ชมสัตว์น้ำกว่าหมื่นชีวิต ณ Sea Life Bangkok อะควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในไทย

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หรืออะควาเรียม เป็นหนึ่งในสถานที่แห่งการเรียนรู้สัตว์ทะเลนานาชนิดที่สำคัญ และสะดวกต่อการศึกษาเรียนรู้ แม้มีเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถชมและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์นานาชนิดได้ในที่เดียว ถ้าเทียบกับการไปดำน้ำทะเลจริง ๆ อันนั้นอาจจะสนุกและเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายกว่า แต่ก็ใช่ว่าเราจะได้เห็นสัตว์เหล่านี้มารวมกันอยู่ในที่เดียว


หนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่เดินทางสะดวกที่สุด และเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน แต่เดิมอะควาเรียมนี้ชื่อว่า “สยาม โอเชียน เวิลด์” (Siam Ocean World) เปิดให้บริการพร้อมกับการเปิดสยามพารากอน เมื่อปี 2004 ก่อนจะถูกซื้อกิจการโดย บริษัท เมอร์ลิน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ส จำกัด และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “ซีไลฟ์ แบงคอก โอเชียน เวิลด์” (Sea Life Bangkok Ocean World) ตามแบรนด์ “ซีไลฟ์” ของเมอร์ลิน ซึ่งเป็นแบรนด์อะควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสาขาทั่วโลกกว่า 40 แห่ง

นพดล ประพิมพ์พันธ์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจกรุงเทพ บริษัท เมอร์ลิน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ส จำกัด และผู้บริหารแบรนด์ซีไลฟ์ แบงคอก ให้ข้อมูลว่า ด้วยขนาดเดิมที่สยาม โอเชียน เวิลด์ สร้างไว้เป็นแท็งก์ความจุ 3,000,000 ลิตร ทำให้ซีไลฟ์ แบงคอก มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของซีไลฟ์ทั่วโลก และมีสัตว์น้ำอยู่กว่า 12,000 ชีวิต

หลังจากที่เมอร์ลินฯเข้ามาก็ได้ปรับปรุงอะควาเรียมแห่งนี้ให้เป็นไปตามมาตรฐานของแบรนด์ซีไลฟ์ ซึ่งสิ่งที่เมอร์ลินฯให้ความสำคัญ คือ ประสบการณ์ของลูกค้า ไม่ว่าลูกค้าเข้าชมซีไลฟ์ที่สาขาไหนก็จะต้องรู้สึกได้ถึงมาตรฐานเดียวกัน อย่างเช่น แสงไฟ เสียงเพลง แต่ถึงอย่างนั้น แต่ละแห่งก็ยังคงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่ อย่างเช่น กรุงเทพฯ ก็จะโดดเด่นเรื่องความหลากหลายของปลาเขตร้อน

ซีไลฟ์ แบงคอก เพิ่งฉลองครบรอบ 15 ปี ไปหมาด ๆ ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมานี่เอง ในโอกาสนี้ “ดีไลฟ์-ประชาชาติธุรกิจ” จึงขอพาไปดูกันว่า มีอะไรน่าสนใจอยู่ภายในแท็งก์ความจุ 3,000,000 ลิตรนี้บ้าง

ซีไลฟ์ แบงคอก แบ่งเป็น 2 ชั้น คือ ชั้นบนตั้งอยู่ที่ชั้นB1 ของศูนย์การค้าสยามพารากอน และชั้นล่างลงไปอีกหนึ่งชั้น เมื่อผ่านจุดตรวจบัตรเข้าไปเราจะพบกับโซนแรก “โพรงหินอำพราง” มีไฮไลต์ที่ดึงดูดตาเรา คือ “ปูแมงมุมยักษ์”
ปูชนิดนี้ถึงแม้ว่าขาจะขาดไปก็สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้หลังการลอกคราบ สัตว์อีกชนิดที่เป็นไฮไลต์ของบริเวณนี้ คือ “หมึกยักษ์” เป็นสัตว์ใต้ทะเลลึกไม่มีกระดูกสันหลังที่มีความฉลาดขั้นสูง สามารถเปลี่ยนสี เปลี่ยนรูปทรง หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนผิวสัมผัสของตัวเองเพื่อกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมได้

