คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ ผู้เขียน : สาโรจน์ มณีรัตน์
ทุกครั้งที่ไปต่างจังหวัด ไม่ว่าจะถูกเชิญไป หรือไปด้วยตัวเอง ผมมักจะหาสถานที่เก๋ ๆ เพื่อนั่งกินข้าว จิบกาแฟ หรือพูดคุยกันอย่างกันเอง
สถานที่เหล่านี้ ถ้าจะว่าไปค่อนข้างหายากสักหน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับหาไม่ได้เลย เพราะบางแห่งอาจอยู่ไกลจากผู้คน บางแห่งต้องโทร.จองล่วงหน้าถึงจะได้ไป
- แคดเมียมมีดีอะไร ทำไมแค่กากยังมีคนอยากได้?
- เช็กเงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนเมษายน 2567 เงินเข้าวันไหน
- ปรับเงินเพิ่มค่าครองชีพ ข้าราชการ 4 กลุ่ม เริ่ม 1 พ.ค.นี้
เพราะเขาไม่ได้เปิดต้อนรับผู้คนแบบสาธารณะ ประเภทใครไปก็ได้ ใครกินก็ได้ หรือใครต้องการพักผ่อนก็ได้ เพราะเจ้าของธุรกิจเขาไม่ได้ต้องการเงินขนาดนั้น
ทำแค่พอมีความสุข
ทำแค่ลูกค้าเฉพาะ ที่ต่างมีรสนิยมคล้าย ๆ กัน เพื่อจะได้มีความอิ่มเอมในสิ่งที่เสพเหมือน ๆ กัน ซึ่งใครจะเชื่อล่ะว่าแนวโน้มร้านอาหารแบบนิชมาร์เก็ตกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
และไม่เฉพาะแต่ในมหานครกรุงเทพเท่านั้น
หากในต่างจังหวัดก็เริ่มมีร้านทำนองนี้เกิดขึ้นมากมาย
ผมไม่ทราบว่ามาจากเหตุผลใด ?
แต่ถ้าจะให้วิเคราะห์ ผมเชื่อว่าร้านอาหารแบบนิชมาร์เก็ตน่าจะเกิดขึ้นจากอิทธิพลของโลกโซเชียลส่วนหนึ่ง ที่ต่างแนะนำผ่านเฟซบุ๊กว่าร้านอาหารร้านนี้บรรยากาศดี
อาหารอร่อย
การบริการดี
ราคาไม่แพง
แถมมีรสนิยมเฉพาะ เพราะเจ้าของร้านเป็นสถาปนิก, วิศวกร, อาร์ติสต์, นางแบบ, สจ๊วต หรือแอร์โฮสเตส และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ล้วนต่างมีเรื่องเล่า (storytelling) จนทำให้คนที่อ่านคำแนะนำจากเฟซบุ๊กรู้สึกอยากมาทันที
หรือไม่ก็ร้านอาหารแห่งนี้เคยเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์บุคคล ประวัติศาสตร์สถานที่ และประวัติศาสตร์เชิงมุขปาฐะ จนทำให้ผู้ที่รับรู้เรื่องราวต่างรู้สึกอยากมาเช็กอินสักครั้ง
เพราะไม่เพียงจะทำให้ตัวเองรู้สึกเท่
เป็นคนร่วมสมัย
หากยังพลอยมีรสนิยมไปกับเขาด้วย
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้แม้จะไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับร้านอาหารเลย เพราะอย่างที่ทุกคนทราบกัน การขายอาหารของร้านต่าง ๆ พระเอก-นางเอกส่วนใหญ่คือเมนูต่าง ๆ ของร้านอาหารนั้น ๆ
ให้อยู่ไกลแค่ไหนก็ต้องไปกิน
แต่ปัจจุบัน อาหารไม่ใช่พระเอก-นางเอกอีกต่อไปแล้ว เพราะสิ่งที่ผสมปนเปไปกับร้านอาหารนิชมาร์เก็ต จะต้องมี storytelling เจือปนอยู่ด้วย
ทั้งยังจะต้องมีสไตล์การตกแต่งร้านแบบเฉพาะทาง
และมีการบริการอย่างดีเยี่ยม พวกเขาจะไม่ไปไหนหรอกครับ รับรองเขาต้องมาหาคุณอย่างแน่นอน เพราะจากประสบการณ์ของผมในการเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ มากมาย
ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
ผมเห็นมานักต่อนักแล้วว่า เรื่องของ storytelling ใช้ได้ผลจริง ๆ
ขอให้มีเรื่องราวบอกกล่าวให้นักชิม, นักท่องเที่ยว ไปบอกเล่าต่อในเฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์, อินสตาแกรม และไลน์ ได้อย่างไม่รู้จบ รับรองสิ่งที่คุณทำ จะถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อย่างไม่รู้เบื่อ
จนอาจดังภายในชั่วข้ามคืน
เพราะฉะนั้น ใครที่คิดจะทำร้านอาหารแบบนิชมาร์เก็ต ลองนำประสบการณ์จากสิ่งที่ผมเล่าให้ฟังไปลองทำดู เผื่อบางทีคุณอาจจะประสบความสำเร็จเหมือนกับพวกเขาบ้าง
ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ด้วย
เพราะทุกคนอยู่ในภาวะชะงักงันแต่ถ้าเราลงทุนก่อน ทำก่อน โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก่อนก็มีอยู่เช่นกัน
ลองดูนะครับ