พิมรี่พาย ชุลมุนปมหมอปลอม-ฟิลเลอร์ จ่อถูก สบส.สอบ

ดราม่าใหม่พิมรี่พาย

“พิมรี่พาย” เจอดราม่าใหม่ ทั้งกรณีหญิงแอบอ้างเป็นหมอสมัครทำงานในคลินิก รวมถึงกรณีฟิลเลอร์ที่ใช้ในคลินิก ล่าสุด กรมสนับสนุนบริการสุขภาพจ่อเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง 

วันที่ 17 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กซึ่งเป็นแพทย์หญิงรายหนึ่ง โพสต์ข้อความชี้แจงว่า ไม่เคยทำงานที่อิสคิวท์คลินิกเวชกรรมของพิมรี่พาย พร้อมยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ตามที่โดนแอบอ้างชื่อไปใช้ในคลินิก ทั้งยังระบุด้วยว่า ปัจจุบันอยู่ต่างประเทศ

หลังโพสต์ข้อความดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊ก ปรากฏว่ามีการแชร์ข้อความอย่างแพร่หลาย ส่วนผู้ที่เข้ามาแสดงความเห็น บางรายระบุว่า เจ้าของเฟซบุ๊กรายนี้ถูกกล่าวหาว่าเป็นหมอปลอม ขณะที่อีกความเห็นระบุว่า หากไม่มีคนไข้มาถามก็คงไม่รู้ ตอนนี้หมอเสียหาย สงสารคนไข้ที่ถูกฉีดไปแล้วอันตราย นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมคลินิกไม่ได้ตรวจสอบ ก่อนรับหมอปลอมเข้าทำงาน

พิมรี่พายแจ้งความ

ในเวลาต่อมา นางสาวพิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือที่ชาวเน็ตรู้จักกันดีในชื่อ “พิมรี่พาย” แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง ได้เดินทางไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะหุ้นส่วนอิสคิวท์คลินิกเวชกรรม สาขาห้วยขวาง

พิมรี่พายแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าได้ถูกนางสาวอาลินดา (สงวนนามสกุล) ใช้เอกสารใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์หญิงท่านหนึ่ง มาสมัครเป็นแพทย์ของคลินิก เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย โดยหลังจากนี้ตำรวจสอบสวนกลางจะสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ และติดตามจับกุมดำเนินคดีต่อไป

พิมรี่พายเปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องการแอบอ้างชื่อแพทย์หญิงรายนี้ ตนพยายามติดต่อหญิงที่แอบอ้างมาเป็นหมอแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้ จึงมาแจ้งความ ส่วนสาเหตุที่ไม่ทราบว่าหญิงรายนี้เป็นหมอปลอม เป็นเพราะเขาใส่แมสก์ ใช้ผ้าคลุมหัว แต่งตัวมิดชิดตั้งแต่ตอนสมัครงาน และใช้ใบประกอบซึ่งหน้าเหมือนด้วย ซึ่งถ้าสังเกตผ่าน ๆ จะดูไม่รู้เลย และหญิงรายนี้ไม่ได้เข้ามาที่คลินิกบ่อย ขณะเดียวกันก็กำลังติดต่อลูกค้าเพื่อแสดงความรับผิดชอบ

“พิมรับผิดชอบแทนลูกน้องของพิมหมด ในฐานะที่เป็นพิมรี่พาย เราให้ลูกค้าโดนกระทำแบบนี้ไม่ได้ พูดไม่ถูก เสียใจ เราจะล่าจนกว่าจะได้ หมอปลอมคนนี้ต้องติดคุก” พิมรี่พายกล่าว

ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก ตำรวจสอบสวนกลาง

หมอของขวัญท้วงเรื่องฟิลเลอร์

แต่ยังไม่ทันจะได้บทสรุปเรื่องหญิงที่แอบอ้างเป็นแพทย์ หมอของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ แพทย์ผิวหนังคนดัง ได้แชร์คลิปพิมรี่พาย ที่ออกมาชี้แจงเรื่องฟิลเลอร์ไม่ได้ อย. ว่า ได้สั่งซื้อมาจากเอเยนซี่ทีเดียว เพราะสั่งยาจำนวนมาก ไม่ได้ซื้อกับบริษัทแม่โดยตรง

