แนะ 7 กลุ่มเสี่ยง ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ รพ.รัฐให้บริการฟรี 4 ล้านโดส

องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2562-2573 ประชากรผู้ใหญ่ทั่วโลกจะป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ 5-10% ต่อปี และเด็กจะป่วย 20-30% ต่อปี จากจำนวนดังกล่าวสรุปออกมาเป็นจำนวนผู้ป่วย ในแต่ละปีจะพบผู้ป่วยทั่วโลกกว่า 1,000 ล้านคน เป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดรุนแรง 3-5 ล้านคน เสียชีวิต 2.9-6.5 แสนคนต่อปี

ข้อมูลประเทศไทย ปีนี้โรคไข้หวัดใหญ่ระบาดเร็วกว่าปกติ 2-3 เดือน โดยตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายนที่ผ่านมา พบผู้ป่วย 130 ราย เสียชีวิต 9 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่อายุระหว่าง 7-9 ขวบ จำนวนของผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2561

รศ.นพ.ชิษณุ พันธุ์เจริญ สาขาวิชาโรคติดเชื้อและศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านวิจัยโรคติดเชื้อเด็กวัคซีน ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า โรคไข้หวัดใหญ่ยังเป็นปัญหาทางสาธารณสุขของประเทศ โรคไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์ พบบ่อยในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว เชื้อไข้หวัดใหญ่แพร่ระบาดได้ง่ายผ่านการไอจามรดกันและการสัมผัสเชื้อทางมือ ในแต่ละปีมีแนวโน้มว่าจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้น

ผู้ป่วยส่วนหนึ่งอาจมีอาการรุนแรงและมีภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เมื่อคนกลุ่มเสี่ยงป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่อาจจะมีอาการรุนแรงมาก อาจพบภาวะปอดบวมจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่หรือจากเชื้อแบคทีเรียที่มาซ้ำเติม นอกจากนี้การติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงอายุอาจส่งเสริมให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

รศ.นพ.ชิษณุให้ข้อมูลอีกว่า ผู้ป่วย 7 กลุ่มเสี่ยงประกอบด้วย 1.หญิงตั้งครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 2.เด็กเล็ก อายุ 6 เดือน-3 ขวบ 3.ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวาย โรคมะเร็งระหว่างได้รับเคมีบำบัด และโรคเบาหวาน 4.ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 5.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 6.ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย ผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมทั้งผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ และ 7.ผู้ป่วยโรคอ้วน (น้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป หรือ BMI 35 ขึ้นไป)

รศ.นพ.ชิษณุกล่าวอีกว่า ปีนี้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนวัคซีนแบบ 3 สายพันธุ์ จำนวน 4 ล้านโดส โดยเพิ่มจาก 3.5 ล้านโดสในปี พ.ศ. 2561 จึงขอรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในโรงพยาบาลของรัฐ

“หลายปีที่ผ่านมามีประชาชนกลุ่มเสี่ยงมารับบริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพียง 10% ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าหมายมาก ปีนี้หน่วยงานต่าง ๆ จึงมีการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่มากขึ้น พร้อมแนะนำให้ฉีดเป็นประจำทุกปี หากประชาชนรับรู้ แต่เพิกเฉย ก็ย่อมไม่เกิดผลดีทั้งต่อตนเอง คนใกล้ชิด สังคม และประเทศชาติ”

รศ.นพ.ชิษณุบอกอีกว่า ไม่มีวัคซีนชนิดใดที่สามารถป้องกันโรคได้ 100% แต่เมื่อฉีดวัคซีนแล้ว โอกาสในการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคจะลดลง การฉีดวัคซีนเป็นประจำทุกปี จะสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและมีคุณค่าอย่างมาก

“เนื่องด้วยวัคซีนไข้หวัดใหญ่อาจป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในคนกลุ่มเสี่ยงได้ไม่ดีเท่ากับคนที่มีสุขภาพแข็งแรง จึงแนะนำให้สมาชิกในครอบครัวที่มีผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนด้วย เพื่อไม่ให้คนที่เรารักป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่และยังช่วยไม่ให้แพร่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มายังคนในครอบครัว” คุณหมอแนะนำปิดท้าย