ตรวจวัดคุณภาพอากาศในอาคาร สำคัญไม่แพ้ภายนอก

จากสถานการณ์ปริมาณฝุ่นละอองในกรุงเทพฯเพิ่มสูงขึ้นเกินเกณฑ์มาตรฐานทำให้หลายหน่วยงานมีการประกาศงดกิจกรรมกลางแจ้ง และแนะนำให้ประชาชนอยู่ในอาคารจึงจะปลอดภัยกว่า ดังนั้นอากาศที่อยู่ภายในอาคารจึงมีความสำคัญมาก หากในอาคารมีคุณภาพอากาศที่ไม่ดีหรือมีสารพิษอยู่ ย่อมจะทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ที่อยู่ภายในอาคารได้เช่นกัน 

นายสุพจน์ จินดารัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมชีวการแพทย์ บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ (N Health) เปิดเผยว่า อาคารในปัจจุบันส่วนใหญ่ถูกออกแบบให้เป็นอาคารปิด โดยใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ มาช่วยควบคุมสภาพอากาศภายในอาคาร เช่น การใช้เครื่องปรับอากาศ ซึ่งคนส่วนใหญ่ในเมืองใช้ชีวิตอยู่ภายในอาคารสูงถึง 89% ของเวลาทั้งหมดในแต่ละวัน เพื่อหลีกเลี่ยงมลพิษทางอากาศและสภาพอากาศที่ร้อนระอุ

จากการศึกษาขององค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า 30% ของอาคารทั่วโลกยังมีปัญหาด้านคุณภาพอากาศและอาจมีปริมาณสารมลพิษสูงกว่าภายนอกอาคารถึง 100 เท่า โดยเฉพาะอาคารที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม และโรงพยาบาล ปัญหาดังกล่าวอาจนำไปสู่การเกิดโรคที่เกิดจากการทำงานในอาคารที่เรียกว่า อาการป่วยเหตุอาคาร (sick building syndrome) ได้แก่ กลุ่มอาการทางตา จมูก ลำคอ ระบบหายใจส่วนล่าง ระบบประสาท ผิวหนัง

ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีความเข้าใจและเอาใจใส่เรื่องคุณภาพอากาศภายในอาคาร เพื่อป้องกันมลพิษทางอากาศภายในอาคาร เพราะเจ้าของอาคารเองไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าอากาศภายในอาคารนั้นมีคุณภาพเป็นเช่นไร เจ้าของอาคารจึงต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการเข้าตรวจสอบคุณภาพอากาศภายในอาคารเพื่อพิจารณาถึงปัจจัยและปัญหาต่าง ๆ รวมถึงการใช้เครื่องมือวัดที่มีมาตรฐาน

สาเหตุของการเกิดมลพิษทางอากาศภายในอาคารอาจเกิดจากระบบปรับอากาศเสื่อมสภาพ การออกแบบอาคารที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งานจริง การเพิ่มขึ้นของภาระระบบปรับอากาศ ทั้งปริมาณคน วัสดุอุปกรณ์ สารเคมีจากสเปรย์ น้ำยาทำความสะอาดและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน การเคลื่อนที่ของมลพิษทางอากาศภายนอกเข้าสู่ภายในอาคาร ผ่านรอยรั่ว เช่น ขอบประตู ขอบหน้าต่าง ซึ่งหากรอยรั่วนั้นมีขนาดกว้าง มลพิษภายนอกก็จะเข้ามาสะสมภายในอาคารมากขึ้น หรือห้องภายในอาคารขาดการระบายอากาศก็อาจส่งผลให้มลพิษภายในอาคารมีค่าสูงกว่าภายนอกได้

ดังนั้นการตรวจสอบคุณภาพอากาศภายในอาคารให้ทราบถึงแนวทางการปรับปรุงจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับต้น ๆ เพื่อให้มีคุณภาพอากาศภายในอาคารที่ดีต่อไป และเพื่อให้ผู้ใช้อาคารมีสุขภาพที่ดี