ช่างชุ่ย ครีเอทีฟสเปซ จริงจังก็ดี…เดินชิลก็ได้

ช่างชุ่ย ชื่อนี้เป็นข่าวดังมากในช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ช่างชุ่ย คืออะไร มีดีอะไร ทำไมวันเปิดตัวเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วถึงมีคนแห่กันไปมากมายจนรถติดแบบเกินกว่าปกติ ผู้คนบ่นเดือดร้อน เกิดกระแสพูดถึงเต็มโซเชียลมีเดีย

ตามความตั้งใจของผู้ก่อตั้งโครงการ ช่างชุ่ยเป็นพื้นที่ความคิสร้างสรรค์ เป็นพื้นที่พบปะแลกเปลี่ยนโดยเขาได้เปลี่ยนพื้นที่ส่วนตัว 11 ไร่ให้เป็นพื้นที่เปิดต้อนรับสำหรับทุกคน ไม่ว่าอยากจะเข้าไปสร้างสรรค์ จัดกิจกรรม ค้าขาย เที่ยว หรือพักผ่อนหย่อนใจ

ช่างชุ่ยตั้งอยู่ฝั่งธนฯ บนถนนสิรินธร ตรงข้ามโรงพยาบาลหู ตา คอ จมูก บรรยากาศที่เห็นตั้งแต่หน้าโครงการเหมือนร้านรับซื้อของเก่าให้ความรู้สึกดิบ ๆ ตกแต่งโครงซุ้มประตูทางเข้าด้วยบานหน้าต่างกรอบไม้และเหล็กแท่งแบบผิดที่ผิดทาง
ทันทีที่เดินเข้าไปจะเจอแลนด์มาร์กของช่างชุ่ยอยู่ที่เครื่องบินขนาดยาว55 เมตร ซึ่งจะจัดเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์สตัฟฟ์ และร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาว ในส่วนเครื่องบินยังไม่เปิดให้บริการ คาดว่าจะเปิดได้ในเดือนสิงหาคม
ภายในโครงการมีทั้งพื้นที่งานศิลป์ ร้านอาหาร-เครื่องดื่ม ร้านหนังสือ พื้นที่จัดคอนเสิร์ต สวนธรรมชาติ และอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ มีอาคารหลัก 11 อาคาร แบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนทั่วไป และกรีนโซน ทั้ง 2 โซนต่างกันที่สไตล์ของร้าน

โซนทั่วไป มีอาคารใหญ่หลายอาคาร ให้อารมณ์ที่สนุกสนาน กระปรี้กระเปร่าแบบวัยรุ่น มีร้านขายงานอาร์ตเยอะมาก อย่าง อาเหนกป้าสง ที่ส่วนใหญ่เน้นไปที่ของตกแต่งบ้านเก๋ ๆ หรือ ร้านชุ่ยเจริญ ที่ขายทุกอย่างตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ มีแกลเลอรี่โชว์งานศิลป์จากแสงของ LAMP OF GOD และที่ขาดไม่ได้คือ ร้าน FLYNOW ถ้าอยากดื่มกาแฟก็มีคาเฟ่ให้นั่งชิล ใครจะเพิ่มแอลกอฮอล์ในเลือดก็มีบาร์ที่มีงานอาร์ตให้ดูด้วย
ใครอยากตัดผมก็มีร้านตัดผมล้ำยุคหลุดโลกGalaxy Barber by 77th Salon คนชอบดูหนังก็มีโรงฉายหนังสารคดีของ Documentary Club ใครเป็นคอดนตรีฟังสบาย ๆ คงถูกใจ ช่างเชื่อม Live House ที่บอย โกสิยพงษ์ จะมาเล่นดนตรีทุกสัปดาห์ และบางช่วงจะมีศิลปินจากค่ายเลิฟอิสมาเล่นดนตรีให้ฟังสดๆ ด้วย

