อาหาร

Coro Harvest ทุกเมนูสดใหม่จากฟาร์ม

เมื่อปีสองปีที่ผ่านมา ฟาร์ม “Coro Field (โคโร ฟีลด์)” ที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี พุ่งขึ้นมาติดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ถือเป็นหนึ่งจุดต้องแวะเมื่อไปเที่ยวสวนผึ้ง เดินชมฟาร์มชิล ๆ แล้วมาดื่มเครื่องดื่ม เย็น ๆ สดชื่นจากวัตถุดิบสด ๆ ในฟาร์ม

เห็นการตอบรับดี สองพี่น้องเจ้าของฟาร์มจึงนำวัตถุดิบปลอดสารจากฟาร์มเข้าเมืองกรุงมาเปิดร้านอาหารชื่อ “Coro Harvest (โคโร ฮาร์เวสต์)” ปรุงอาหารเสิร์ฟคนเมืองในคอนเซ็ปต์ “Everyday Farm Food” คือ อาหารอร่อยปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่ ทานได้ทุกวัน 

“ดีไลฟ์–ประชาชาติธุรกิจ” ไปชิมมาแล้วอยากแนะนำว่าดีทั้งวัตถุดิบและรสชาติ เริ่มจาก มันม่วงหวานทอดซอส 3 ฤดู มันม่วงทอดผิวนอกกรอบนิด ๆ ข้างในนุ่มรสชาติหวานมันจิ้มซอสที่มีให้เลือก 3 รสหรือกินแบบไม่ต้องจิ้มก็ดีไปอีกแบบ 

ถัดมา ซีซาร์สลัดเส้นพาสต้าเมลอน ผักกรีนคอสสดกรอบราดน้ำสลัดรสกลมกล่อมมาพร้อมกับพาสต้าสูตรเฉพาะที่นำเมลอนจากฟาร์มไปเป็นส่วนผสมในเส้นพาสต้าด้วย

ไม่รู้สึกถึงรสชาติเมลอนเท่าไหร่นัก แต่เป็นการสร้างสตอรี่ที่ดีต่อใจใช้ได้เลย 

แซลมอนย่างซีอิ๊วกระทะร้อน แซลมอนชิ้นโตบนกระทะร้อน เคียงคู่มากับมันม่วงบด ผักสีเขียว และแครอต เข้าสูตรโภชนาการที่แนะนำให้กินผักหลายสี เมนูนี้เบา ๆ ทั้งรสชาติและแคลอรี กินได้แบบสบายใจ

ต่อมาที่ ข้าวกะเพราเห็ดหน้าไก่คาราเกะ ผัดกะเพราเห็ดรสชาติเค็มเผ็ด มาพร้อมกับไก่คาราเกะกรอบ ๆ เข้ากันดี 

อีกหนึ่งเมนูคือ โรตีน้ำพริกอ่องมะเขือเทศเชอร์รี่ฮอลแลนด์ เสิร์ฟผักสลัดเคียงมาสวย ๆ และหยิบกินได้สบาย ๆ เมนูนี้พิเศษตรงที่น้ำพริกอ่องมะเขือเทศเชอรี่ฮอลแลนด์ ที่เป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลักของฟาร์ม น้ำพริกถ้วยนี้ไม่เผ็ด ใส่เนื้อสัตว์น้อย ตั้งใจชูความเด่นของมะเขือเทศจริง ๆ หยิบแป้งโรตีจิ้มลงไปได้หลายรสชาติประกอบกัน 

เมนูของหวานที่ร้านนำเสนอมาก ๆ ก็คือมันม่วงหวานลาวากับไอศกรีม แป้งซาลาเปานุ่ม ๆ สอดไส้ลาวามันม่วง พอบิแล้วลาวามันม่วงจะไหลเยิ้มออกมา เสิร์ฟมากับซอฟต์ครีมนุ่ม ๆ หน้าตาสวยงาม น่าจะถูกใจคนชอบถ่ายรูป 

ส่วนเมนูเครื่องดื่มมีให้เลือกหลากหลาย แต่ที่ยอดนิยมก็เป็นพวกเมนูที่ทำมาจากเมลอนที่เน้นความหอมหวานจากเมลอนสด ๆ 

นอกจากนี้ ที่ร้านยังมีขายอาหารแบบเทกอะเวย์ และมีตู้แช่วัตถุดิบสด ๆ หน้าร้าน สำหรับคนที่อยากหาผักและเมลอนสด ๆ กลับบ้านด้วย 

ร้าน Coro Harvest อยู่ที่ชั้น G ศูนย์การค้าเอสพลานาด รัชดาฯ เปิดเวลา 10.00-22.00 น. ใครอยากชิมตามไปเลย