โดยหมอของขวัญ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “แต่อันนี้อ่ะไม่ได้…เรื่องยาและเวชภัณฑ์ที่ราคาถูกเกินจริงบอกว่าซื้อจาก Agency อันนี้ไม่โอเค เกิดฉีดเข้าไป Botox ใต้ดินหิ้วมา ขนส่งเก็บมาอุณหภูมิผิดเชื้อตาย แล้วมาฉีดมันใช่ไหมกับการที่เอาชีวิตคนไปเสี่ยง

…ถ้าสารที่ฉีดเข้าไปมันเป็นพิษขึ้นมาคุณไม่มีทางจะเยียวยาไหวหรอก เพราะบางครั้งเยียวยาก็ไม่ใช่ จะทำให้สิ่งที่เสียไปกลับมาได้ ไม่ได้จะแซะขายของ ไม่ได้ซ้ำ พรพ นะ แต่ที่หมอที่โพสต์เยอะเพราะ…นี่คือสิ่งที่หมอ ‘เชี่ยวชาญ’ โดยตรง ขนาดไวรัส วัคซีน หมอไม่ได้เชี่ยวชาญ…หมอยังโพสต์มากกว่านี้มั้ย ??? ถามก่อน”

กัลเดอร์มาชี้แจง

ต่อมาบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถูกอ้างว่าคลินิกของพิมรี่พายมีการสั่งผลิตภัณฑ์มาใช้ในคลินิก ล่าสุดได้ออกมาชี้แจงว่า บริษัทเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้นำเข้าผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มที่มีชื่อทางการค้าว่า “Restylane” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งทางบริษัทได้รับการสอบถามจากลูกค้าเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ว่าคลินิกชื่อ อิสคิวท์คลินิก สาขาห้วยขวาง ได้ดำเนินการซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผ่านบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด หรือไม่นั้น

ทางบริษัทขอเรียนชี้แจงต่อท่านว่า บริษัทได้ดำเนินการตรวจสอบฐานข้อมูลเกี่ยวกับการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว และขอยืนยันว่าคลินิกชื่อว่า “อิสคิวท์คลินิก สาขาห้วยขวาง” นั้น ไม่ได้สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผ่านทางบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด แต่อย่างใด

 

สบส.จ่อสอบข้อเท็จจริง

ล่าสุด นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ของ สบส. ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ว่ามีความผิดมาตรฐานในเรื่องใดบ้าง

ส่วนกรณีมีการใช้ใบวิชาชีพปลอมมาเป็นแพทย์ประจำคลินิกนั้น เบื้องต้นผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลจะต้องตรวจสอบบุคลากรที่มาปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎหมาย คือ ตรวจสอบว่าเป็นแพทย์ พยาบาลจริงหรือไม่ หากไม่จริงแล้วรับมาทำงานก็มีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และ พ.ร.บ.วิชาชีพนั้น ๆ ด้วย เนื่องจากไม่ได้ควบคุมกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐาน

เมื่อถามว่าที่เจ้าจองคลินิกไปแจ้งความว่าตัวเองไม่รู้ก็ไม่สามารถอ้างได้ ใช่หรือไม่ นพ.ธเรศตอบว่า ไม่ได้ เพราะเป็นหน้าที่ผู้รับอนุญาตต้องตรวจสอบ

ส่วนกรณีลูกค้าที่ไปรับบริการฉีดฟิลเลอร์ หากเกิดความเสียหาย ผู้รับบริการมีสิทธิฟ้องเรียกร้องความเสียหายได้ หรือผู้ให้บริการไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพก็ผิดกฎหมาย สามารถดำเนินการทางคดีได้