ฟื้นฟูสายตาด้วยวิถีธรรมชาติ

ความผิดปกติทางสายตารูปแบบต่าง ๆ ทั้งสั้น ยาว หรือเอียง ซึ่งความผิดปกติเหล่านี้เกิดจากความอ่อนแอของกล้ามเนื้อตา (Ciliary Muscle) ทำให้ไม่สามารถหดหรือคลายตัวเพื่อให้เลนส์ตาปรับโฟกัสภาพได้ชัดเจน มีงานวิจัยในสหรัฐชี้ว่ามีสาเหตุจากพฤติกรรมการใช้สายตาอย่างผิด ๆ เช่น การมองจอมือถือ ดูทีวีเป็นเวลานาน อ่านหนังสือในที่มืด หรืออ่านหนังสือบนรถ

แม้ปัจจุบันสามารถแก้ปัญหาการมองเห็นด้วยหลายวิธี เช่น การใส่แว่น ใส่คอนแท็กต์เลนส์ หรือวิธีการผ่าตัดทำเลสิก แต่มีอีกหนึ่งทางเลือก อย่างการฟื้นฟูสายตาวิถีธรรมชาติที่ไม่ต้องเจ็บตัวจากการผ่าตัด การใช้สารเคมีหรือใช้อุปกรณ์เพื่อช่วยให้มองเห็น

อุราภา วัฒนะโชติ ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูดวงตาด้วยวิถีธรรมชาติ ผู้คิดค้นศาสตร์การฟื้นฟูสายตาด้วยวิถีธรรมชาติ เล่าให้ความรู้ในงาน Healthcare 2018 ว่า การฟื้นฟูสายตาวิถีธรรมชาติเป็นศาสตร์ที่รวบรวมความรู้การดูแลสายตาจากหลายศาสตร์ เช่น วิชาเซไตย (Seitai) วิชาไท้เก๊ก วิชาโยคะสมาธิขั้นสูงจากอินเดีย แล้วนำมาประยุกต์ใหม่ให้ไม่ต้องใช้แว่นตา หรือคอนแท็กต์เลนส์ที่มีผลให้เลนส์ตาสูญเสียความยืดหยุ่น ซึ่งทำให้ค่าสายตาแย่มากขึ้น และต้องเปลี่ยนแว่นตาหรือคอนแท็กต์เลนส์อยู่เสมอ

ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูดวงตาด้วยวิถีธรรมชาติอธิบายว่า ศาสตร์การฟื้นฟูสายตาวิถีธรรมชาติประกอบด้วย 4 ส่วนสำคัญสำหรับการฟื้นฟูสายตา คือ ดวงตา จิตใจ สมอง และร่างกาย โดยขั้นแรกของการรักษาจะเริ่มฟื้นฟูจากจิตใจให้เกิดความเชื่อมั่นว่ารักษาได้จริง เพื่อให้ผู้ฟื้นฟูพร้อมเปิดใจทำการรักษา

หลังจากเปิดใจแล้ว กระบวนการฟื้นฟูจะเริ่มจากการฟื้นฟูร่างกายให้ยืดหยุ่น ไม่เกร็งตึง ทั้งส่วนคอ บ่า ไหล่ รวมถึงแนวกระดูกไขสันหลัง จากนั้นเข้าสู่การฝึกเพื่อฟื้นฟูดวงตาด้วยการกระตุ้นจอรับภาพ เช่น ฉายไฟในห้องมืด ใช้แผ่นภาพฝึกดวงตาให้รวมภาพแบบ fusion ได้ และใช้ลูกบอลฝึกการทำงานของกล้ามเนื้อตาทั้ง 6 มัดเพื่อให้แข็งแรงและทำงานได้ดี

นอกจากนี้ ยังมีการล้างตาในน้ำเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือดภายในลูกตา การนวดบริเวณเบ้าตาเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อรอบนอกเบ้าตา การฝึกตาด้วยการมองปลายปากกา ลูกปัด และวัตถุอื่นเพื่อให้เกิดการมองเห็นที่สมบูรณ์ (perfect vision)

ส่วนการฟื้นฟูสมองเพื่อช่วยเรื่องการมองเห็น ใช้วิธีวาดภาพด้วยปลายจมูกเป็นอักษรโอม (Om) พร้อมกับให้จินตนาการเป็นแสงสีแดง เขียว น้ำเงิน เพื่อกระตุ้นสมองซีกขวาที่รับผิดชอบเรื่องการมองเห็น ซึ่งการฝึกนี้นอกจากช่วยฟื้นฟูสมองแล้วยังช่วยฝึกดวงตาด้วย

หลังฟื้นฟูครบ 4 ส่วน จะทำให้เกิดการมองเห็นที่สมบูรณ์ ซึ่งต้องสามารถทำได้ตาม 3 ข้อนี้ คือ 1.ตาซ้ายและตาขวาสามารถเห็นภาพที่แยกกันรวมเป็นหนึ่งได้ เรียกว่า การฟิวส์ (fuse) 2.สามารถกะระยะตื้นลึกได้ 3 มิติ 3.สามารถเห็นภาพชัดขึ้น และเมื่อตรวจ visual acuity test (VA) ได้ค่าสายตา 6/6 เมตร หรือ 20/20 ฟุต ทั้งตาดวงเดียวและตา 2 ดวง

สำหรับระยะเวลาที่ใช้ในการฟื้นฟูสายตา คนที่สายตาสั้นไม่มากจะใช้เวลาฟื้นฟูประมาณ 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน ถ้าฝึกฝนสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละครึ่งชั่วโมงก็จะเห็นผลชัดเจน โดยหลังจากนั้นต้องฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2-6 เดือน แล้วแต่ความยากง่ายในแต่ละกรณี

ส่วนกลุ่มสายตาคนแก่หรือสายตาสูงวัยที่ต้องใช้แว่นในการอ่านหนังสือ จะได้ผลดีเมื่อเริ่มฝึกช่วงอายุ 40 ปี ใช้เวลา 2 สัปดาห์ขึ้นไปเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาที่จะเห็นผลขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นตั้งใจในการฝึกตามขั้นตอนอย่างสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการฟื้นฟูนี้เห็นผลทำให้สายตามองเห็นปกติ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูดวงตาด้วยวิถีธรรมชาติบอกว่า เมื่อวัดค่าสายตาผ่านคอมพิวเตอร์จะได้ผลค่าสายตาในระดับเดิม เนื่องจากคอมพิวเตอร์วัดค่าสายตาที่ความโค้งกระจกตาและดัชนีความหักเห