สุขภาพ

สมิติเวช-ไทยประกันชีวิต ร่วมสร้าง Ecohealth System ดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน

ทุกวันนี้ถ้าใครเจ็บไข้ได้ป่วยหรือมีความกังวลเรื่องสุขภาพขึ้นมาแล้วไปเสิร์ชหาคำตอบในกูเกิล เป็นอันต้องยิ่งวิตกกังวลหนักขึ้นไปอีก เพราะไม่ว่าจะมีอาการอย่างไรก็มีข้อมูลบ่งชี้ว่าจะเป็นโรคร้ายได้แทบทุกอาการ ดังนั้นแน่นอนว่าผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยจะอุ่นใจกว่า ถ้าได้ปรึกษาและสอบถามข้อมูลจากแพทย์โดยตรง และเป็นเรื่องดีแน่นอนถ้าผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงแพทย์ได้โดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล อย่างที่มีแอปพลิเคชั่นปรึกษาแพทย์ให้บริการบ้างแล้ว

ล่าสุดก็มีเครือโรงพยาบาลดังเปิดให้บริการลักษณะที่ว่านี้เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเจ้า คือการร่วมมือของเครือโรงพยาบาลสมิติเวช กับไทยประกันชีวิต ที่ร่วมกันผลักดันโครงการ “Healthy Life Plus” สร้าง ecohealth system ดูแลสุขภาพเชิงป้องกันแบบครบวงจร โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่จะทำให้ผู้ใช้บริการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ โดยนำร่องโมเดลธุรกิจ “digital healthcare” สร้างโรงพยาบาลเสมือนจริง ผ่านแอปพลิเคชั่นชื่อ Samitivej Plus เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสุขภาพคนไทยในแบบ “ป้องกัน” โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาให้บริการ

นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ “Healthy Life Plus” จะทำให้เกิดจุดเปลี่ยนร่วมกัน 3 ฝ่าย ระหว่างผู้ให้บริการด้านสุขภาพคือเครือสมิติเวช ผู้ให้บริการด้านคุณภาพชีวิตไทยประกันชีวิต และประชาชนผู้รับบริการจะเข้าถึงเป้าหมายเดียวกัน คือการเสริมสร้างและป้องกันสุขภาพก่อนป่วย เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งนี่จะเป็นโมเดลทางธุรกิจที่ตั้งเป้าจะรักษาสุขภาพในเชิง “ป้องกัน” หรือ preventive medicine

นพ.ชัยรัตน์อธิบายว่า หากผู้ใช้บริการมีข้อกังวลทางสุขภาพ สามารถคลิกเข้าไปปรึกษาแพทย์ในระบบ Samitivej Virtual Hospital ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยค่าบริการที่เหมาะสมเหมือนการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง โดยใช้เทคโนโลยี virtual อย่างเช่น ผู้เข้ารับบริการถ่ายภาพส่งมาให้แพทย์ดู แม้อยู่ในต่างประเทศหรือต่างจังหวัด เวลาไหนก็ตาม สามารถคลิกเข้าระบบเพื่อพูดคุยสอบถามเพื่อให้แพทย์ประเมินอาการและแนะนำการดูแลสุขภาพ ซึ่งวิธีนี้ยังช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายอย่างค่าเดินทาง หรือแก้ปัญหาที่บางคนตัดสินใจไปซื้อยามาโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ ไปจนถึงบางอาการโรคที่ถ้าหากต้องรักษาเร่งด่วนแพทย์จะประเมินและแนะนำให้เข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที

ส่วนคนที่ต้องการเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลก็สามารถใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น Samitivej Plus กดดูข้อมูลแพทย์ เลือกพบแพทย์ที่ต้องการ ตรวจสอบตารางเวลาพร้อมนัดหมายแพทย์ล่วงหน้าได้ทันที และเมื่อถึงวันเข้ารับบริการหลังผ่านขั้นตอนแผนกเวชระเบียนแล้ว แอปพลิเคชั่นจะแสดงลำดับการเข้ารับบริการไปจนถึงการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านแอปได้ทันที ที่สำคัญคือข้อมูลในแอป ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถตรวจดูประวัติการรักษา ผลตรวจสุขภาพ รายการยา และภาพ X-ray ได้ทุกเวลา

“จุดมุ่งหมายของสมิติเวชไม่ได้มุ่งเน้นแต่เพียงการรักษาคนไข้ที่เจ็บป่วย แต่เรามุ่งเน้นสร้างระบบ healthcare ที่เรามีบทบาทช่วยส่งเสริมให้คนไทยดูแลสุขภาพตัวเองป้องกันได้ก่อนป่วย ซึ่งนี่เป็นคุณค่าที่เรามองเห็นร่วมกันกับไทยประกันชีวิต ที่หวังให้ลูกค้ามีสุขภาพแข็งแรง และสามารถใช้เงินออมด้านประกันชีวิตและประกันสุขภาพที่มีประสิทธิภาพในบั้นปลายชีวิต โดยลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาหรือเจ็บไข้ได้ป่วยลงได้” นพ.ชัยรัตน์กล่าว

ด้าน นายไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ “Healthy Life Plus” เป็นหนึ่งในการ reinvent business model ของบริษัท เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคดิจิทัล และไทยประกันชีวิตมุ่งสู่การเป็น life solution นั่นคือส่งเสริมให้ลูกค้ามีสุขภาพที่ดี มีชีวิตที่ยืนยาว มีความสุขกับเงินออมหลังเกษียณ ซึ่งแนวทางส่งเสริมให้ลูกค้ามีสุขภาพที่ดี เป็นหนึ่งประเด็นที่บริษัทให้ความสำคัญ

สำหรับลูกค้าไทยประกันชีวิตสามารถเข้าใช้บริการได้ผ่าน 3 ช่องทางหลักคือ 1.ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Samitivej Plus ได้ฟรี สามารถใช้บริการต่าง ๆ ในแอปได้ฟรี เช่น การนัดหมายแพทย์ การแจ้งเตือนนัดหมาย ส่วนบริการ Samitivej Virtual Hospital จะมีค่าใช้จ่ายตามที่โรงพยาบาลกำหนด 2.เข้าใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น Thailife Card 3.ใช้บริการผ่านเว็บไซต์ www.thailife.com ซึ่งในเบื้องต้น ไทยประกันชีวิตร่วมกับสมิติเวชมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าที่รับบริการตรวจสุขภาพ 5 โปรแกรม

สำหรับผู้ใช้บริการทั่วไปสามารถโหลดแอปพลิเคชั่นมาใช้บริการต่าง ๆ ได้ฟรี ส่วนการใช้บริการ Samitivej Virtual Hospital หากมีการปรึกษาพูดคุยกับแพทย์ 15 นาที จะมีการคิดค่าบริการ 500 บาท