ตรวจดวงตาตามวัย อายุช่วงไหน ควรตรวจอะไรบ้าง

ดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญมาก หากเสียหายไปแล้วจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตอย่างมาก ดังนั้น จึงไม่ควรละเลยการตรวจเช็กดวงตา แม้ว่าจะยังไม่มีอาการเจ็บป่วยหรือผิดปกติก็ตาม ฉบับนี้เรามีคำแนะนำจากคุณหมอว่า คนอายุเท่าไหร่ควรตรวจดวงตาอย่างไรบ้าง

นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคตาหลายชนิดมักเกิดจากโรคที่รักษาได้ หากได้รับการรักษาตั้งแต่แรกเริ่ม ดังนั้น การตรวจตาจึงเป็นสิ่งจำเป็น แม้ยังไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ จะได้ประโยชน์หลายอย่าง เช่น ได้รับการวินิจฉัยโรคตาที่ไม่มีอาการเตือนได้แต่เนิ่น ๆ เพื่อการรักษาที่เหมาะสม
แพทย์หญิงสายจินต์ อิสีประดิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) แนะนำว่า ผู้มีอาการผิดปกติทางตาควรไปพบจักษุแพทย์ทันทีที่มีอาการ สำหรับผู้ที่ไม่มีอาการผิดปกติทั้งกลุ่มคนปกติและกลุ่มคนที่มีปัจจัยเสี่ยงควรได้รับการตรวจเช่นกัน

ในกลุ่มคนปกติ คือ เด็กแรกเกิด กุมารแพทย์จะตรวจร่างกายเป็นประจำ

ช่วงอายุแรกเกิดถึง 5 ปี ควรได้รับการตรวจดวงตา สายตา ภาวะตาเข และป้องกันภาวะตาขี้เกียจ หากตรวจพบการรักษาจะได้ผลดี

ช่วงอายุ 6-20 ปี เป็นช่วงวัยเรียนชั้นประถม มัธยม และมหาวิทยาลัย มักมีภาวะสายตาผิดปกติอาจสายตาสั้น ยาว หรือเอียง ซึ่งควรได้รับการแก้ไข

ช่วงอายุ 20-29 ปี เป็นวัยเรียนต่อกับวัยทำงาน อาจไม่พบโรคตามากนักนอกจากมีอาชีพที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ

ช่วงอายุ 30-39 ปี เป็นวัยสายตาเริ่มเปลี่ยนแปลง ควรได้รับการตรวจสักปีละ 2 ครั้ง

ช่วงอายุ 40- 65 ปี เป็นวัยเริ่มเข้าสู่ผู้สูงอายุ อาจพบโรคตาได้ควรได้รับการตรวจปีละ 1-2 ครั้ง

อายุ 65 ปีขึ้นไป มักมีโรคตาที่เสื่อมตามวัยควรตรวจตาปีละครั้ง

ส่วนกลุ่มคนที่มีปัจจัยเสี่ยง ควรตรวจตาอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำ ดังนี้ 1.เด็กเกิดก่อนกำหนดที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่า 1,500 กรัม หรืออายุครรภ์น้อยกว่า 28 สัปดาห์ 2.ผู้มีปัจจัยเสี่ยงของโรคต้อหิน

เช่น สายตาสั้นมาก มีประวัติต้อหินในครอบครัว เคยได้รับการผ่าตัดตามาก่อน 3.ผู้เป็นเบาหวาน 4.ผู้มีปัจจัยเสี่ยงต่อจอตาฉีกขาดและหลุดลอก ได้แก่ เคยได้รับอุบัติเหตุทางตา สายตาสั้นมาก และมีประวัติโรคนี้ในครอบครัว 5.ผู้มีโรคทางกายที่ต้องใช้ยาบางตัวต่อเนื่อง เช่น ยารักษาวัณโรค ยารักษาโรคข้อ เป็นต้น