เดินพ้นเข้ามาด้านซ้ายจะเป็นห้อง “ภารกิจใกล้ชิดฉลาม” ให้เราได้เห็นฉลามสายพันธุ์ต่าง ๆ ใต้ฝ่าเท้าของเราเองฝั่งตรงข้ามเป็นระเบียงมองเห็นลงไปถึงชั้นใต้ดิน 2 เป็นจุด “Mini Theatre” สำหรับการแสดงให้อาหารปลา

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจเมื่อเดินลึกเข้าไปจะเป็นห้องพิเศษสำหรับ “นั่งเรือท้องกระจก” (จ่ายเพิ่ม 350 บาท/ท่าน) โดยจะมีเจ้าหน้าที่นำล่องเรือพร้อมบรรยายข้อมูลที่น่าสนใจของสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ บริเวณเหนืออุโมงค์ใต้ทะเล

มาถึงโซน “แนวปะการัง” ที่มีปลาสวยงามอย่าง “ปลาการ์ตูน” และ “ปลาขี้ตังเบ็ดฟ้า” และโซน “อาณาจักรม้าน้ำ” ที่รวมม้าน้ำหลากสายพันธุ์ที่หาดูยาก

โซนสุดท้าย ก่อนที่เราจะวนลงไปชั้นใต้ดิน 2 คือ โซน “ป่าดิบชื้น” ความพิเศษของโซนนี้คือจะฉีกออกมาจากความเป็นโลกใต้ทะเล เข้าไปสู่โลกป่าดงดิบ ที่เราจะได้พบกับเหล่าสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่หาดูยาก รวมถึงเป็นโซนที่รวบรวมปลาน้ำจืดทั้งหมดในซีไลฟ์เอาไว้ ไฮไลต์ที่ดึงดูดตาอยู่ที่ส่วนสุดท้าย คือ ความน่ารักน่าเอ็นดูของ “นากเล็กเล็บสั้น”

เมื่อหลุดจากภวังค์ความน่ารักของนากเล็กเล็บสั้นมาได้ เราจะพบกับโซน “แอ่งหิน” มีสัตว์ทะเลที่น่าสนใจอย่าง “ปลาดาว” และ “ปลิงทะเล” ที่ผู้เข้าชมสามารถสัมผัสกับสัตว์ทั้ง 2 ชนิดนี้ได้ด้วยมือเปล่า

ลึกเข้าไป เราจะได้พบกับ “แพนกวินแจ็กแอส” และโซน “มหาสมุทรเขตร้อน” ที่จะมีปลาที่หาดูได้ยากอย่าง “ปลานโปเลียน” และ “ปลาไหลมอเรย์”

ถัดมา เราจะได้ตื่นตาไปกับ “อุโมงค์ใต้ทะเล” เป็นอุโมงค์อะควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เราจะเห็นสรรพสัตว์ภายในแท็งก์ ทั้งฉลาม ปลากระเบน ฯลฯ ราวกับได้อยู่ใต้ท้องทะเลกับพวกมัน

ถัดจากอุโมงค์จะเป็นโซนที่ชื่อว่า “ฉลามกับซากเรือ” เป็น Mini Theatre มีที่นั่งสำหรับฟังบรรยายขณะแสดงการให้อาหารปลา

สุดท้ายเป็นโซน “เพนกวินสุขสันต์ มหัศจรรย์โลกน้ำแข็ง” ในบริเวณจะมุมต่าง ๆ ให้เด็ก ๆ เล่นสนุก เป็นเหมือนสนามเด็กเล่นขนาดย่อม ปิดท้ายด้วยฝูง “เพนกวินเจนทู” ที่น่ารักไม่แพ้เพนกวินแจ็กแอส เป็นโซนที่สามารถขึ้นบันไดเลื่อนกลับไปยังชั้นใต้ดิน 1 เพื่อเข้าสู่โซนขายของที่ระลึก และออกไปสู่โถงรับรองอีกครั้ง

แม้จะผ่านช่วงโปรโมชั่นฉลองครบรอบ 15 ปีมาแล้ว แต่ในช่วงต้นปี 2563 ซีไลฟ์ยังได้เตรียมโปรโมชั่นพิเศษ “Magic Jungle Adventure” ที่จะพาตะลุยป่าดิบชื้น อันเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ที่มีแคแร็กเตอร์พิเศษ เช่น บรรดาสัตว์เลื้อยคลาน และปลาน้ำจืดหายากนานาชนิด หากใครสนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sealifebangkok.com