สาวกไอโฟนควรอ่าน! มาดู 8 เหตุผลที่คุณควรซื้อ “ไอโฟน 8” มากกว่า “ไอโฟน X”

หลังบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่างแอปเปิลเปิดตัวไอโฟน 3 รุ่นใหม่ในปีนี้ ซึ่งได้แก่ ไอโฟน 8, ไอโฟน 8 พลัส และรุ่นท็อปอย่างไอโฟน X ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 699 ดอลลาร์สหรัฐ 799 ดอลลาร์สหรัฐ และ 999 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรุ่นที่แพงที่สุดก็คือไอโฟน X นั่น โดยถึงแม้ไอโฟน X ก็ได้แสดงให้เห็นถึงแนวเทคโนโลยีของไอโฟนในอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายเหตุผลที่การซื้อไอโฟน 8 คุ้มค่ากว่าการซื้อไอโฟน X มาดูกัน!

1.ไอโฟน X แพงกว่าไอโฟน 8

ถือเป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุดสำหรับใครหลายคนเลยก็ว่าได้ โดยไอโฟน 8 ราคาเริ่มต้นที่เกือบ 700 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนไอโฟน 8 พลัส ราคาเริ่มต้นที่เกือบ 800 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ไอโฟน X นั้นราคาเริ่มต้นกระโดดไปที่เกือบ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว ใช้คณิตศาสตร์คำนวณง่ายๆ ก็พบว่าหากซื้อไอโฟน 8 ก็จะสามารถประหยัดเงินไปได้เยอะ

2.ไอโฟน 8 และไอโฟน 8 พลัส ใช้การประมวลผลแบบเดียวกับไอโฟน X

นี่อาจเป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุดในการพิจารณาว่าจะตัดสินใจเลือกไอโฟน 8, ไอโฟน 8 พลัส หรือไอโฟน X ซึ่งทั้ง 3 รุ่นก็มีระบบประมวลผลที่เหมือนกัน

โดยไอโฟนทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมกับชิปตัวใหม่ของแอปเปิลอย่าง A11 Bionic chip, neural engine และ M11 motion coprocessor ซึ่งความแตกต่างอย่างเดียวก็คือ ฟีเจอร์การใช้งานหน่วยประมวลผลของแต่ละรุ่น โดยไอโฟน X นำ A11 Bionic chip และ neural engine มาใช้ในระบบจดจำใบหน้า, การสแกนใบหน้า ขณะที่ไอโฟน 8 ไม่มีระบบนี้

นอกจากนี้ ไอโฟนทั้ง 3 รุ่น ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 11 ซึ่งหมายความว่าคุณจะสามารถใช้งานแอปพลิเคชั่นและระบบที่เหมือนกันได้ทั้งในไอโฟน 8 และไอโฟน X

3.ทัช ไอดี คือสิ่งที่พิสูจน์ทางนิติบุคคลได้แล้ว แต่เฟซ ไอดี ยังทำไม่ได้

ตั้งแต่ไอโฟน 5 เอส เปิดตัวมาในปี 2013 ทัช ไอดี ได้เปลี่ยนวิธีการใช้งานไอโฟนของเราทุกคนไป ทั้งการล็อกอุปกรณ์, เก็บพาสเวิร์ด และใช้ลายนิ้วมือในการซื้อสินค้าผ่านแอปเปิลเพย์

ทัช ไอดี ยังเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่รู้จักดี สามารถพิสูจน์ทางนิติบุคคลได้ ส่วนเฟซ ไอดีนั้นดูเหมือนว่าจะดี แต่หลายครั้งก็ยังดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ และที่สำคัญคือความเร็วน้อยกว่าทัช ไอดี

นอกจากนี้ การที่แอปเปิลยืนยันว่าเฟซ ไอดี สามารถทำงานได้ในสถานการณ์ที่คุณคิดว่ามันจะทำงานไม่ได้ เช่น ในที่มืด, หน้าเปลี่ยนไป เช่น ไว้หนวด ใส่แว่น หรือเปลี่ยนทรงผม แต่เฟซ ไอดี ก็ยังสามารถทำงานได้ ทำให้ยังมีการตั้งคำถามถึงการทำงานผิดพลาด และเรื่องของความปลอดภัย

4.ไอโฟน 8 และไอโฟน 8 พลัส รองรับระบบ fast charging และ wireless charging เป็นครั้งแรก ซึ่งเหมือนกับไอโฟน X

