อายุ เชื้อชาติ กรรมพันธุ์ 3 ปัจจัยเสี่ยง มะเร็งต่อมลูกหมาก

อาจจะเป็นฝันร้ายของชายไทยก็ว่าได้ เมื่อกลุ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะที่ดูแลรักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมากที่รวมตัวกันในนามกลุ่มแพทย์ PARANG (Prostate cancer AwaReness for pAtieNt by expert Group) เปิดเผยข้อมูลว่า ชายไทยมีแนวโน้มเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากมากขึ้น

ผศ.นพ.ชูศักดิ์ ปริพัฒนานนท์ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบปัสสาวะ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ประธานกลุ่ม PARANG ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันแนวโน้มผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเพิ่มสูงขึ้น เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 4 ของมะเร็งที่เกิดในชายไทย โดยมีอุบัติการณ์ของโรคประมาณ 7.5 คนต่อประชากร 1 แสนคน (หรือประมาณ 3,233 ราย)

ข้อมูลในปีที่ผ่านมาระบุว่ามีคน 1,276,106 รายทั่วโลกที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก และผู้ป่วยประมาณ 358,989 รายทั่วโลกเสียชีวิตจากมะเร็งต่อมลูกหมาก จึงถือว่าโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเป็นโรคที่ร้ายแรง และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยสาเหตุปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ 1.อายุ โดยเฉพาะหลังอายุ 50 ปี

2.เชื้อชาติ คนเชื้อชาติผิวสีดำ (แอฟริกัน-อเมริกัน) มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากมากกว่าชายผิวขาว 3.ประวัติครอบครัว หากมีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 20% เนื่องจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยเฉพาะครอบครัวที่มีบิดาหรือพี่ชาย/น้องชายเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก หรือมีคนในครอบครัวที่เป็นมะเร็งชนิดอื่น

ทั้งนี้ แม้ว่าในปัจจุบันอุบัติการณ์ของโรคสูงขึ้น แต่อัตราการเสียชีวิตกลับมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากมะเร็งต่อมลูกหมากเป็นโรคที่มีระยะเวลาพัฒนาช้า ดังนั้นหากได้รับการตรวจคัดกรองและตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จะสามารถรักษาให้หายขาดได้

คุณหมอแนะวิธีการสังเกตอาการของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากจากสัญญาณหลายอย่างที่เกิดกับระบบปัสสาวะ ได้แก่ ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะเวลากลางคืน ปัสสาวะลำบากหรือกลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปวดเวลาปัสสาวะ พบเลือดในน้ำปัสสาวะหรือน้ำอสุจิ ปวดหรือแน่นตึงบริเวณบั้นเอว เชิงกราน หรือต้นขา เป็นต้น

ปัจจุบันมีการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากอยู่หลายวิธี เช่น การผ่าตัด การฉายรังสี การรักษาด้วยเคมีบำบัด หรือการรักษาด้วยการควบคุมฮอร์โมนเพศชาย ในผู้ป่วยบางรายอาจรักษาโดยใช้หลายวิธีร่วมกันตามระยะการลุกลามของโรคและดุลยพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ผศ.นพ.ชูศักดิ์แนะนำอีกว่า ชายไทยสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้โดย การออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนัก ไม่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง และรับประทานอาหารที่มีกากใยอาหาร เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว และธัญพืช เป็นต้น

สำหรับใครที่สนใจอยากทราบข้อมูลความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งต่อมลูกหมากมากกว่านี้ ไปรับความรู้กันเต็ม ๆ ได้ในงาน “รวมพลังสู้..รู้ทันมะเร็งต่อมลูกหมาก” ที่กลุ่มแพทย์ PARANG จะจัดขึ้นในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 13.00-16.00 น. ณ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ชั้น 5 ห้อง The Mitr-ting Room ภายในงานจะมีการให้ความรู้กิจกรรมมากมาย ให้เข้าร่วมรับฟังข้อมูลและร่วมกิจกรรมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย