ปรับภาพลักษณ์เพื่อความสำเร็จ อยากถึงเป้าหมาย คุณออกแบบได้

ถึงแม้ว่าการมองคนให้ลึกซึ้งลงไปภายในจิตใจ-ไม่ตัดสินคนที่ภายนอก เป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในสังคมเราภาพลักษณ์ภายนอก การแต่งกาย เป็นองค์ประกอบอย่างแรกและองค์ประกอบที่สำคัญที่ผู้คนจะตัดสินว่าเราเป็นคนอย่างไร จะประทับใจในตัวเราหรือไม่ ก่อนที่จะมองมาที่ผลงานหรือความคิด ดังนั้น “บุคลิกภาพ” และ “ภาพลักษณ์” จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก และเป็นหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในเส้นทางความสำเร็จของคนเรา

ในเมืองไทยถ้าพูดถึงเรื่องการดูแลพัฒนาภาพลักษณ์ กูรูที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ก็คือ เอ๋-อภัยลักษณ์ ตันตระบัณฑิตย์ หรือ “อาจารย์เอ๋ แห่ง The New You” ที่ปรึกษาภาพลักษณ์ (image consultant) ชื่อดังที่เป็นที่ผ่านการรับรองจากอาจารย์ด้านบุคลิกภาพและภาพลักษณ์ 3 คน จาก 8 คนที่ดีที่สุดของโลก ปัจจุบันเธอเป็นที่ปรึกษาให้กับบุคคลทุกระดับไล่ไปตั้งแต่ผู้บริหารจนถึงระดับปฏิบัติการในองค์กรมหาชนชื่อดัง และธนาคารทุกแบรนด์ทั่วประเทศ รวมทั้งได้รับเชิญให้เป็นที่ปรึกษาในต่างประเทศด้วย

ความสำคัญของ “ภาพลักษณ์” นั้นสำคัญมากขนาดไหน กูรูด้านภาพลักษณ์อย่างอาจารย์เอ๋ บอกว่า ภาพลักษณ์เป็นด่านแรกที่จะนำไปสู่ความประทับใจ ดึงดูดผู้คนให้สนใจมองที่ภายในและความสามารถของคนนั้น ๆ

“ภาพลักษณ์เป็นเหมือนห้องแสดงสินค้า เวลาที่เราไปพบเจอผู้คนเขาจะตัดสินจากสิ่งที่เห็นก่อน คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าให้มาดูการกระทำ มาดูผลงานของฉันก่อนแล้วคุณจะมองข้ามภาพลักษณ์ของฉันไปได้ แต่จริง ๆ แล้วคนเรามักจะตัดสินกันไปแล้วก่อนที่จะได้รู้จักกันเสียอีก เพราะฉะนั้น ภาพลักษณ์ที่จะนำพาไปสู่ความประทับใจแรกพบจึงเป็นเรื่องสำคัญ เป็นประตูด่านแรกที่จะดึงดูดผู้คนให้เข้ามาเห็นผลงานของเรา ภาพลักษณ์จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเราปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าโลกใบนี้ยังเป็นโลกของการถูกตัดสิน เราอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของการถูกตัดสินจากผู้คนรอบตัว”

ในมุมมองของอาจารย์เอ๋ เธอมองว่า ภาพลักษณ์ไม่ใช่แค่เรื่องภายนอกอย่างเดียว แต่ภาพลักษณ์คือภาพที่สะท้อนออกมาจากภายใน เธออธิบายเพิ่มเติมถึงความสัมพันธ์ระหว่างภาพลักษณ์และความคิด-ทัศนคติของคนเราว่า คนเราแต่งกายออกมาจากบ้านอย่างไร ก็จะมีทัศนคติต่อตนเองแบบนั้น

เธอยกตัวอย่างว่า ตอนที่เธอยังเด็กมักจะมีคนล้อว่าตัวดำบ้าง ขาใหญ่บ้าง ทำให้เธอไม่ชอบตัวเองไปด้วย จิตใต้สำนึกก็เลยบอกว่า อย่าให้ใครเห็นส่วนที่เป็นปมด้อย ช่วงวัยรุ่นจนถึงเรียนมหาวิทยาลัยเธอจึงแต่งตัวปกปิดร่างกายหมดเลย ซึ่งเธอบอกว่าความคิดแบบนั้นทำให้รู้สึกไม่มีค่าและบดบังเป้าหมายของตัวเอง แต่วันหนึ่งเธอมีโอกาสได้ไปร่วมคอร์สเกี่ยวกับจิตใต้สำนึก คอร์สนั้นเปลี่ยนชีวิตของเธอ ทำให้รู้ความต้องการที่แท้จริงภายใน เมื่อคนเราเกิดการเปลี่ยนแปลงภายในก็จะมีทัศนคติต่อตัวเองที่ดีขึ้น ส่งผลต่อภาพลักษณ์การแต่งตัวไปโดยปริยาย ซึ่งคอร์สนั้นก็นับว่าเป็นแรงบันดาลใจของคอร์ส Empower Me ที่เธอเปิดสอนมาจนถึงทุกวันนี้

“คนแต่งตัวออกมาจากบ้านแบบไหน เป็นเพราะว่าเขามองตัวเองแบบนั้น อย่างคนทำบัญชีก็แต่งตัวออกมาแบบคนทำบัญชี เพราะว่าฉันทำบัญชีไง คนที่เป็น help desk นั่งอยู่หลังคอมฯตลอดเวลา ก็แต่งออกมาจากบ้านแบบนั้น ถ้าลองได้ออกไปข้างนอก ไปเจอคนสิ จะไม่มีวันแต่งตัวแบบนั้น ถูกไหมคะ เพราะฉะนั้น มันมาจาก mindset ว่า เราคือ someone หรือเราคือ anybody เราคือคนสำคัญ หรือเราคือมนุษย์ค่าเฉลี่ย พอได้เป็น image consultant มันได้ตอบคำถามหลาย ๆ อย่างในชีวิตของเราว่า ทำไมเราทำตัวแบบนั้น”

เธอยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนเพิ่มขึ้นอีกว่า “ทำไมพนักงาน ทำไมสตาฟ ไม่เคยแต่งตัวเหมือนผู้บริหาร เพราะไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นผู้บริหารไง แต่วันหนึ่งพนักงานทั่วไปได้เลื่อนขั้นมาเป็นผู้บริหาร ก็จะแต่งตัวแบบผู้บริหาร มันมาจาก mind-set จริง ๆ นะ เราจะสังเกตว่าคนที่ประสบความสำเร็จแล้ว เขาจะแต่งตัวมีเอกลักษณ์ ไม่มีใครมีภาพลักษณ์ที่สับสน คนที่มีภาพลักษณ์สับสน เพราะเขายังสับสนในชีวิตอยู่ ถูกไหมคะ หลายคนแต่งตัวซ้ำ ๆ แต่เขาคิดมาแล้ว อย่างสตีฟ จ็อบส์ หรือว่ามาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เพราะฉะนั้น เราจะเป็นใครบนโลกใบนี้ เราต้องดีไซน์นะ ถ้าเราออกจากบ้านมาแบบไม่ใส่ใจตัวเอง เราก็ได้คนไม่ใส่ใจตัวเองมาอยู่รอบตัวเรา ชีวิตมันเป็นแบบนี้”

ดังนั้น ในคอร์สที่เธอสอนถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับภาพลักษณ์ แต่แกนหลักที่สำคัญ คือ การให้ผู้เรียนมองให้เห็นถึงทัศนคติและความรู้สึกจากภายใน และสอนให้ผู้เรียนตกหลุมรักตัวเอง เพราะเมื่อคนคนหนึ่งรักและเคารพตัวเอง เขาก็จะเห็นคุณค่าในตัวเองและมุ่งไปสู่เป้าหมายในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เราอยากให้เสียงของเราเป็นแรงบันดาลใจและเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนได้ เราอยากเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของทุกคน เพราะตอนเด็ก ๆ เราไม่เคยมีเป้าหมายในชีวิต เราไม่เคยมีโค้ช ไม่เคยมีใครมาสอน เรารู้ว่าการไม่มีเป้าหมายในชีวิตมันเสียเวลา ถ้าวันนี้ชีวิตมีทางที่ไปได้เร็วกว่านั้น เราอยากเป็นสะพานที่ทำให้คนไปได้เร็วขึ้น”

ทุกวันนี้ งานหลักของเธอคือการเป็นวิทยากรให้องค์กรระดับมหาชน ซึ่งมีทั้งระดับผู้บริหาร ระดับผู้บริหารจัดการ ระดับเตรียมเป็นผู้บริหาร และระดับปฏิบัติการ นอกจากนั้น เธอยังได้รับเชิญให้ไปสอนการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ที่ต่างประเทศด้วย แต่เนื่องด้วยเธอเล็งเห็นความสำคัญของการช่วยผู้คนไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น อย่างที่เธอกล่าวไปแล้ว เธอจึงเปิดคอร์สสำหรับบุคคลทั่วไปด้วย ซึ่งหนึ่งปีจะมีเพียงไม่กี่ครั้ง โดยคอร์สสำหรับบุคคลทั่วไปที่กำลังจะเปิดสอนในเร็ว ๆ นี้ มี 2 คอร์ส ได้แก่ คอร์ส The New You ที่มุ่งเน้นไปที่การดูแลภาพลักษณ์ เปิดสอนวันที่ 23-24 พฤศจิกายน 2562 และคอร์ส Presentation Mastery ที่จะเน้นด้านการสื่อสาร ซึ่งจะเปิดสอนในวันที่ 14-15 ธันวาคม 2562

สำหรับใครที่สนใจใช้เวลา 2 วัน เพื่อเปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่มีภาพลักษณ์ดีกว่าเดิม รักตัวเองมากกว่าเดิม ประสบความสำเร็จมากกว่าเดิม ก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ทาง www.facebook.com/Apailucktan หรือไลน์ @apailucktan