วาฟเฟิลเลิฟเวอร์ฟิน! พาเวิร์คช็อปเผยเคล็ด (ไม่)ลับกับ ‘วาฟเฟิล’ เมนูอร่อย On the table

เมื่อพูดถึงร้านอาหารอย่าง On the table tokyo cafe หลายคนคงรู้จักกันดีกับร้านอาหารสไตล์โตเกียว คาเฟ่ ที่มีเมนูอาหารให้เลือกหลากหลาย และยังมีเมนูของหวานที่ขึ้นอีกอย่างเมนูวาฟเฟิล (waffle) สไตล์โฮมเมดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแป้งวอฟเฟิลที่กรอบนอกนุ่มใน

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ มีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรม On the Table WAFFLE Workshop ที่ได้ให้ทุกคนได้ลงมือสร้างสรรค์วาฟเฟิลสไตล์โฮมเมดเป็นของตัวเอง แถมที่ร้านยังเปิดเผยเคล็ดลับความอร่อยของเมนูของหวานนี้ด้วย

โดยเมนูที่จะทำคือ Mixed Berry Cheese Waffle ซึ่ง “เชฟตั้ม” หรือ จิรวัฒน์ เข็มแก้ว ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ จะมาเผยเคล็ด(ไม่)ลับ และสอนทำของหวานแสนอร่อยนี้ สำหรับส่วนผสมตามรูปประกอบด้านล่างนั้น เชฟตั้ม ระบุว่า สามารถทำวาฟเฟิลออกมาเสิร์ฟได้ถึง 3 ที่กันเลยทีเดียว

ส่วนขั้นตอนการทำง่ายนิดเดียว ทำแป๊บเดียวตามเชฟสอนรับรองได้กินของอร่อยแน่นอน ไม่รอช้ามาเริ่มที่ขั้นตอนการทำตัวแป้งวาฟเฟิลที่แบ่งออกด้วยกัน 2 ส่วน ส่วนแรกคือ การแยกไข่ขาวกับไข่แดงออกจากกัน ซึ่งเชฟแอบกระซิบว่าต้องอย่าให้ไข่แดงแตกเป็นอันขาด หลังจากที่แยกส่วนของไข่แล้ว เราจะเริ่มลงมือทำที่ไข่แดงก่อน

โดยค่อยๆ เทส่วนผสมอย่างนม และเพิ่มความหอมด้วยกลิ่นวนิลาลงไปที่ไข่แดง จากนั้นตีให้เข้ากัน ระหว่างลงมือทำเชฟยังบอกอีกว่าจะเพิ่มความหอมด้วยกลิ่นอื่นก็ได้ตามใจชอบ จากนั้นเติมน้ำตาล และเนยละลาย แล้วตีให้เข้ากันอีกรอบ ซึ่งในขั้นตอนนี้อย่าตีแรงเพราะมันจะทำให้เกิดฟองอากาศมากเกินไป

ต่อไปเป็นการผสมแป้งอเนกประสงค์ เกลือ และเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน จากนั้นร่อนแป้งลงในส่วนผสมที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ และตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน…เริ่มดูเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นแล้ว

มาต่อกันที่ส่วนของไข่ขาวที่ต้องแอบกระซิบว่าขั้นตอนนี้เมื่อยมือแบบสุดๆ เพราะต้องตีไข่ขาวให้แข็งตั้งยอด แต่ก็ไม่เกินความสามารถ ตีวนไปไม่นานไข่ขาวของเราตั้งยอดใช้ได้เรียบร้อยแล้ว

พอได้ทั้งสองส่วนเสร็จปุ๊บ เราก็นำไข่ขาวมาเทผสมกับแป้งที่ได้เตรียมไว้ โดยให้แบ่งเทที่ละครึ่ง และก็ตะล่อมให้ส่วมผสมทั้งหมดเข้ากัน ซึ่งเคล็ดลับในขั้นตอนนี้คือ ต้องตะล่อมส่วนผสมให้ไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อไม่ให้ไข่ขาวที่ตั้งยอดแตกนั่นเอง

เสร็จขั้นตอนนี้ก็นำแป้งวาฟเฟิลเข้าไปแช่เย็นให้เซ็ทตัว 15 นาที ระหว่างนั้นเชฟตั้มยังเล่าถึงเคล็ดลับความอร่อยของที่ร้านว่า อยู่ที่ความใส่ใจ เหมือนเราทำอาหารให้กับคนในครอบครัวรับประทาน ซึ่งวัตถุดิบนั้นไม่จำเป็นต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศก็ได้ แต่ขอให้วัตถุดิบที่ใช้นั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดก็เพียงพอแล้ว

อย่าเม้าท์กันนานเดี๋ยวจะอดกินของหวาน เรามาต่อกับขั้นตอนการทำ Cheese Sauce ผสมส่วนประกอบต่อไปนี้ ครีมชีส (จะเป็นยี่ห้อไหนก็ได้ตามใจชอบเลย) น้ำเชื่อม วิปปิ้งครีม นมข้น โยเกิร์ต น้ำมะนาว แล้วก็ตีทุกอย่างให้เข้ากัน จนได้ชีสซอสเนื้อสีขาวเนียนละเอียด พอทำขั้นตอนนี้เสร็จก็ครบ 15 นาทีพอดี เอาแป้งที่เตรียมไว้ออกมาได้เล๊ยยยย

ขั้นตอนเกือบสุดท้ายคือ การอบแป้งวาฟเฟิลที่เชฟของเราบอกเคล็ดลับดีๆ อีกแล้ว รีบหยิบปากการขึ้นมาจดทันใด คือต้องวอร์มเครื่องทำวาฟเฟิลให้ร้อนได้ที่ก่อนจากนั้นค่อยเทแป้งวาฟเฟิลลงไปให้เต็มพิมพ์เลย โดยเราจะไช้เวลา 2.30 นาทีในการอบเพื่อให้ได้วาฟเฟิลที่กรอบนอกนุ่มในตามฉบับของ on the table ตั้งเวลานาฬิกาจับเวลาเรียบร้อยก็นำวาฟเฟิลออกมาพักไว้ที่ตะแกรงเพื่อให้ได้ระบายความร้อน และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่เชฟตั้มเปิดเผยกับเราในวันนี้

จากนั้นมาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่ต้องอวดฝีมือความเป็นแม่ศรีเรือนกันอย่างเต็มที่ในการจัดจานและตกแต่ง Mixed Berry Cheese Waffle ตามสไตล์ของตนเอง งานนี่ทุกคนโชว์ฝีมือกันเต็มที่ เสร็จแล้วหน้าตาก็ออกมาประมาณนี้น่ากินนิดๆ แอบเบี้ยวหน่อยๆ ไม่ว่ากัน แต่รสชาติขอบอกว่าอร่อยไม่แพ้ฝีมือเชฟอย่างแน่นอน

ส่วนใครที่อยากมาเวิร์คช็อปสนุกๆ โชว์ฝีไม้ลายมือการเข้าครัวทำเมนูของหวานแบบนี้ก็ลองเข้าไปดูติดตามได้ที่ร้าน on the table tokyo cafe ได้เลย คาดว่าจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมนี้