มะเดี่ยวเล่าประสบการณ์เชิญสรพงศ์ ชาตรี แสดงหนังสั้นสมัยเรียน ปี 4

มะเดี่ยว เล่าประสบการณ์เชิญ สรพงษ์ ชาตรี แสดงหนังสั้นสมัยเรียน ปี 4
ภาพจากเฟซบุ๊ก Chookiat Sakveerakul

มะเดี่ยว ชูเกียรติ ผู้กำกับรักแห่งสยาม เล่าเรื่องราวสมัยเชิญสรพงศ์ ชาตรี มาเล่นหนังสั้นเมื่อช่วงเรียนภาพยนตร์ ปี 4

วันที่ 11 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์นายกรีพงศ์ เทียมเศวต หรือ “สรพงศ์ ชาตรี” นักแสดงอาวุโสระดับพระเอกแห่งยุค และศิลปินแห่งชาติเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปอดในอายุ 72 ปี นำความโศกเศร้ากับคนในวงการบันเทิงและประเทศไทย โดยในวันนี้จะมีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพเวลา 17.00 น. ที่วัดเทพศิรินทราวาส ต่างมีคนในวงการบันเทิงร่วมแสดงความเสียใจเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ผู้กำกับภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น คน ผี ปีศาจ, รักแห่งสยาม, หรือเรื่องล่าสุดอย่าง ดิว ไปด้วยกันนะ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chookiat Sakveerakul ต่อเหตุการณ์นี้ ระบุว่า

ไม่มีสรพงศ์ ไม่มีมะเดี่ยว

ถ้าตอนปี 4 ถ้าอาเอกไม่ตอบรับเล่น #ลมเยาวราช หนังสั้นในวิชาเรียนของเราผมคงไม่เชื่อว่าความฝัน ความทะเยอทะยานของเราเป็นจริงได้

อาเอกเป็นดาราคนแรกในชีวิตที่ผมได้กำกับ ซึ่งต้องขอบคุณ Prim Opiko Thippayachan ที่ช่วยติดต่อมาเล่นแล้วแกก็เมตตามามอบประสบการณ์ให้กับเด็กฟิล์มรุ่น 35 จำได้ว่าเราค่อนข้างเกร็งกันมากและพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด จนแทบไม่มีเวลาได้ถ่ายภาพด้วยกัน เหลือแต่ความทรงจำในภาพยนตร์สั้นเรื่องนั้น

มีฉากนึงที่เราถ่ายฉากโต๊ะอาหารก่อนแล้วค่อยไปถ่ายฉากเดินเข้ามานั่งทีหลัง ปรากฏว่าของมันวางรออยู่แล้วทั้งที่ก่อนหน้านี้ตัวละครเพิ่งซื้อเข้ามา พวกเรานั่งคิดกันหัวแทบแตกว่าจะทำยังไงดีที่จะไม่ต้องรีชูตนักแสดงทุกคนอีกรอบเพียงแค่วางของผิดคิว แถมยังปล่อยนักแสดงร่วมฉากกับแกกลับบ้านไปแล้วด้วย จะเรียกมาก็เกรงใจทุกคนโคตร ๆ อาเอกเห็นพวกเราสุมหัวหน้าเครียดก็เข้ามาถามว่ามีอะไรกัน พอบอกเหตุผลไป แกก็หัวเราะ

“โธ่เอ๊ย เรื่องแค่นี้ เอ็งก็ถ่ายคนใช้เอาของมาวางก่อนแล้วอาเดินนำเข้าไปให้ก็ได้”

แล้วฉากนั้นก็ผ่านไปอย่างสวยงาม แล้วเราก็ปล่อยเด๋อกับแกไปอีกดอก ในฉากนึงที่อาม่าตายแล้วลูกหลานพากันไปร้องไห้ระงม จู่ ๆ แกก็หันหน้ามาทางกล้องเรานึกว่าแกจะบอกอะไร เลยสั่งคัต !!

เรา : “อาเอกมีอะไรหรือเปล่าครับ”
อาเอก : “ไม่มีอะไรผมหันมารับกล้อง”

ตอนนั้นตะหงิด ๆ ว่ารับกล้องทำไมยังไง เลยให้ถ่ายอีกรอบปล่อยแกเล่นไปตามที่แกอยากได้ ปรากฏว่าจริง ๆ เราบล็อกกิ้งทุกคนให้หันหลังให้กล้องหมดเลย การที่แกหันมาเหมือน Keep ความรู้สึกจากวงร้องไห้สักพักแล้วน้ำตาก็หยาดลงมาอาบแก้มสะท้อนกับมุมไฟที่สาดลงมาเห็นรีเฟลกหยดน้ำพราวขึ้นจับเข้าไปในเลนส์

แค่นี้เองเราถึงเข้าใจแล้วว่าประสบการณ์ของนักแสดงมากฝีมือจะมอบอะไรกับเราได้บ้าง

แม้เป็นการร่วมงานแบบสั้น ๆ และสัญญากับตัวเองว่าวันหนึ่งจะได้ร่วมงานกันอีกครั้งแต่มันคงไม่ได้เกิดขึ้นอีกแล้ว สิ่งที่อาเอกทิ้งไว้ให้ผมคือความทรงจำดี ๆ และโอกาสที่ทำให้ผู้กำกับหนังตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งได้มีโอกาสก้าวต่อมาด้วยความมั่นใจในอาชีพการงาน

รักและเคารพอาเอกเสมอครับ ขอให้พบกับความสงบในภพภูมิที่ดีงาม ขอบคุณอีกครั้งสำหรับการเป็นพระเอกของคนไทยตลอดกาล

มะเดี่ยว