“กุญแจซอล” เจอถล่มด่าเละจนปิดไอจีหนี หลังครอบครัวประกาศตัดขาด พ่อแม่ร่ำไห้สุดช้ำ

กลายเป็นดราม่าหนักสุดเหตุปะทะรุนแรงกลางโรงพยาบาล จนครอบครัวนางเอกสาวทนไม่ไหว ประกาศตัดขาด กุญแจซอล ป่านทอทอง บุญทอง ทายาทนักแสดงรุ่นใหญ่ นึกคิด บุญทอง แล้ว โดยหนึ่ง นึกคิด และ มุกดา ภรรยา ผู้เป็นพ่อแม่ของนางเอกสาว ออกมาเปิดใจสุดช้ำไปแล้วว่า

ประกาศตัดขาดพ่อแม่ลูกแล้ว

มุกดา “ใช่ค่ะ แม่ทำหนังสือให้เขาเซ็นเลย หลังจากที่เรารออยู่หน้าห้องเขาประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่ออยากขอเข้าไปคุยกับลูกเราตามลำพัง ผู้ชายเขาไม่ยอมให้เราเข้าไป พยาบาลพยายามเข้าไปพูดไกล่เกลี่ยให้แต่เขาก็ไม่ยอมอย่างเดียวเลย แถมยังไปตาม สห.มาคุมหน้าห้อง”

เหตุการณ์ตอนไปเยี่ยมหลานเกิดอะไรขึ้น

มุกดา “เมื่อเช้าตอนที่ไปแฮปปี้มาก แต่งตัวกันสดใสเพื่อจะไปหาหลาน น้องสาวของซอลทั้งสองคนก็ซื้อเสื้อผ้า ขนนมไปให้หลาน ไปถ่ายรูปกับหลาน เขาเห่อหลานมาก พอไปถึงซอลกำลังให้นมหลานอยู่ในห้องปิดผ้าม่าน ซอลก็เรียกให้เข้ามา เราก็เข้าไปเล่นกันตามปกติ คุยกันเฮฮา พออยู่ๆฝ่ายชายเดินเข้ามาแล้วพูดตะคอกเสียงดัง จะถ่ายอะไรกันนักหนา แค่นี้ยังไม่พอกันอีกเหรอ เสียงดังตวาดไม่พอใจ”

หนึ่ง “ผมยังไม่ได้อุ้มหลานเลย ก็พูดว่าทำไมพ่อจะมาเยี่ยมลูกไม่ได้ เขาก็ไม่พอใจ น้องแจกันก็พูดว่าขอเราคุยกันในครอบครัวของเราได้มั้ย แล้วผู้ชายก็ดึงกุญแจซอลไม่ให้คุยและเอาหลานไปอุ้ม ผมก็ขึ้นเลย เราเก็บมานาน แต่ยังไม่ได้ทำอะไร กำหมัดแล้วนะ ผมสงสัยว่าทำไมตาจะอุ้มหลานไม่ได้เลยหรอ เขาไม่น่าทำแบบนี้ จริงๆเรื่องมันกำลังจะจบไปได้สวยแล้วนะ ไปเจอเหตุการณ์แบบนั้นเป็นใครก็ทนไม่ได้”

มุกดา “แม่ก็ห้ามพ่อไว้ ลูกก็น่าจะเห็นว่าเราไม่ได้ไปร้ายกับเขา”

