หมอแล็บแพนด้าเตือน ช่วงนี้ระวังชิคุนกุนยา หรือโรคปวดข้อยุงลายระบาด มีอาการเดินไม่ได้ บางรายอาจยาวนานเป็นเดือนถึงปี
วันที่ 13 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กเพจ หมอแล็บแพนด้า ของ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน หรือหมอแม็ก นักเทคนิคการแพทย์ หัวหน้างานตรวจโรคติดเชื้อทางโลหิตวิธีอณูชีววิทยา ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย โพสต์เตือนให้ประชาชนระมัดระวังโรคชิคุนกุยา ซึ่งกำลังระบาดอยู่ ดังนี้
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
“โรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือโรคชิคุนกุนยา” ชื่อโรคเหมือนน่ารัก แต่เวลาเป็นแล้วทรมานมาก ๆ เมื่อก่อนผมเคยเป็น ตอนไปเจอหมอแทบยืนไม่ได้เลยแหละ เพราะหมอบอกว่า “เชิญนั่งครับ” 555
โรคนี้เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัส ก็เพราะยุงลายเจ้าเดิมนี่แหละค้าบ ถ้าโดนยุงลายกัด ไวรัสก็จะเข้าสู่ร่างกายเรา อาการจะคล้าย ๆ กับโรคไข้เลือดออกเลย มีอาการไข้สูงอย่างรวดเร็ว มีผื่นแดงตามร่างกาย ปวดกระบอกตา แต่โรคไข้เลือดออกจะรุนแรงมากกว่า
โรคชิคุนกุนยาส่วนใหญ่จะไม่อันตรายถึงตายแต่มันโคตรทรมาน เดินอย่างกะซอมบี้ เพราะมันจะปวดตามข้อมือ ข้อเท้า ข้อต่อแขนขา ข้อไก่ทอดไม่ปวด แต่บางคนปวดกล้ามเนื้อก็มี อาการปวดข้อจะพบได้หลาย ๆ ข้อ ปวดไล่ไปเรื่อย เปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อย ๆ จะเดินก็ไม่ได้ เข่าและข้อต่อไม่มีแรง บางคนปวดข้อเรื้อรัง นานเป็นเดือนหรือเป็นปีก็มี
ไม่มีการรักษาที่จำเพาะ มีแต่รักษาแบบประคับประคองกันไป เพราะฉะนั้นการป้องกันจึงสำคัญที่สุด หน้าฝนนี้ก็ระมัดระวังยุงลายให้ดี ๆ นะครับ อย่าให้มันกัดเราได้เด้อออ
สาเหตุที่เด็กมักเป็นชิคุนกุนยา
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 พญ.ภัสสร บุณยะโหตระ อนุสาขากุมารเวชศาสตร์โรคติดเชื้อ ได้เผยแพร่ข้อมูล เรื่อง ชิคุนกุนยา อีกหนึ่งโรคร้ายจากยุงลายที่ควรรู้จัก ผ่านเว็บไซต์ โรงพยาบาลสมิติเวช ระบุว่า ยุงลาย นอกจากเป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออกแล้ว ยังเป็นพาหะของโรคชิคุนกุนยา (Chikungunya) หรือโรคไข้ปวดข้ออีกด้วยซึ่ง 2 โรคนี้ มีอันตรายไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นกับเด็ก อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและรุนแรง ต่ออวัยวะสำคัญของร่างกาย เช่น ตับ ไต และหัวใจได้
ชิคุนกุนยา เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา เป็นเชื้อไวรัสที่อยู่ในตระกูล Togaviridae โดยมียุงลายสวน (Aedes albopictus) และยุงลายบ้าน (Aedes aegypti) เป็นพาหะนำโรค ซึ่งพบได้ทั่วไปทั้งในเมืองใหญ่และชนบท มักระบาดในช่วงฤดูฝน หรือ บริเวณที่มีน้ำขัง ทั้งนี้ยุงลายมักชุกชุมและออกหากินช่วงกลางวัน ทำให้เด็ก ๆ ที่ชอบออกมาเล่นนอกบ้านหรืออยู่ในโรงเรียน เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อโรค นอกจากนี้แม่ตั้งครรภ์ที่เป็นโรคชิคุนกุนยายังสามารถถ่ายทอดไปยังทารกได้อีกด้วย
อาการของโรคชิคุนกุนยา
