ผิวรอบดวงตา ควรดูแลอย่างไรให้สวยใสอ่อนเยาว์

ถ้าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ผิวรอบดวงตาก็น่าจะสำคัญมากเช่นกัน แต่ผิวอันบอบบางรอบดวงตานั้นเป็นโจทย์ใหญ่ที่หลายคนแก้ไม่ตกว่าจะดูแลอย่างไร ยกตัวอย่าง แค่การทาครีมกันแดด ถ้าจะทาบริเวณรอบดวงตาก็กลัวว่าครีมกันแดดที่มีสารรุนแรงจะทำร้ายผิวที่บอบบาง แต่ถ้าจะไม่ทาก็กลัวแสงแดดทำร้ายอีก แล้วเราจะดูแลมันอย่างไรดีล่ะ

ในงานเวิร์กช็อปการดูแลผิวหน้าและผิวรอบดวงตา ที่จัดโดยด็อกเตอร์โซล (Dr.Seoul) แบรนด์ผลิตภัณฑ์เวชสำอางดูแลผิวหน้าที่ได้รับมาตรฐานการผลิตจากประเทศเกาหลีใต้ แพทย์หญิงอวิกา รงค์ทอง แนะนำเคล็ดลับและวิธีการดูแลและการปกป้องผิวรอบดวงตา เพื่อให้ผิวกระจ่างใส ไร้ริ้วรอย แลดูอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอว่า ผิวบริเวณรอบดวงตาเป็นผิวที่มีชั้นผิวบางที่สุดบนใบหน้า และมีต่อมไขมันน้อยทำให้ผิวรอบดวงตานั้นแห้ง จึงทำให้ระคายเคืองและก่อให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น ๆ จึงควรจะดูแลเป็นพิเศษ

การดูแลผิวรอบดวงตาเริ่มจากการเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางให้หมดจดทั้งใบหน้าและรอบดวงตาอย่างอ่อนโยน โดยเฉพาะสาว ๆ ที่แต่งตาด้วยเครื่องสำอางอย่างอายแชโดว์หรือมาสคาร่า ต้องเช็ดทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับดวงตา จึงค่อยล้างหน้าด้วยเจลหรือโฟมล้างหน้า และไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีเม็ดบีทหรือเม็ดสครับกับบริเวณรอบดวงตา เพราะยิ่งจะทำให้ผิวรอบดวงตานั้นระคายเคืองและแห้งง่ายขึ้นไปอีก

หลังจากนั้น ควรเติมความชุ่มชื้นด้วยผลิตภัณฑ์อายครีม สิ่งสำคัญของการดูแลผิวคือไม่ควรละเลยการทาผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดบริเวณผิวรอบดวงตา ควรทาให้สม่ำเสมอ โดยวิธีการทาครีมดูแลบริเวณรอบดวงตาที่ถูกวิธี คือ ให้บีบครีมปริมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียว แล้วแต้มบริเวณรอบดวงตา จากนั้นถูฝ่ามือและนิ้วให้รู้สึกอุ่น แล้วใช้ปลายนิ้วนางทั้งสองกดซับครีมทาเบา ๆ จากหัวตาไปหางตาแล้วยกขึ้น ให้ครีมซึมซาบเข้าบำรุงผิวรอบดวงตา เพื่อป้องกันอันตรายจากแสงแดดและป้องกันการเกิดริ้วรอยรอบดวงตา

“ปกติการทาผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด บางคนอาจจะละเลยการทาบริเวณรอบดวงตา เพราะเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์กันแดดเหล่านั้นมีส่วนผสมของสารกันแดดที่รุนแรงที่ไม่เหมาะกับผิวบริเวณรอบดวงตา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผิวบริเวณรอบดวงตามีความบอบบางมากกว่าผิวบริเวณอื่น ยิ่งจำเป็นต้องมีการดูแลและปกป้องมากกว่าผิวบริเวณอื่น ฉะนั้นเวลาที่ทาผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดต้องทาบริเวณรอบดวงตาด้วย เพราะในแสงแดดมีทั้ง UVA ที่ทำร้ายลึกถึงชั้นผิวด้านใน ยิ่งส่งผลให้ผิวรอบดวงตาเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น และ UVB ก็ทำให้เกิดความหมองคล้ำรอบดวงตาได้เช่นกัน”

แพทย์หญิงอวิกาบอกอีกว่า ปัจจุบันนี้มีผลิตภัณฑ์ที่ปกป้องแสงแดดที่ถูกคิดค้นมาเพื่อปกป้องและดูแลผิวรอบดวงตาโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการทากันแดดรอบดวงตา แต่มีความกังวลเรื่องส่วนผสมและกลัวอาการแพ้ระคายเคือง ดังนั้น ถ้าเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการทดสอบว่าสามารถใช้กับผิวรอบดวงตาได้ก็สามารถใช้ได้อย่างมั่นใจ