื่อสารกับคนกว้างขึ้นก็คือ การย้ายค่ายมาอยู่ค่ายจีนี่ เร็คคอร์ดส ซึ่งมีฐานแฟนเพลงจำนวนมาก การที่จะทำเพลงเพื่อตัวเองเป็นหลักแบบเดิมคงจะไม่ดี

“อันที่จริงเราไม่ค่อยได้ตั้งใจทำเพลงให้ตัวเองฟังขนาดนั้นหรอกครับ เราตั้งใจทำเพลงให้ดังทุกอัลบั้ม เพียงแต่ว่าด้วยความถึงพร้อมของสิ่งต่าง ๆ มันยังมาไม่ถึง แต่อัลบั้มนี้เป็นช่วงที่เราเตรียมพร้อมที่สุดแล้ว” ซึ่งนั่นก็ออกมาเป็นผลงานอีพีอัลบั้มจำนวนเพลง 6 เพลงที่พวกเขาบอกว่า “ชอบทั้งหมดเลยครับ รวมกันแล้วมันลงตัว” และสำเร็จออกมาตรงโจทย์ที่ว่าอยากทำเพลงเพื่อทุกคน

ถึงแม้มีแฟนเพลงเหนียวแน่น และมีเพลงที่วงมั่นใจว่าดี แต่การเปิดตัวอัลบั้มในช่วงเวลาแบบนี้ก็ทำให้โลโมโซนิคกลัวว่าจะไม่มีคนฟัง เพราะเพลงเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากปัจจัย 4 มาก ๆ แต่ตัวเลขจำนวนคนดูการไลฟ์สตรีมคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มก็ทำให้ความกลัวนั้นหายไป

“คนจะฟังหรือเปล่า เราเคยกลัว แต่วันนี้ก็รู้สึกว่าคนยังต้องการมันอยู่ ยังมีคนให้ความสนใจและตัวเลขสถิติมันน่าดีใจ ดูแล้วมันชื่นใจ”

ในอนาคตระยะสั้นนี้ การทำคอนเสิร์ตออนไลน์กำลังจะเป็นแนวทางใหม่ของศิลปินและค่ายเพลง ซึ่งเราสามารถนับได้ว่าโลโมโซนิคเป็นศิลปินไทยรายแรกที่ได้ทำไลฟ์สตรีมคอนเสิร์ตในโปรดักชั่นมาตรฐานคอนเสิร์ตออนกราวนด์ทุกอย่าง

จากประสบการณ์ครั้งสำคัญนี้ พวกเขาแชร์ประสบการณ์และความรู้สึกว่า มันต่างกันร้อยเปอร์เซ็นต์กับคอนเสิร์ตที่มีคนดู ศิลปินต้องออกแรงมากกว่าปกติมาก เพื่อส่งพลังไปให้ถึงคนดูที่ดูผ่านจอ ถ้าอยากให้คนดูได้รับ 100 ก็ต้องส่งไป 150

“ถามว่าเรายังต้องการมันไหม มันคือสิ่งที่อยู่คู่กันครับ การเล่นดนตรีต้องมีคนดู แต่ว่าด้วยสถานการณ์ที่มีข้อจำกัด เราก็ใช้ความเข้าใจ สิ่งที่ดีที่สุดคือ ทุกคนพยายามให้มันเกิดขึ้นในทางที่ถูกต้อง เราเป็นวงดนตรีที่โชคดีที่ได้ทำ แล้วก็มีคนที่รู้สึกดีไปกับมัน มันเป็นคอนเสิร์ตไลฟ์สตรีมครั้งแรกที่มีการจัดไฟ แสง สี เสียง เหมือนคอนเสิร์ตจริง ดูจากคอมเมนต์ก็คิดว่าคนน่าจะคิดถึงมันมาก บางคนก็เข้ามาตลกโปกฮา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเห็นแล้วรู้สึกมีความสุข แสดงว่าเขาอยากจะมีความสุข อยากมีส่วนร่วมกับมันจริง ๆ”

ถามถึงความคาดหวังกับอัลบั้มนี้ พวกเขาบอกว่า อยากให้เพลงอัลบั้มนี้ได้ไปถึงคนจำนวนเยอะ ๆ เพื่อจะกลับมาตอบสิ่งที่วงต้องการคือ อยากเล่นคอนเสิร์ตต่อหน้าคนดูจำนวนเยอะ ๆ มีคนมากระโดดสนุก ๆ พร้อมกัน

สุดท้ายพวกเขาฝากให้ติดตามอัลบั้มใหม่ที่พวกเขาตั้งใจสื่อสารกับคนวงกว้างขึ้น และฝากมิวสิกวิดีโอที่จะทยอยปล่อยออกมา ส่วนคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มที่พูดถึงนั้นยังมีให้ชมทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ LOMOSONIC ถ้าใครสนใจอยากดูก็เข้าไปดูกันได้เลย