สแกน Vivo V7+ ตัวแรงค่ายวีโว่ สำรวจฟังก์ชั่นสารพัดอินเทรนด์

เปิดตัวไปแล้วกับ สมาร์ทโฟนตัวเรือธงของ Vivo กับ Vivo V7+ ที่ทางวีโว่เองบอก ตัวนี้รวบรวมความคิดเห็นของผู้บริโภคมาใส่ไว้กันเลยว่า เน้นออพชั่นตามความพึงพอใจและเทรนด์การใช้งานไปในทิศทางไหน ซึ่งก็มาลงเอยกันที่ตัว V7+ ที่ทางค่ายใช้จุดขาย หน้าจอแบบ เต็มตา หรือ FullViewTM Display ตัวแรกของค่าย

สัมผัสแรกมองเห็นกล่องมีลงสโลแกนเป็นผู้สนับสนุนหลักบอลโลกที่รัสเซีย 2018 ก็ถือว่าเป็นการพยายามทำแบรนด์ออกมาในเวทีสากลของวีโว่

ตัวเครื่องที่ทำการทดสอบคือสี Matte Black ซึ่งวีโว่ทำรุ่นนี้ออกมา 2 สี คือ สีดำ และสี Champagne Gold

เปิดกล่องออกมา ตัวเครื่องมาหน้าตาดี เรียกว่า ขายหน้าตาได้แบบโฉมแรก ด้านหน้าดำสนิท ด้านบนมีลำโพง เซ็นเซอร์ กล้อง ปุ่มพาวเวอร์ ลดเสียงอยู่ด้านข้าง สล็อตซิม 2 ซิม ด้านหลัง สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง แอลอีดีแฟลช เท็กซ์เจอร์นี่มองภายนอกจัดว่าเนียนดูดี ใส่เคสใสแนวนิ่มที่ให้มาด้วย ถือถนัดมือมากขึ้น

ตัวเครื่องประมวลผลด้วย Qualcomm octa-core CPU 4GB RAM เก็บข้อมูลในเครื่อง 64 GB RAM เพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ 256 GB ใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุด Funtouch OS 3.2 บนพื้นฐาน ระบบปฏิบัตการณ์ Android 7.1 ชิปเซ็ต Snapdragon 450

ถือว่าเปิดตัวออกมาอินเทรนด์ในจังหวะที่หลายคนอยากลองจับ ไอโฟนX (เท็น) กับฟังก์ชั่นปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้า ซึ่งปรากฎวีโว่ตัวนี้ นอกจากฟังก์ชั่นสแกนลายนิ้วมือ ก็ยังเกาะกระแสใส่ฟังก์ชั่นสแกนใบหน้าเข้ามาด้วย ยกโทรศัพท์ขึ้นระดับสายตา เซนเซอร์ในตัวเครื่องก็จะทำการประมวลผลสแกนปลดล็อค

แต่สำหรับ V7+ ที่อยากจะลองทดสอบคือ ประสบการณ์การใช้งานกับสมาร์ทโฟนไซซ์ขนาดหน้าจอ 5.99 นิ้วแบบจอเต็มว่าให้ผลอย่างไร ส่วนตัวชอบดูซีรีย์ ดูยูทูป และฟังเพลงสตรีมมิ่ง กับการแสดงผลอัตราส่วนภาพ 18 : 9 ก็ถือว่าตอบโจทย์กลุ่มเน้นดูหนัง ฟังเพลง

อันนี้บอกไว้ส่วนตัวสำหรับใครที่ไม่ใช่สาย android เลยจริงๆ เพราะมีประสบการณ์ใช้ไอโฟนกับระบบปฏิบัติการ ios มาตลอด มาลองสัมผัส UI ของวีโว่นั้น จะรู้สึกว่าไม่มีแอบหลงทาง ใช้ง่าย เรียงเมนู และไอคอนที่สร้างความรู้สึก “มือพาไปโดยธรรมชาติ” ไม่ต้องมานั่งแกะเกา ทำความเข้าใจกันนาน

ภายนอกตัวเครื่องน้ำหนักเบา ดีไซน์ที่ตั้งใจให้ออกแนวหรูนิดๆ ขอบโค้งมนรับกับจอเต็มที่ลดพื้นที่ด้านบน กับพื้นที่ด้านล่าง พูดง่ายๆ ขอบบาง ขนาดไซซ์ 5.99 นิ้ว น้ำหนักกับขนาดถือว่ากระชับมือ ใส่เคสใสที่ให้มากับตัวเครื่อง ได้ความเหนียวแน่นเกาะมือดีขึ้น

Full Display ความเต็มจอ จัดปุ่มโฮมและปุ่มหลักไว้ที่ในจอ ปุ่มพาวเวอร์ ปุ่มปรับเสียงอยู่ด้านข้าง

สำรวจดูส่วนไฮไลท์ คือ กล้องหน้าที่จัดมา 24 ล้านพิกเซล ใส่เฟซบิ้วตี้ 7.0 เอาใจสายเซลฟี่มาให้ ขนาดที่ว่าเซลฟี่ตัวเองยังสามารถคอนโทรลถ่ายมาหน้าชัดหลังเบลอ ถูกใจแนวเซลฟี่ พอทเทรทแน่นอน

ลองกดเซลฟี่ทดสอบ มีโหมดแต่งภาพสวยปรับสีผิว

ใครเป็นสาย realism เน้นภาพดิบ ธรรมชาติไม่ปรุงแต่งอาจจะมีงง แต่อย่างที่บอก นี่น่าจะตอบโจทย์ความสุขสายเซลฟี่ชอบแต่งภาพตัวเอง

