ฮีโร่มาแล้ว! “ตูน บอดี้สแลม” วิ่งถึงกรุงเทพฯ รับเงินสมทบกว่า 3 ล้าน

เมื่อเวลา 16.45 น.วันที่ 3 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม และคณะได้เดินทางมาถึงจุดพักบริเวณสถานีบริการน้ำมันการปิโตเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) เพ็ชรทวีโชค ถนนบรมราชชนนี เขตทวีวัฒนา หลังออกจากจุดพักสายออกบัตร ธนาคารแห่งประเทศไทย ถนนบรมราชชนนี เมื่อเดินทางถึงได้มีประชาชนชาวกรุงเทพฯ จำนวนมากร่วมปรบมือให้การต้อนรับขบวนของตูน เข้าสู่เมืองหลวงเป็นวันแรก ขณะเดียวกันได้ส่งเสียงเรียกชื่อ “พี่ตูนสู้ๆ” เพื่อส่งกำลังใจให้ฮีโร่ของคนไทยให้ทำภารกิจประสบความสำเร็จ โดยมีแตรวงขนาดเล็กบรรเลงเพลงของวงบอดี้สแลม ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างครึกครื้น จากนั้น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมคณะผู้บริหาร ได้มอบเงินจากทุกหน่วยงานของ กทม. รวมเป็นเงิน 1,119,111 บาท ซึ่งมีความหมายว่า ก้าวคนละก้าว จากนั้นตูนยังได้รับมอบเงินจากหน่วยงานภาคเอกชนและกลุ่มประชาชนที่มีจิตศรัทธา รวมเป็นเงินทั้งหมดประมาณ 3 ล้านบาท

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า มาให้การต้อนรับในฐานะผู้ว่าฯ เมืองหลวง มาต้อนรับในฐานะที่เป็นคนสุพรรณบุรี และมาต้อนรับในฐานะที่ตูน บอดี้สแลม เป็นวีรบุรุษของคนทั้งประเทศ การที่จะทำแบบนี้ได้ต้องมีความอดทน ความเสียสละ ทำเพื่อประเทศชาติ กทม.จึงมอบเงินสมทบเพื่อนำไปสู่ความหวัง 700 ล้านบาท โดยได้รวบรวมเงินเพื่อบริจาค 1,119,111 บาท รวมถึงกลุ่มประชาชนและสมาคมต่างๆ

ด้าน นายอาทิวราห์ กล่าวว่า ขอบคุณที่ให้เกียรติมาร่วมต้อนรับที่ได้วิ่งเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ และเป็นเกียรติที่ได้ร่วมกิจกิจกรรม ในฐานะชายวัยกลางคนวัย 40 ปี พอจะมีอะไรที่สามารถทำได้บ้าง จึงขอใช้โอกาสนี้ร่วมทำกิจกรรมเพื่อการกุศล โดยในปีที่แล้วได้ร่วมวิ่งเพื่อการกุศสลเพื่อช่วยเหลือ รพ.บางสะพานได้เงิน 85 ล้านบาท หลังโครงการสิ้นสุดได้มีทั้งโรงพยาบาลขนาดเล็กและใหญ่ ได้ส่งข้อมูลเข้ามาส่วนตัว ญาติมิตรและทีมงาน จากนั้นก็ได้ลงไปพูดคุยสำรวจความจริงที่ส่งข้อมูลมา จึงได้เกิดโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาล โครงการนี้ใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ทั้งนี้ อยากมีประโยชน์ในฐานะศิลปินที่อยู่ในวงการมากว่า 15-16 ปี ไม่ได้คิดว่าใครจะรวยหรือจะจน ตลอดเส้นทางได้รวบรวมเก็บเงินตั้งแต่ 1 บาท 5 บาท 10 บาท ไปจนถึง 1 ล้านบาท เก็บเล็กเก็บน้อยผสมกันไปจนปัจจุบันได้เงินกว่า 400 ล้านบาท จากเงินเพียงเล็กน้อยของประชาชน ไม่อยากให้คนรวยร่วมบริจาคเงินเพียงอย่างเดียว แต่อยากให้คนที่มีฐานะยากจนได้เห็นคุณค่าและมีความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมบริจาคร่วมกันและได้ช่วยเหลือชีวิตของคนได้จริง หากเราร่วมกัน

นายอาทิวราห์ กล่าวอีกว่า สุดท้ายเงิน 400 ล้านบาท ดูเหมือนมาก แต่หากกระจัดกระจายให้โรงพยาบาลศูนย์ทั่วภูมิภาคเพื่อที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงยังไม่เพียงพอ เพราะโรงพยาบาลเหล่านี้จะช่วยรักษาโรคที่รักษาได้ยาก จึงต้องการอุปกรณ์ที่มีความทันสมัย จากการสอบถามกับผู้อำนวยการแต่ละโรงพยาบาล ต้องใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท ดังนั้นเงิน 400 ล้านบาทยังสร้างการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ จึงต้องการเงินให้ได้มากที่สุด แม้วันนี้จะเจ็บทุกส่วนที่เจ็บได้ แต่ไม่รู้ว่าจะสามารถวิ่งไปถึงไหน แต่มีใจสู้ ตลอดเส้นทาง ตลอดทางที่ผ่านมาใครที่มีประชาชนออกมาต้อนรับ และไม่ได้รับเงินด้วยตนเอง เพราะบางครั้งก็ไม่สามารถรับเงินจากมือ ถ่ายรูปเซลฟี่กับทุกคนได้ ตนเสียใจ ความผิดครั้งนี้ตนขอรับไว้เพียงผู้เดียว

“อีกสิ่งหนึ่งที่ผมคับข้องใจ คือ ผมไม่ใช่ฮีโร่ ผมไม่ใช่วีรบุรษ แต่คนที่เป็นฮีโร่ คือ คุณหมอและพยาบาลทุกคนที่ใส่ชุดขาวทำงานในโรงพยาลที่ช่วยรักษาพ่อแม่และเรา รวมถึงประชาชนที่เป็นผู้บริจาคเงินเข้ามา” นายอาทิวราห์ กล่าว

ทั้งนี้หลังจากตูนรับมอบเงินจาก พล.ต.อ.อัศวิน แล้ว ได้เดินทางไปยังรถบ้านเคลื่อนที่เพื่อทำกายภาพและตรวจเช็คร่างกายหลังได้วิ่งมาหลายกิโลเมตรก่อนออกวิ่งต่อไป

 

ที่มา มติชนออนไลน์