โหรฟองสนานทำนายดวงศก.เมืองไทย ในวาระย่าง 238 ปี “เริ่มมหาสิทธิโชคทางเศรษฐกิจ”

เมื่อวันที่ 7  พฤษภาคม 2562  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โหรฟองสนาน จามรจันทร์ ได้เผยแพร่ดวงเมืองผ่านเพจเฟซบุ๊ก ฟองสนาน จามรจันทร์  Fongsanan Chamornchan เกี่ยวกับเรื่อง “เมืองอายุ237ปี ตอนที่สาม-เริ่มมหาสิทธิโชคทางเศรษฐกิจ”

โดยระบุว่า “ต่อไปนี้จะได้ทำนายด้านเศรษฐกิจ ของเมืองกว้างๆในวาระที่เมืองอายุครบ237 ย่าง238ปีเริ่มตั้งแต่21 เมษายน 2562 เป็นต้นไปดังนี้

ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์และดาวจรทำมุมกับดวงเมือง
มฤตยูจร(0)ที่ราศีเมษ

พฤหัสบดีศรีจร(5)ที่ราศีธนูเดินถอยหลังเข้าราศีพิจิก25พฤษภา2562-แล้วเดินถอยหลังในราศีพิจิกต่อ-และเริ่มวกกลับเดินหน้า19 สิงหา 2562-เดินหน้าในราศีพิจิกถึง30ตุลาคม2562

พฤหัสบดีศรีจร(5)ที่ราศีพิจิกสาดแสงถึงพระศุกร์ดวงเดิมที่สถิตราศีมีนและสาดแสงถึงพระจันทร์ดวงเดิม(๒)ที่สถิตราศีกรกฎ

พฤหัสบดีศรีจร(5)เดินอยู่ในราศีราศีธนูระหว่าง30ตุลาคม2562-21เมษายน2563
พระราหูจร(8)เดินอยู่ในราศีมิถุนระหว่าง22กุมภาพันธ์2562-10กันยายน2563

ต่อไปนี้จะได้ทำนายด้านเศรษฐกิจ ของเมืองกว้างๆในวาระที่เมืองอายุครบ237ย่าง238ปี เริ่มตั้งแต่21 เมษายน 2562เป็นต้นไปดังนี้

1.กรอบใหญ่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะเริ่มเห็นแววพลิกจากปรากฎการณ์ร้ายมากกว่าดีเป็นดีมากกว่าร้ายระหว่างวันที่ 21 เมษายน 2562เป็นต้นมาแล้วจะเป็นไปจนถึงวันที่ 21 เมษายน 2563(พฤหัสบดีเป็นศรีจรตามหลักทักษาหนึ่งปี) เกณฑ์นี้เป็นภาพรวม

หากจะเป็นประโยชน์บ้างผู้เขียนพยายามหาเคล็ดลับทางโหรประกอบการบริหารประเทศระยะหนึ่งปี ระหว่าง21เมษายน2562-21 เมษายน 2563 นี้มาฝากคือไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลก็แล้วแต่ หากสามารถปรับปรุงแก้ไขโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง โครงสร้างพื้นฐานของชาติที่มีการลงทุนขนาดใหญ่ระหว่างภาครัฐ-เอกชนภาษี การค้าระหว่างรัฐ ฯลฯ แล้ว มีโอกาสจะนำเมืองไปสู่โชคใหญ่

ทั้งนี้อ้างอิงตำราโหรคือหากปีใดพฤหัสบดีจร (หรือพระเสาร์จรหรือพระราหูจร ดวงดวงใดดวงหนึ่ง) เป็นศรีจรแล้วไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน-ต้องดาวอะไรในดวงชะตาล้วนแต่ให้คุณขนาดใหญ่ระดับมหาสิทธิโชค แต่มีเงื่อนไงที่ว่าต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงชีวิตในเรื่องนั้นๆ เปรียบได้พระสงฆ์เจ้าคณะที่ท่านบวชมานาน ลุกขึ้นปรับปรุงคณะทั้งหมดจนเงินบริจาคไหลมาเทมา ท่านได้เป็นพระราชาคณะตามโฉลก…พฤหัส(-เสาร์-ราหู) ทั้งสามหมู่มาเป็นศรี ต้องลัคน์จันทร์สังฆี ปวัตติสามิอาราม บริบูรณ์ปริขาร ไทยทานก็เหลือหลาม ขึ้นชื่อระบือนาม วรศักดิ์สังขารา แม้นจวบพระเคราะห์ใด ละเว้นไว้แต่ตัวกาล์ กล่าวคุณอุตม์มหา สิทธิ(มหิทธิ)โชคในปางปี …

ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่เริ่มนำร่องเมืองได้มหาสิทธิโชคปีแรกคือระหว่าง21เมษายน2561-21เมษายน2562 เป็นระยะที่พระเสาร์เป็นศรีจรของเมือง ปรากฎว่ามีการลงทุนเปลี่ยนแปลงมากมายในสิ่งที่พระเสาร์เป็นตัวแทนอยู่ เช่นโครงสร้างพื้นฐานของเมืองที่ใหญ่มากคืออีอีซี.-การเกิดของรถไฟฟ้าหลายสาย- รถไฟรางคู่ได้เห็นเปิดใช้ที่แรกที่ขอนแก่น อีกทั้งยังเป็นช่วงปีทองของข้าว-แก้กฎหมายเอื้อให้ประชาชนทำสวนป่าส่วนตัว คือปลูกไม้ใหญ่58ชนิดแล้วตัดได้-มีการนำกัญชามาใช้ในทางการแพทย์ฯลฯ
สำคัญทิ้งทายไว้ให้คือการมีพระราชกฤษฏีกาให้รฟม.สร้างรถไฟฟ้าที่เชียงใหม่-พังงา-ภูเก็ตและนครราชสีมา

2.สำหรับรอบนี้คือลีลาการลงมือทำในสิ่งที่พฤหัสบดีศรีจรเป็นตัวแทนอยู่ที่จะมีผลกับเศรษฐกิจ-ทำมาหาได้ของชาติที่คงต้องออกแรงหนักโดยจับอาการที่จะเป็นคือ

2.1ระยะแรกพยุง คือแม้พฤหัสบดีเริ่มเป็นศรีจรหลังวันเกิดเมืองที่21เมษายน2562มาแล้วแต่เป็นเพราะแรงเหวี่ยงด้านลบทางเศรษฐกิจยังติดลมอยู่จากปรากฎการณ์ที่เกิดมาตั้งแต่ 5 ตุลาคม 2561(พฤหัสบดีจรเดินอยู่ในราศีพิจิก-ภพมรณะดวงเมือง-ไทยกระทบจากสงครามทางเศรษฐกิจและอื่นๆ)อารมณ์ความรู้สึกของคนในเมืองจึงยังไม่ดีขึ้น และเศรษฐกิจโดยรวมก็ยังมีแรงเฉื่อยคือแผ่ว จนต้องมีการทบทวน หรือปรับปรุงแก้ไข(พฤหัสบดีศรีจรเดินถอยหลัง-หมายถึงทบทวนแก้ไข)จนนำมาซึ่งมติครม.เมื่ออังคารที่30เมษายน 2562ออกมาตรการพยุงแศรษฐกิจกลางปี21,830ล้านบาท ผ่านบัตรสวัดิการแห่งรัฐและมาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและธุรกิจ

2.2ระยะของการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงแก้ไขด้านเศรษฐกิจ-ทีมงานเศรษฐกิจขนานใหญ่จะเริ่มตั้งแต่ 25พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไปซึ่งก็สอดคล้องกับการที่จะได้รัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งอันเป็นการสิ้นสุดรัฐบาลจากคสช.(พฤหัสบดีศรีจรเดินถอยหลังหมายถึงต้องทบทวนแก้ไข-ในราศีพิจิกภพมรณะดวงเมืองเล็งพระอังคารดวงเดิม๓ตัวแทนบุคคลเมืองที่ราศีพฤษภคือคณะคนรับผิดชอบด้านเศรษฐกิจและถึงพระศุกร์ดวงเดิม๖ตัวแทนด้านเศรษฐกิจที่สถิตอยู่ราศีมีน)