ทดลองถ่ายภาพระยะใกล้ เก็บรายละเอียดได้ดี

จัดมาให้สายเซลฟี่กันต่อด้วยเซ็นเซอร์ไฟแฟลชระดับอ่อนๆกล้องหน้า ส่งให้ภาพหน้าเราสว่างหน้าใส แต่ไม่เว่อร์ กล้องหน้ามีรูรับแสง f2.0 และขนาดเซนเซอร์ภาพ 2.8 นิ้ว ลองถ่ายมาแล้วก็หน้าดูบริงค์ๆแต่ไม่ได้หลอกตา

ลองใช้โหมดมาโครให้ภาพเส้นสายชัด ดูจากลายเส้นบนฝ่ามือที่ไม่เป็นป้าน รวมทั้งระดับความเบลอหลังที่พอดี

กล้องหน้านี่ก็ยังมีฟังก์ชั่นถ่ายรูปเซลฟี่หมู่แบบเก็บครบกลุ่มทีเดียวหลายคน โดยใช้วิธีลากกล้องเหมือนถ่ายพาโนรามานิดๆ ขณะที่กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล ลองถ่ายแบบมาโครซูมดูรายละเอียดก็เก็บเส้นเก็บลวดลายได้ดี ภาพซูมมีเส้นมีสายมีดีเทลไม่ออกเป็นภาพป้านๆ

รวมๆ หน้าจอภาพคมสวยระดับใช้การได้ดี เรื่อง ui อย่างที่บอกว่าใครมีประสบการณ์จากไอโฟน มาลองวีโว่ใช้งานได้สะดวกดี ส่วนความละเอียดจออาจจะยังไม่ใช่เต็มที่ ขณะที่แบตเตอรี่ 3,225 มิลลิแอมป์

ในยุคแห่งคลิป ลองกดเข้าไปถ่ายวิดีโอนั้น ยังไม่รู้สึกพิเศษ ภาพออกมาธรรมดา ระหว่างถ่ายทดลอง ลงนิ้วซูมเข้าซูมออกยังไม่ค่อยได้อารมณ์ แต่ตรงนี้ต่อไปต้องวัดที่ฝีมือน้ำหนักการไล่นิ้วลงหน้าจอของเราเองด้วยว่าประสบการณ์การใช้งานของเราชินและคุ้นกับวีโว่หรือยัง

ข้อมูลโหมด Hi-Fi ที่ให้มากับเครื่อง

มาที่การสำรวจอีกจุดไฮไลท์ สายฟังเพลงอันนี้ไม่เบาทีเดียว ใส่ชิปเสียง Hi-Fi AK4376A เข้าไปในตัวเครื่อง
ได้เสียงเบสขึ้นมาทุ้มๆนุ่มๆขึ้น ลองฟังหลายเพลงจากสตรีมมิ่ง และต่อสปีคเกอร์ภายนอกเพื่อฟังระบบ hifi ยอมรับว่าเสียงมีคุณภาพดี

 

ถัดมาการใช้งานหน้าจอเต็มตามเทรนด์กลุ่มชอบเล่นเกมกับฟังก์ชั่นจุดขาย ตัดการรบกวนจากการโทรเข้าและการเด้งแจ้งเตือนข้อความได้ เมื่อกดโหมดลดการรบกวน ซึ่งถ้าไม่เล่นเกมก็กดปุ่มนี้เอาไว้ใช้กับกรณีอื่นๆจะฟังเพลง ดูหนังก็ได้เช่นกัน

ความที่ไม่ใช่สายเล่นเกมหนักหน่วง แต่เข้าแอปพลิเคชั่น นั่งไล่เซิร์ฟเน็ต เข้าเว็บนั้นออกเว็บนี้ เล่นโซเชียลฯ ถือว่าลื่นไหล น้ำหนักเครื่องเบา สลับทดสอบการใช้งาน 2 หน้าจอ กับฟังก์ชัน Smart split ใช้การลาก 3 นิ้วลงหน้าจอ ก็จะแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 ส่วน ใครชอบดูยูทูปกับใช้อีกจอทำอย่างอื่น เช่น แชท หรือเข้าอีกเว็บไซต์อ่านคอนเทนต์ออนไลน์ต่างๆก็สะดวกดี ไม่ค้าง หรือสะดุด

ขณะที่ใครเป็นสาวกถนัด ios อยากใช้ android ด้วย UI ใช้ง่าย ดูง่าย ไม่ซับซ้อน เอาประสบการณ์การใช้งานแบบคุ้นเคยให้คุ้นมือ การเซ็ทติ้งตั้งค่าต่างๆไม่ยาก ยิ่งใครผ่าน ios มานาน คล่องมือแน่นอน

รวมๆ Vivo V7+ อาจมีวิจารณ์ด้านสเปคบางจุดอยู่บ้าง แต่เมื่อคำนึงว่า ฟังก์ชั่นที่ค่ายจัดมาให้ในอารมณ์นี้เหมาะกับกลุ่มใช้สมาร์ทโฟนสายกลางๆ ใช้งานกันได้ยาวๆ รูปทรงเครื่องหน้าตาดี จอสีสวยใช้ได้ เกาะกระแสจอเต็ม ดูหนัง ฟังเพลง เสียงดี เล่นเกมไม่สะดุด ถ่ายรูปพอทเทรท-เซลฟี่กันเต็มเหนี่ยว ในราคาไม่ได้เจ็บปวด เพราะจัดฟังกชั่นแบบอินเทรนด์ให้ผู้ใช้งานมาครบเลยทีเดียว