ไอโฟนทั้ง 3 รุ่นนี้รองรับมาตรฐาน Qi wireless charging และ fast charging แต่นั่นหมายความว่าคุณจะต้องซื้อแอคเซสเซอรีเพิ่มเติมหากต้องการชาร์จด้วยวิธีดังกล่าว ซึ่งได้แก่ Qi wireless-charging pad หรือสายชาร์จที่ช่วยให้ชาร์จได้ไวขึ้น นี่ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่คุณต้องคำนึงถึงหากต้องการใช้เทคโนโลยีนี้ในไอโฟน 8 หรือแม้กระทั่งรุ่นที่แพงกว่าอย่างไอโฟน X

5.ไอโฟน 8 พลัส และไอโฟน X มีกล้องหลังที่แทบจะเหมือนกัน

หากคุณเป็นคนที่แคร์เรื่องการถ่ายภาพ ก็ต้องบอกว่าไอโฟน 8 พลัส มีกล้องหลังที่แทบจะเหมือนกับไอโฟน X ทุกประการเลยทีเดียว โดยถึงแม้กล้องของไอโฟน 8 จะดีอยู่แล้ว แต่รุ่นใหญ่กว่าไอโฟน 8 พลัสมีกล้อง 2 ตัว และกล้องตัวที่สองที่มีเลนส์ที่ช่วยให้ซูมได้ไกลขึ้น

ความแตกต่างเดียวของกล้องหลังในไอโฟน 8 พลัส และไอโฟน X ก็คือ ไอโฟน X มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัลสำหรับทั้งเลนส์มุมกว้างและเลนส์เทเลโฟโต้ เพื่อความคมชัดของภาพ โดยเฉพาะในที่แสงน้อย ขณะที่ไอโฟน 8 พลัส มี OIS เฉพาะในเลนส์มุมกว้างเท่านั้น

6.กล้องหน้าของไอโฟน 8 พอๆ กับไอโฟน X แค่มีฟีเจอร์เสริมน้อยกว่า

กล้องหน้าชนิด FaceTime HD ในไอโฟน 8 และไอโฟน 8 พลัส เรียกได้ว่าทำหน้าที่ได้เหมือนกับระบบกล้อง TrueDepth ในไอโฟน X เลยทีเดียว โดยทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมกับกล้องหน้า 7 เมกะพิกเซล รูรับแสง ƒ/2.2 และความละเอียดวิดีโอ 1080p

ความแตกต่างเดียวของไอโฟน X ที่มีฟีเจอร์มากกว่าไอโฟน 8 ก็คือ กล้องหน้าของไอโฟน X มีโหมดพอร์ทเทรต ที่ทำให้ถ่ายคนได้สวยขึ้น, แสงพอร์ทเทรต ที่ให้เราสามารถถ่ายภาพคนแบบเอาพื้นหลังออกและเปลี่ยนพื้นหลังเป็นสีดำ, แอนิโมจิ ที่ให้เราสามารถส่งอีโมจิเคลื่อนไหวที่แสดงสีหน้าและเสียงพูดของเราไปให้เพื่อนได้

7.ไอโฟน 8 ไม่มีดีไซน์รอยเว้าด้านบนของหน้าจอ

ดีไซน์การเว้าเพื่อเว้นที่สำหรับกล้องหน้าและลำโพง ทำให้การแสดงผลของหน้าจอไร้ขอบไอโฟน X เรียกได้ว่าเหมือนมีอะไรมาขัดๆ มองแล้วไม่สมูท แต่สำหรับบางคนก็อาจจะไม่ได้เป็นปัญหาอะไรนัก

8.ถ้าคุณอัพเกรดจากไอโฟน 7 หรือ 7 พลัส เคสเก่าของคุณยังใช้ได้

สำหรับขนาดของไอโฟน 8 และ 8 พลัสนั้น ถ้าเทียบกับไอโฟน 7 และ 7 พลัส แล้วพบว่า ไอโฟนรุ่นใหม่นี้หนักกว่าเล็กน้อย โดยมีความสูง, ความกว้าง และความลึกแตกต่างจากรุ่นเก่าเล็กน้อย แต่ก็น้อยมากจนสามารถใส่เคสของไอโฟน 7 หรือ 7 พลัส ได้พอดี ขณะที่ไอโฟน X มีขนาดแตกต่างจากไอโฟนรุ่นก่อนๆ อย่างสิ้นเชิง และเคสเก่าของคุณก็คงใช้ด้วยไม่ได้

 

 


ประชาชาติฯออนไลน์แปลและเรียบเรียงจาก www.businessinsider.com