เนื่องจากโรคไข้เลือดออก และโรคชิคุนกุนยามียุงลายเป็นพาหะเช่นเดียวกัน รวมถึงอาการที่แสดงออกยังคล้ายคลึงกัน จึงอาจพบผู้ป่วยเป็นทั้ง 2 โรคพร้อม ๆ กันได้ อย่างไรก็ตาม โรคชิคุนกุนยามีความรุนแรงน้อยกว่าโรคไข้เลือดออกมาก ทั้งนี้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อชิคุนกุนยาจะมีไข้สูงขึ้นอย่างเฉียบพลันกว่าโรคไข้เลือดออก และระยะเวลาของไข้ก็สั้นกว่าเพียง 2 วันเท่านั้น
ขณะที่ไข้เลือดออก จะเป็นไข้นานถึง 4 วัน ส่วนใหญ่ไม่พบว่าผู้ป่วยโรคชิคุนกุนยาเกิดอาการช็อก เพราะเชื้อชิคุนกุนยาไม่ทำให้ พลาสม่ารั่วออกนอกเส้นเลือด ทั้งนี้ยังพบผื่นแดงตามร่างกาย ตาแดง และภาวะปวดตามข้อได้มากกว่าผู้ป่วยไข้เลือดออกด้วย
เชื้อชิคุนกุนยามีระยะฟักตัวของโรค 3-7 วัน หลังจากถูกยุงลายกัด และเมื่อครบระยะฟักตัว อาการจะแสดงออกดังนี้
- ไข้สูงเฉียบพลัน และอาจสูงถึง 40 องศาเซลเซียส หลังจากนั้น 2-3 วัน ไข้จะเริ่มลดลง
- ปวดข้อและเมื่อยกล้ามเนื้อ มีภาวะข้ออักเสบ โดยพบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก แต่สามารถหายเองได้ใน 2 สัปดาห์ ในผู้ใหญ่ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไปอาจมีภาวะปวดข้อเรื้อรังได้
- เกิดผื่นแดงตามแขนขาหรือทั่วร่างกาย
- ตาแดง
- รับประทานอาหารไม่ได้
- คลื่นไส้ อาเจียน และปวดศีรษะ
- อ่อนเพลีย หรืออาจท้องเสีย
การวินิจฉัยโรคชิคุนกุนยา
แพทย์เริ่มต้นด้วยการซักประวัติและอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นแพทย์จะใช้การเจาะเลือดผู้ป่วยส่งห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันโรค และหาเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นการวินิจฉัยโรคชิคุนกุนยาที่ดีที่สุด โดยทราบผลเร็วภายใน 1–2 วัน หรือถ้านานอาจทราบใน 1–2 สัปดาห์
การรักษาโรคชิคุนกุนยา
ปัจจุบันยังไม่มียารักษาไวรัสชิกุนคุนยาโดยเฉพาะ รวมถึงไม่มีวัคซีนป้องกัน ดังนั้นการรักษาจึงเป็นไปตามอาการ โดยแพทย์อาจให้ยาลดไข้ แก้ปวด ซึ่งผู้ป่วยควรปฏิบัติตัวดังนี้
- ดื่มน้ำมาก ๆ ให้เพียงพอ อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำเด็ดขาด
- พักผ่อนให้เต็มที่
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
การป้องกันโรคชิคุนกุนยา
วิธีป้องกันโรคชิคุนกุนยาที่สำคัญที่สุดคือการหลีกเลี่ยงไม่ถูกยุงลายกัด ซึ่งสามารถทำได้โดย
- รักษาความสะอาดของบ้าน ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง โดยไม่ให้มีน้ำท่วมขัง
- ปลูกต้นไม้หรือจัดสวนให้โปร่งโล่ง ให้แสงแดดส่อง
- นอนในมุ้งหรือห้องที่มีมุ้งลวดเพื่อป้องกันยุงกัด
- ช่วงที่มีการระบาดของยุงลาย ควรใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว รวมถึงทายากันยุง แม้จะเป็นเวลากลางวันก็ตาม
แม้โรคชิกุนคุนยาจะไม่อันตรายถึงชีวิตและมีความร้ายแรงน้อยกว่าโรคไข้เลือดออกก็ตาม แต่โรคภัยไข้เจ็บทุกโรคย่อมส่งผลเสียให้กับร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่มีความต้านทานโรคต่ำ เช่น เด็กและผู้สูงอายุ อาจเกิดผลแทรกซ้อนที่ยากแก่การรักษา ดังนั้น จึงควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมถึงหากมีอาการไข้สูง เบื่ออาหาร ขาดน้ำ ฯลฯ ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธีและมีประสิทธิภาพ