ปวดเข่า ขัดในข้อ สัญญาณข้อเข่าเสื่อม ร้ายแรงถึงขั้นเดินไม่ได้

โรคข้อเข่าเสื่อม คือ โรคที่เกิดขึ้นจากการที่กระดูกอ่อนผิวข้อถูกทำลายสึกหรอลง เป็นโรคที่พบได้บ่อยมากในผู้สูงอายุ จากสถิติของประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า 10-13 เปอร์เซ็นต์ของผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปี จะมีอาการของโรคข้อเข่าเสื่อม เช่น ปวด ขัดในข้อเวลาใช้งาน เดินกะเผลก โดยโรคนี้จะพบบ่อยขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น

นพ.พฤกษ์ ไชยกิจ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลพระรามเก้า ให้ข้อมูลว่า โดยปกติกระดูกอ่อนผิวข้อจะมีลักษณะเรียบลื่นเป็นมัน ทำหน้าที่ช่วยให้การเคลื่อนไหวของข้อเป็นไปอย่างเรียบลื่นไม่สะดุด ช่วยกระจายแรงและลดแรงกดกระแทกที่เกิดขึ้นกับข้อต่อ

ในกรณีของผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม ซึ่งกระดูกอ่อนผิวข้อจะบางลง โดยอาจมีการแตกเปื่อยยุ่ย สึกหรอ หรือมีการสูญเสียกระดูกอ่อนผิวข้อ จะทำให้กระดูกส่วนปลายของกระดูกต้นขาที่ต่อกับกระดูกส่วนบนของกระดูกหน้าแข้ง บริเวณข้อเข่า เกิดการเสียดสีกันไปมา เป็นสาเหตุให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุข้อ ทำให้มีน้ำในข้อมากขึ้น ก่อให้เกิดการบวมของข้อเข่า และเกิดอาการปวดเสียว ข้อเข่ามีการเคลื่อนไหวติดขัด โดยเฉพาะเวลาที่มีการใช้งาน ในระยะท้ายของโรค ข้อเข่ามักเกิดการโก่งผิดรูป โดยมากพบว่าเป็นขาโก่งแบบโค้งออก (bow legs)

ผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม มักจะมีความเจ็บปวดในการใช้งาน และความเจ็บปวดมีแนวโน้มจะเป็นมากขึ้นตามลักษณะการทำลายผิวข้อที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักทุเลาจากการปวดได้เอง แต่กระดูกอ่อนผิวข้อจะยังคงถูกทำลายมากขึ้น ในที่สุดก็มักจะกลับมาปวดเท่าเดิม หรือมากกว่าเดิม

เมื่อโรคลุกลามมากขึ้น อาการเจ็บปวดนี้จะทำให้ผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมขยับข้อน้อยลง เดินได้น้อยลง หรือเดินไม่ได้ในที่สุด

นพ.พฤกษ์บอกว่า การรักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียม เป็นวิธีหนึ่งที่สามารถทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตและทำกิจกรรมได้อย่างปกติ มีการทำมานานกว่า 40 ปีแล้ว ปัจจุบันด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่พัฒนาไปอย่างมาก ทำให้การผ่าตัดสามารถทำได้ดีขึ้นไปอีก โดยการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยผ่าตัดเพื่อแก้ปัญหาที่พบบ่อยจากการผ่าตัดด้วยวิธีมาตรฐาน เนื่องจากในการผ่าตัดแบบปกติอาจเกิดการคลาดเคลื่อนได้ ซึ่งถ้าเกิดการคลาดเคลื่อนในการตัดกระดูก 3-5 องศา อายุการใช้งานของข้อเข่าเทียมจะมีโอกาสลดลงไปได้มาก ลักษณะขายังดูผิดรูป และการใช้งานก็อาจไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น ความคลาดเคลื่อนดังกล่าวนี้ก็สามารถสร้างปัญหาได้

สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยผ่าตัด หรือที่เรียกว่า “เครื่องเนวิเกเตอร์” นี้ จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดความคลาดเคลื่อนดังกล่าวได้มาก เนื่องจากจะสามารถรับรู้ความคลาดเคลื่อนได้ในมุมที่เล็กน้อยเพียง 0.5 องศา ในส่วนของการทำงาน เครื่องจะทำการคำนวณออกมาว่าต้องตัดกระดูกทำมุมเท่าไร อย่างไร จากภาพเสมือนจริงที่สร้างขึ้น และแสดงภาพการวางข้อเข่าเทียมที่ควรจะเป็น เพื่อให้เหมาะสมกับคนไข้ในแต่ละราย ซึ่งเครื่องนี้จะลดความคลาดเคลื่อนของการตัดกระดูกได้ และสามารถแก้ไขความผิดรูปของข้อเข่าได้ดี และช่วยในการจัดความตึงของเส้นเอ็นรอบข้อเข่าได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ ในการรักษาผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมในแต่ละรายนั้น ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาถึงอายุ น้ำหนัก ความหนาแน่นของมวลกระดูก สภาพร่างกายและจิตใจ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ผู้ป่วยต้องการ ดังนั้น หากผู้ป่วยมีอาการใด ๆ ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยโดยละเอียด และสามารถถนอมรักษาข้อเข่าเดิมให้มีอายุยาวนาน รวมถึงได้คำแนะนำที่เหมาะสมหากต้องมีการผ่าตัดด้วย