ส่วนกรีนโซนจะออกแนวเงียบสงบ สโลว์ไลฟ์ให้ความรู้สึกเป็นผู้ใหญ่หน่อยๆ มีร้านอาหารสไตล์อบอุ่นแบบครอบครัว อย่าง ร้านบ้านบ๊วย มีร้านนั่งจิบชาอย่าง The” tea house บรรยากาศร่มรื่นเหมาะแก่การจิบชายามเช้า หรือจะเดินชมนั่งชมธรรมชาติก็มีต้นไม้ให้ชมที่ SKULL CORNER Exotic Garden ใครชอบอ่านหนังสือก็มีร้านหนังสือ หย่อนญาน Book Cafe บรรยากาศสบาย ๆ มีร้านกาแฟอยู่ด้านในกลิ่นกาแฟฟุ้งทั่วห้อง

เห็นความหลากหลายภายในนั้นแล้วช่างสอดคล้องกับความคาดหวังตั้งใจของ”สมชัย ส่งวัฒนา” เจ้าของแบรนด์ FLYNOW ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการช่างชุ่ย ที่บอกว่าพยายามทำหลายเรื่อง คาดหวังอยากให้ช่างชุ่ยเป็นอะไรหลาย ๆ อย่าง ใจความสำคัญคือเป็นพื้นที่ที่มีประโยชน์ในอนาคต
“พยายามทำหลายเรื่อง ทั้งเรื่องพื้นที่สร้างสรรค์ เรื่องของเก่าสู่ใหม่ เรื่องพื้นที่แห่งการพูดคุยแลกเปลี่ยน เป็นโอเอซิสของสังคม เป็นการครอสของผู้มีปัญญา มันเป็นเกือบทุกอย่าง อยากนำเสนอคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ให้คนกลับไปแล้วมีปัญญา ฉะนั้น ที่นี่มันต้องเดินทางไปตลอดเวลาไม่มีวันหยุด หวังว่าในอนาคต เด็กรุ่นใหม่จะต้องได้รับสิ่งที่ดี ให้ช่างชุ่ยเป็น Thailand Tomorrow”


กว่าที่ช่างชุ่ยจะเกิดขึ้นมาเป็นที่ฮือฮาในวันนี้ สมชัยสั่งสมความคิดมากมายในหัวมานานหลายปี ก่อนจะคิดตกผลึกได้ว่าจะทำอะไร

สมชัยเล่าว่า ช่างชุ่ยได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางไปต่างประเทศ เห็นข้อดีข้อด้อยของแต่ละประเทศ เห็นปรากฏการณ์โลกตะวันตกที่น่าสนใจในหลายประเทศ เช่น เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ ที่เริ่มสนใจการสร้างเมืองตามแบบธรรมชาติ ขณะที่หันกลับมามองบ้านเรากำลังทำลายธรรมชาติเพื่อสร้างเมือง

“จากความคิดนานาประการ นำไปสู่ความคิด 2 เรื่องใหญ่ ๆ คือ เรื่องคนกับเรื่องธรรมชาติ ถ้ามนุษย์ไม่เข้าใจเพื่อนร่วมโลก เราก็ไม่มีความสุข และถ้าคุณทำลายธรรมชาติมาก ๆ ธรรมชาติก็ย้อนกลับมาทำลายคุณ ดังนั้น ต้องคิดว่าเพื่อนร่วมโลกเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราที่ต้องดูแล และเมื่ออายุมากขึ้นเราต้องสนใจมีส่วนร่วมในการให้เท่าที่กำลังของเราจะให้ได้ แนวความคิดตรงนั้นจึงนำมาสู่การสร้างช่างชุ่ย โดยคิดว่าจะแบ่งปันพื้นที่ที่มีอยู่เพื่อให้คนที่เข้ามาได้มีโอกาสสร้างสรรค์สิ่งที่ดี”


การเปิดโครงการอันเป็นที่ฮือฮาเป็นเพียงก้าวแรกของช่างชุ่ยเท่านั้น เพราะหลังจากนี้สมชัยบอกว่าจะมีกิจกรรมมีอีเวนต์ต่าง ๆ เกิดขึ้นตลอดตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ โดยเปิดต้อนรับทุกคนไม่จำกัดเพศวัย