สำหรับประชาชนทั่วไปที่ประกอบเป็นส่วนสำคัญของเมืองก็น่าจะได้พิจารณาเรื่องการปรับปรุงแก้ไข-พัฒนาตัวเอง-ธุรกิจ-การทำมาหากินด้วยเพื่อให้สอดคล้องกับชะตาเมือง(พฤหัสบดีศรีจรเดินถอยหลังในราศีพิจิกสาดแสงถึงพระจันทร์๒-ประชาชนของเมืองที่สถิตในราศีกรกฎ)

2.3จุดพลิกกลับทางเศรษฐกิจของเมืองน่าจะเป็นประมาณวันที่ 19 สิงหาคม 2562 (ก่อน-หลังประมาณเจ็ดวัน-พฤหัสบดีศรีจรวกกลับเดินหน้าในราศีพิจิก)เช่น

คาดว่าระยะนั้นตัวเลขทางเศรษฐกิจเริ่มพลิกกลับ สถานการณ์ที่เคยออกแนวร้ายมากกว่าดีจะออกมาในแนวดีมากกว่าร้าย ด้านตลาดหุ้นให้จับตาความโดดเด่นจากกลุ่ม-ตัวที่เคยเป็นปัญหาจะพลิกกลับโดยอาจจะมีปรากฎการณ์ประเภทเก็บขยะไว้พลิกกลับกลายเป็นทอง

ส่วนยางพาราที่ผู้เขียนหวังไว้มากเพื่อชาวสวนสถานการณ์จะดีขึ้น -ข้าวจะได้กลางๆ -ข้าวโพดน่าจะมีปัญหาบางอย่าง ขณะเดียวกันจะเริ่มเห็นอาการพลิกกลับของอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นฯลฯ

2.4ตั้งแต่ประมาณ30 ตุลาคม 2562เป็นต้นไป-อย่างต่ำ21เมษายน 2563 เข้าสู่เวลาช่วงทองของการขยายตัวสภาวะเศรษฐกิจของเมืองอีกรอบ เกิดความหวังและคึกคักกันทั่วไปมากกว่าเศร้าซึม(พฤหัสบดีศรีจรเดินอยู่ในราศีธนู-สาดแสงถึงลัคนาและพระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมืองที่สถิตราศีเมษที่เป็นตัวแทนจิตใจคนไทย)
จับตาเป็นช่วงทองของสิ่งที่พระอาทิตย์เป็นตัวแทนอยู่(ได้แสงจากพฤหัสบดี-ศรีจร)เช่นราคาทองคำมีแนวโน้มขึ้นมากกว่าลง -การกิจที่เกี่ยวกับไฟฟ้าหรือโซล่าร์เซล ฯลฯและเป็นระยะที่ค่าของเงินจะเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

แต่ระยะนี้สิ่งควรจะวังคือคนอาจประมาท เก็งกำไรสนั่น(พระราหูจร8ตัวแทนความอยากได้-หรือโลภเดินอยู่ในภพสหัชชะดวงเมืองทำให้กล้าเกินเหตุ-ไม่ควบคุมความอยากได้)จนฝ่ายที่ลงทุนด้วยเหตุผลอาจจะเริ่มหวาดระแวงระวังตัว ซึ่งก็สมควรเพราะปลายปี2563มีเกณฑ์ร้ายทางเศรษฐกิจในเมืองคอยอยู่ (ดังจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป)

สรุป แม้การเมืองจะยังเขย่ากันหนัก(มฤตยูจรทับลัคนา-อาทิตย์ดวงเมือง)แต่เราจะได้เห็นการตีกลับที่เป็นจริงเป็นจังทางเศรษฐกิจด้านดีมากกว่าร้ายตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม 2562 แล้วหลังจาก30ตุลาคม 2562 เป็นต้นไปอาการกระดี๊กระด๊า-ร่าเริงเกินคาดจะมากกว่าซึมเศร้าเซ็ง

(ยังมีต่อ ตอนเมืองจะได้มรดก?)


ฟองสนาน จามรจันทร์
3 พฤษภาคม 2562