กุญแจซอลว่ายังไงบ้าง

มุกดา “เขาก็นั่งอึ้งเหมือนกัน ก็คงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ ก็คงพูดอะไรไม่ออก เท่าที่เราสัมผัสลูกคิดว่าเจอผู้ชายล้างสมอง เขาบอกว่าข่าวที่แม่เคยให้ครั้งแรก แม่ไปโกหกสื่อว่าเขาไปเรียนให้จบเป็นทนาย แม่ก็บอกว่านั่นเป็นเพราะแม่รักหนูไง แม่ก็เลยโกหกสื่อไป เผื่อเขาจะคิดได้ในช่วงที่เรากำลังปิดบัง เก็บให้เขามาสำนึกตัวเองได้ เขาก็พูดว่าเพราะแม่ไปโกหกสื่อเอง พอมีข่าวว่าท้องหรือไม่ท้อง เขาโกหกสื่อ เราก็ออกมาช่วยเขาแก้ เขาก็โทษเรา เขาไม่ได้คิดว่าเราหวังดีกับเขาเลย เขาบอกว่าแม่ทำให้แฟนเขาโดนด่า นี่คือสิ่งที่เขาพูดกับเราวันนี้ ระยะเวลาเกือบปีทุกอย่างจากหน้ามือเป็นหลังมือ เราไปส่งลูกถ่ายละคร หรือให้รถกองถ่ายมารับ เขาก็ล้างสมองลูกว่าพ่อแม่ไม่อยากให้ขับรถ ทุกอย่างที่เราหวังดีกับลูกก็โดนลูกล้างสมองหมดเลย ตอนนี้เขาโดนฝ่ายโน้นล้างสมอง เขาบอกว่าแม่ไม่รักเขา ลำเอียง แม่กีดกัน ถ้าแม่ไม่รัก แม่คงไม่ตามหา แม่รู้ว่าซอลไปที่ไหนแม่ก็ตามไป ไปตามหาเขาทุกที่แม้กระทั่งที่สนามบินในช่วงแรกที่ไปก็กลัวว่าเขาจะโดนทำร้ายหรือเปล่า เขาก็คิดว่าเราจะไปแจ้งความจับแฟนเขา”

ความรู้สึกหัวอกคนเป็นพ่อแม่ ณ ตอนนี้

หนึ่ง “เสียใจครับ อุตส่าห์ประคบประหงมเขามา”

มุกดา “เราสอนเขาทุกเรื่อง แต่สุดท้ายผู้ชายเอาไปทำทุกอย่างทำร้ายลูกเราหมดเลย ลูกเราไม่เคยนอนดึก ก็รู้ว่าลูกเราไปทานข้าวออกไปตอนกลางคืนตีสอง เขาไปมีปัญหากับเพื่อนบ้าน กลัวเพื่อนบ้านทำร้าย เขาก็ย้ายรถตอนตีสอง เขาก็ให้ซอลขับรถตอนที่ท้องแก่ ตอนที่ซอลไปคลอดก่อนกำหนด เลือดออก ลูกหายใจช้า ออกมาแม่ว่าตัวเล็กคงจะไม่ค่อยได้บำรุง ซอลบอกว่าแอบทานโปรตีนที่แม่เคยให้หนูทาน เพราะว่าผู้ชายไม่ให้ทาน ผู้ชายให้ทานอะไรที่ธรรมดา แต่เขาต้องแอบทานเพื่อบำรุงลูก”

ประโยคไหนที่ลูกพูดแล้วเราเจ็บปวดหัวใจที่สุด

หนึ่ง “คืออย่างนี้ก่อนที่จะมีเหตุการณ์ดราม่านี้ หลังจากที่พ่อกับแม่ทนไม่ไหวแล้ว ก็ออกมาสงบสติอารมณ์นอกห้องกัน เราถูกเชิญออกมานอกห้อง เราก็มานั่งคุยกันว่าจะเอายังไง ผมบอกกับมุกว่าวันนี้เราอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อแม่เขาก็อยู่ ณัฏก็อยู่ ครอบครัวเราอยู่ วันนี้ขอคุยให้เคลียร์ไปเลยมั้ย แม่ก็เห็นด้วย เราก็พยายามจะเข้าไป แต่เขาไม่ให้ผมเข้าไป เขาไม่ให้เยี่ยม เราก็นั่งรอ 2 ชม. น้องแจกันก็เลยเข้าไปก้มดูเห็นเขาเล่นกับลูกเฉยเลยโดยที่ไม่สนใจเราสักนิดหนึ่ง ร่าเริงมาก เราอยากจบ อยากได้คำตอบวันนี้ ยังไงก็ไม่กลับ เขาบอกยังไม่พร้อม รอไม่ไหว รอมา 2 ชม.แล้ว ก็เลยเขียนจดหมายให้พยาบาลเอาไปให้ แทนที่เขาจะอ่าน เขากลับไม่สนใจกับจดหมายที่แม่แอบให้พยาบาลเอาไปให้”

มุกดา “ตอนนั้นแม่คิดเลยว่าลูกเราไปอยู่กับเขาเต็มร้อยแล้ว ก็เลยบอกว่าถ้ากุญแจซอลไม่เห็นว่าเราเป็นพ่อแม่แล้ว กุญแจก็ไปเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล ชื่อเล่นก็ไปเปลี่ยนด้วยนะ พวกทรัพย์สินทั้งหลายก็ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับของแม่ เขาบอกเขาสร้างชื่อเสียงของเขามาด้วยตัวของเขาเอง เขาพูดท้าทายเราว่าไม่มีกฎหมายอะไรมาบังคับหนูได้ แต่เขาจะเปลี่ยนเฉพาะนามสกุล อันนี้มาจากคำพูดของกุญแจซอลเลย”

พ่อแม่ฝ่ายชายว่ายังไงบ้าง

มุกดา “คือพ่อแม่ฝ่ายชายก็อยู่ด้วย พอพ่อแม่เขาจะพูดอะไรขึ้นมา ฝ่ายชายก็จะห้ามตะคอกใส่พ่อแม่เขาเลย คือมันมีอยู่เรื่องหนึ่งที่พ่อแม่เขาเอาไปพูดให้ครอบครัวเราเสียหาย ไปพูดกับเพื่อนบ้านว่าเราเรียกสินสอดไป 20 ล้าน ลูกเขาก็เลยพาลูกเราหนีเลย เราก็บอกกุญแจว่าเนี่ยฟังนะว่าเขาพูดจริงมั้ย แม่เขาบอกว่าคนอื่นเขาพูดมา แม่เลยบอกว่าแม่มีพยานนะ คนที่ได้ยินมา แม่เขากำลังจะพูดชี้แจงว่ากำลังจะซื้อบ้าน 8 ล้าน ลูกเขาก็บอกให้แม่เขาเงียบ อยากจะขอชี้แจงว่าเราไม่ได้เรียกสินสอด 20 ล้านตามที่แม่เขาไปพูด ตรงนี้มันทำร้ายจิตใจพ่อแม่อย่างเรามากเลย มีคนกลางพูดให้แค่ 2 ล้าน ลักษณะว่าไม่ได้คิดเป็นเงินเดือนของกัปตัน คิดเป็นเงินเดือนของราชการทหาร แค่ 2 ล้านเพราะเรายังมีน้องอีก 2 คนเพื่อเป็นบรรทัดฐาน แต่แม่เขาเอาไปพูดลักษณะว่าเราขายลูกกิน”

ในฐานะคนเป็นพ่อแม่ได้ปรึกษากับใครสามารถทำอย่างไรได้บ้าง

มุกดา “กรณีนี้เขามีลูกด้วยกันแล้ว ถามว่าเราจะไปฟ้องร้องเพื่อจะเรียกร้องอะไรมั้ย ก็ไม่ค่ะ ในเมื่อลูกเราเลือกอย่างนี้เขาก็ต้องเป็นไปตามนี้ เราไม่ได้ขัดขวางเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เขาอยากจะหมั้น แม่ก็จัดการให้
ทุกอย่างเลย บางอย่างไม่ได้บอกพ่อด้วยซ้ำไป”

ครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับลูกคือเรื่องอะไร

หนึ่ง “เขาบอกว่าเราโง่เองนะ นิ่งๆ ไว้ฉลาดกว่า เขาบอกเขาฉลาดเพราะเขานิ่ง”

มุกดา “ที่เรามาออกสื่อแบบนี้ จริงๆแล้วในช่วงแรกเราช่วยเขาด้วยซ้ำไป ช่วยแก้ข่าวให้เขา แต่ครั้งนี้ที่เราออกมาเพราะเราต้องการให้เขาชี้แจงเหมือนกันไม่ใช่ว่าเราอยากจะออกข่าวอยู่คนเดียว และครั้งนี้เราจะขอพูดเป็นครั้งสุดท้ายเพราะเราก็ได้พูดกับเขาไปแล้วว่า ถ้าเขาไม่ได้เห็นว่าเราเป็นพ่อเป็นแม่แล้ว เราก็ไม่ต้องเป็นแม่ลูกกัน”

ตัดขาดกันได้จริงๆ หรือ

มุกดา “ในเมื่อเขามีเลือดชั่วอย่างนี้เราก็คงไม่เอาเพราะเรายังมีลูกอีกสองคน”

หนึ่ง “เขาอยู่กับซอล เกือบปีแล้วนะที่ซอลจากครอบครัวไป เขาพยายามป้อนข้อมูล ให้เชื้อลบ เชื้อเลวกับซอลมาตลอดจนฝังในสายเลือดไปแล้ว ซอลไม่เคยเป็นอย่างนี้ รู้สึกได้เลยว่าเขาเปลี่ยนไป”

มุกดา “ตอนที่แม่จะเดินออกมาจากห้อง แม่ก็กอดเขาและบอกเขาว่ายังไงแม่จะรอหนูมา”

หนึ่ง “ผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตของผู้ชายคนนี้ไม่เป็นประสาทก็เป็นโรคจิต เท่าที่สืบมา ที่กำลังรักษาอยู่ก็มี ผมว่าผู้ชายคนนี้เขาไม่ใช่คนปกติ เหมือนคนบ้า จิตใจไม่ปกติ”

พอรู้อย่างนี้แล้วยิ่งเป็นห่วงลูก

มุกดา “ในช่วงปีแรกเขาคงจะดีกับลูกเราอยู่ เขาพยายามป้อนข้อมูลว่าที่เขาทำทุกวันนี้คือทำถูก”

หนึ่ง “วันที่ 3 พ.ย. ที่ผมไปเยี่ยมลูกวันแรกที่โรงพยาบาล จะขอโทษสักคำก็ไม่มี จิตใต้สำนึกมันไม่มีหรือไง ลูกเราก็เปลี่ยนพฤติกรรม กำลังหลง หน้ามืดตามัว เห็นผิดเป็นถูก”

หลังจากนี้จะติดต่อลูกไปอีกมั้ย

มุกดา “ก็คิดว่าคงไม่ต้องติดต่อแล้วค่ะ”

หนึ่ง “ขนาดเราเป็นพ่อเป็นแม่ยังไปรอ ไม่ให้เข้าไปเยี่ยมเลย มีแขกคนอื่นมาเขาก็มาเปิดประตูให้หมด ผมงงเลย”

ถ้าวันหนึ่งเขากลับใจมา เราพร้อมอภัยให้ลูกมั้ย

มุกดา “ขอยังไม่ตอบค่ะ น้องแจกันพยายามไกล่เกลี่ยให้บรรยากาศครอบครัวดีขึ้น แต่เขาโดนพี่สาวตอกกลับมา เขาเสียความรู้สึกมาก ร้องไห้ น้องเรด้าคนเล็กก็ยิ่งเสียความรู้สึก”

หนึ่ง “ผมจะไม่พูดถึงอดีตแล้ว ผมเป็นหัวหน้าครอบครัวต้องเข็มแข็ง มีภรรยา มีลูกสองคนที่ดูแล เราต้องทำให้คนที่อยู่กับเรามีความสุขที่สุด”

เรียกว่าผิดหวังกับลูกคนนี้

มุกดา “ผิดหวังมากค่ะ แม่ยอมแพ้ หนูก็ชนะไปแล้วกัน ต่อไปเราก็ไม่ต้องเป็นแม่ลูกกัน ตอนที่เราส่งเขาเข้าบ้านเอเอฟ แค่ 2-3 เดือนเรายังร้องไห้ พอเขาหายไปแบบนี้ (ร้องไห้) เขาไม่นึกเลยหรอว่าเราจะคิดถึงเขา ที่ผ่านมาเราก็ยอมรับให้คบกัน คิดว่าเขาเป็นทหารคงจะมีเกียรติมีศักดิ์ศรี แล้วอายุก็เยอะแล้ว เราผิดตรงที่ไว้ใจเขามากเกินไป พอเขาเป็นแบบนี้ เขาไม่ให้เกียรติทางเรา ไม่ให้เกียรติตัวเขาเอง ไม่ให้เกียรติพ่อแม่เขา และไม่ให้เกียรติหน้าที่การงานของเขาด้วย เราก็คงรับเขาอีกต่อไม่ได้”

หนึ่ง “สรุปแล้วเขาเลือกทางโน้น เราทำอะไรไม่ได้ ตัดสินใจแล้ว เขาไม่ฟังเราเลย จบก็คือจบ เขาไม่เหมือนลูกเราเลย เป็นคนละคนเลย ผมป่วยจะถามอาการผมสักคำก็ไม่มี”

อยากบอกอะไรกับเขา

มุกดา “ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว มันเจ็บอยู่ข้างใน เราก็จะเลี้ยงลูกอีกสองคนให้ดีที่สุด ที่ผ่านมาไม่ได้เลี้ยงลูกขีดเส้นตีกรอบจนเกินไป ถ้าเราขีดเส้น เขาจะมาเจอแบบนี้หรอ เขาจะได้ไปมีอะไรกันก่อนที่จะแต่งงานหรอ”

ล่าสุด นางเอกสาว เจอโซเชี่ยลถล่มด่าเละแบบรุนแรง จนเจ้าตัวต้องปิดไอจีหนี

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์