Nespresso ตัวช่วยให้ทุกคนเป็นบาริสต้าได้ที่บ้าน

กาแฟเป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของคนมากมายทั่วโลก ท่ามกลางรูปแบบ วิธี และนวัตกรรมการชงกาแฟที่หลากหลาย เนสเพรสโซ (Nespresso) บริษัทผู้ผลิตกาแฟแคปซูลและเครื่องชงกาแฟแคปซูลจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ย่อขั้นตอนการเป็นบาริสต้ามาไว้ในเครื่องชงกาแฟรุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์คอกาแฟเป็นอย่างดี

ทีมงาน “ดีไลฟ์-ประชาชาติธุรกิจ” ได้ลองสัมผัสประสบการณ์การทำลาเต้อาร์ตง่าย ๆ ด้วยเครื่องชงกาแฟ ครีเอทิสต้า พลัส (Creatista Plus) ที่ Nespresso เพิ่งเปิดตัวใหม่ ต้องบอกว่าการเป็นบาริสต้าไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะเครื่องทำกาแฟตัวนี้ช่วยขจัดความยุ่งยากออกไป ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถเป็นบาริสต้าประจำบ้านได้

วิธีง่าย ๆ ในการทำลาเต้อาร์ต เริ่มจากนำแคปซูลกาแฟใส่ในเครื่อง พอได้กาแฟออกมาแล้วเติมนมลงไปในเหยือก แล้วนำไปวางไว้ในตำแหน่งของเซ็นเซอร์อุณหภูมิ แล้วเลือกว่าต้องการกาแฟแบบไหน เครื่องจะทำให้นมมีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยอัตโนมัติจนถึงระดับอุณหภูมิที่เหมาะสม ต่อมาก้านปล่อยไอน้ำจะทำให้นมเป็นฟอง เพียงแค่นี้ก็จะได้กาแฟพร้อมสัมผัสฟองนมนุ่ม ๆ แล้ว

หลังจากสกัดกาแฟ และตีฟองนมจนขึ้นฟูแล้วจับแก้วกาแฟโดยช้อนตูดแก้วให้แก้วอยู่ภายในอุ้งมือ จับให้มั่นคง จากนั้นรินนมลงไปในแก้วกาแฟประมาณ 1 ส่วน 4 ของแก้ว จากนั้นขั้นตอนการทำฟองนม ให้กดปากเหยือกนมลงมาให้ใกล้ปากแก้ว แล้วเทให้แรงขึ้นโดยเอียงแก้วนิดหน่อย เพื่อให้กาแฟกับนมสัมผัสกันแล้วขึ้นรูป หลังจากได้ลายที่ต้องการแล้วให้เอียงแก้วคืนตรง พร้อมยกปากเหยือกนมขึ้นสูง เพื่อเป็นการตัดให้เกิดลวดลาย

เมื่อมีตัวช่วย การรังสรรค์กาแฟแก้วโปรดจึงเป็นเรื่องง่าย แต่ก็มีข้อจำกัดคือ เครื่องชงทุกตัวของ Nespresso ต้องใช้คู่กับกาแฟแคปซูลของ Nespresso เท่านั้น ซึ่ง Nespresso ก็ได้สรรหาเมล็ดกาแฟจากแหล่งปลูกกาแฟทั่วโลกมาให้เลือกมากมายสารพัดสูตร

ในงาน Nespresso Milky World ที่จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้เปิดตัวกาแฟ 3 รสชาติใหม่ที่เหมาะกับความนิยมในการดื่มกาแฟของบ้านเรา เป็นกาแฟที่ออกแบบมาพิเศษสำหรับสร้างสรรค์เมนูกาแฟนม ซึ่งในเรื่องกลิ่นและรสชาตินั้นมีตั้งแต่เข้มน้อยหอมนมไปจนถึงรสเข้มสุด

ตัวแรกชื่อว่า Chiaro มีความหมายว่าแสงสว่าง ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบาริสต้าในเมืองบรูคลิน สหรัฐอเมริกา เลือกใช้เมล็ดกาแฟจากเคนยาและอินโดนีเซีย รสชาติตัวนี้หวานละมุน ได้รสคาปูชิโน่ที่มีกลิ่นอ่อน ๆ ของคาราเมลและบิสกิต เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้ดื่มกาแฟรสเข้มมาก หรือใครที่ไม่ใช่คอกาแฟจ๋า ๆ ก็สามารถดื่มตัวนี้ได้สบาย ๆ

ถัดมาที่ Scuro แปลว่าความมืด ได้รับแรงบันดาลใจจากบาริสต้าในกรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ใช้เมล็ดกาแฟอราบิก้าจากโคลอมเบียและเอธิโอเปีย ตัวนี้ความเข้มเพิ่มขึ้นมาจาก Chiaro อีกระดับ กินคู่กับนมจะได้กลิ่นคั่วกาแฟที่หอม เป็นคาปูชิโน่ที่เข้มข้นขึ้น มีกลิ่นของคาราเมลชัดกว่าตัว Chiaro

ตัวสุดท้าย Corto แปลว่าเล็ก ใช้อธิบายถึงการดื่มกาแฟชอตเล็กแบบเอสเพรซโซ

ตัวนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากบาริสต้าชาวสเปน ใช้กาแฟที่ผสมผสานอราบิก้าและกาแฟโรบัสต้าจากแอฟริกาเข้าด้วยกัน Corto จึงเป็นรสชาติที่เข้มที่สุด เมื่อเติมนมเข้าไปเพิ่มจะได้เมนูกาแฟที่มีชื่อว่า กอร์ตาโด (Cortado) ซึ่งเป็นเมนูกาแฟท้องถิ่นที่มีรสเข้มหอมนมจากประเทศสเปน