ย้อนประวัติศาสตร์จีน-ไทยสมัยกรุงธน บน “เรือสำเภาศรีมหาสมุทร” พิพิธภัณฑ์ลอยน้ำแห่งแรกในไทย

วันที่ 5 ธันวาคม 2561 - 16:32 น.

ความยิ่งใหญ่ของไอคอนสยาม นอกจากการครองความเป็น “ที่สุด” และ “ที่แรก” ในหลาย ๆ ด้านแล้ว ไฮไลต์ล่าสุดที่ไอคอนสยามเปิดตัวไปก็คือพิพิธภัณฑ์เรือลอยน้ำแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็น “1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งไอคอนสยาม” ที่ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้

ในช่วง 2 เดือนแรกของการเปิดพิพิธภัณฑ์เรือสำเภาศรีมหาสมุทรนี้ ได้จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในวาระครบรอบ 250 ปีแห่งการสถาปนากรุงธนบุรี

พิพิธภัณฑ์ลอยน้ำแห่งนี้มีชื่อว่า “เรือสำเภาศรีมหาสมุทร” มีต้นแบบมาจากเรือสำเภาอั้ง เถ้า จุ้ง หรือเรือสำเภาหัวแดง ซึ่งเป็นเรือของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่เข้ามาทำการค้าขายกับชาวสยาม

นิทรรศการที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เรือเน้นไปทีประวัติศาสตร์การค้าขายระหว่างชาวสยามกับชาวจีนในสมัยกรุงธนบุรี ในยุคนั้นสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการทำการค้าและเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศจีน จึงพยายามส่งพระราชสาสน์ไปถึงจีน 4 ครั้ง และสำเร็จในครั้งที่ 4 เกิดเป็นตราโลโตที่ใช้ในการค้าขายกับจีน

ภายในตัวเรือแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 ห้องกัปตัน จัดแสดงเกี่ยวกับเรื่องราวการค้าทางเรือ การย้ายราชธานี และการวางรากฐานให้กรุงธนบุรีในฐานะเมืองท่าการค้า โดยโซนนี้จะมีการเปิดวีดิทัศน์แสดงถึงเรื่องราววิถีชีวิตของชาวจีนที่เข้ามาทำการค้ากับกรุงธนบุรี

โซนที่ 2 ห้องพักลูกเรือ หลังนำเสนอวีดิทัศน์จบ ประตูที่ถูกซ่อนไว้อย่างแยบยลค่อย ๆ เปิดออกพร้อมบันไดที่จะพาเราลงไปใต้ท้องเรือ เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์กันอย่างเข้มข้นมากขึ้น ชั้นใต้ท้องเรือที่ว่ามีการจำลองบรรยากาศและวิถีชีวิตของลูกเรือในยุคนั้น ทั้งข้าวของ เครื่องใช้รูปปั้นเสมือนชาวจีนในอิริยาบถที่หลากหลาย รวมถึงหนังเงาแสดงบทบาทสมมุติของชาวจีนภายในเรือที่มีการพูดคุยโต้ตอบกัน ทำให้ผู้มาเยือนพิพิธภัณฑ์ได้ซึมซับบรรยากาศที่สมจริงยิ่งขึ้น

โซนที่ 3 คลังอารยธรรม จัดแสดงพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจในการฟื้นฟูบ้านเมืองของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ลำดับเวลาการสงครามเพื่อรวบรวมบ้านเมือง การเจริญสัมพันธไมตรีทางการค้า และการทูตระหว่างกรุงธนบุรีกับจีนผ่านการเปิดวีดิทัศน์ มีการจำลองสินค้าส่งออกและสินค้านำเข้าระหว่างไทย-จีนหลายอย่าง อาทิ เครื่องเทศหอมแดง ไม้ฝาง น้ำหอม ปืนคาบศิลา ผ้าขนสัตว์ ผ้าอินเดีย ชาจีน ผ้าไหมจีน รวมถึงสินค้าส่งออกสำคัญอย่างแร่ดีบุกที่นำไปสู่การทำเครื่องประดับและหล่อพระพุทธรูปสำริดจากดีบุกและทองแดง หรือเขาสัตว์ทั้งงาช้าง นอแรด และเขากวาง

นอกจากนี้ภายในโซนที่ 3 ยังมีกิจกรรมให้ผู้เข้าชมนิทรรศการมีส่วนร่วมเพื่อสร้างประสบการณ์สุดประทับใจ อย่างการทดลองชักรอกลังสินค้า การโยกหางเสือ มุมถ่ายภาพย้อนอดีตด้วยเครื่องแต่งกายของคนชาติต่าง ๆ ในยุคนั้นด้วยเทคนิค Kinect และจอแอลซีดีอินเตอร์แอ็กทีฟ ซึ่งรองรับผู้เข้าชมต่างชาติด้วยการให้เปลี่ยนภาษาได้ 3 ภาษา ทั้งไทย อังกฤษ และจีน