“แอร์ฯ การบินไทย” ถอดสไบผันตัวขับรถส่งของ หาเงินเลี้ยงลูกช่วงโควิด

“แอร์โฮสเตส” เป็นหนึ่งอาชีพที่ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้สายการบินหยุดบินชั่วคราว เหมือนเป็นการปิดเทอมครั้งใหญ่ของสายการบินเลยก็ว่าได้

“ปริมรัศมี อัศวนภาวัลย์” หรือ “ปริม”  อายุ 44 ปี แอร์โฮสเตสการบินไทย ซึ่งยึดอาชีพแอร์โฮสเตสมานาน 20 ปี เผยว่า ปกติอาชีพแอร์โฮสเตสมีรายได้ 2 ส่วน คือ เงินเดือนกับเบี้ยเลี้ยงต่อไฟลต์ ซึ่งเบี้ยเลี้ยงจะเป็นรายได้ก้อนใหญ่กว่าเงินเดือน เมื่อหยุดบิน เงินส่วนที่เป็นเบี้ยเลี้ยงจึงหายไป ส่วนเงินเดือนถูกลดลงมาประมาณ 25-30% ถือว่าลดไปเยอะมาก

“พนักงานแต่ละคนมีภาระของตัวเอง หรือพนักงานที่เข้าใหม่เพิ่งวางรากฐานชีวิต ซื้อบ้าน ซื้อรถ จะลำบากมาก ๆ สำหรับดิฉันหยุดบินมาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม จึงตัดสินใจนำรถอีโคคาร์มาขับรถส่งของกับแอปพลิเคชั่นส่งของ Deliveree”

“ปริมรัศมี” เผยว่า รู้จักแอปฯ นี้ ครั้งแรก ตอนลงทะเบียนกับ ซีพี เฟรชมาร์ท ในโครงการส่งอาหารให้คนที่กลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ซึ่งทางซีพีจะส่งอาหารให้ประมาณ 14 วัน โดยคนที่มาส่งคือคนขับรถจากแอปฯ Deliveree

“เป็นครั้งแรกที่ทำให้รู้จักว่ามีบริการส่งของแอปฯ นี้ รถที่ใช้คือรถบ้านธรรมดา คนขับไม่ได้มีแบบฟอร์ม และรู้สึกดีมากที่มีคนขับรถมาส่งอาหาร รู้สึกว่าเป็นกำลังใจให้เราได้ในช่วงกักตัว เลยอยากลองทำบ้าง เพราะเหมือนเป็นการให้กำลังใจคน”

ระหว่างกักตัว “ปริมรัศมี” กดสมัคร แอปฯ Deliveree โดยไม่เสียค่าสมัคร จากนั้นไม่นานจึงมีข้อความแจ้งให้ไปอบรม

“ด้วยความที่กักตัวอยู่เลยยังไปอบรมไม่ได้ ถ้าออกไปกลัวจะเป็นปัญหา พอครบกำหนดแล้วถึงได้ไปอบรมเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ วินัยการทำงาน ขั้นตอนการรับงาน การแต่งตัว ผู้สมัครจะต้องเสียค่าตรวจประวัติอาชญากรรม 100 บาท แต่ถ้ามีใบขับขี่รถสาธารณะจะมีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเงิน 100 บาท เมื่ออบรมเสร็จก็สามารถขับรถได้เลย ด้วยการใช้รถส่วนตัว ซึ่งต้องไม่เก่ากว่าปี 2000”

โดยรายได้จากการขับรถส่งของนี้ “ปริมรัศมี” เผยว่า นำมาใช้จ่ายเป็นค่าเรียนพิเศษของลูก

“จริง ๆ พอมีเงินเก็บ แต่มีเฉพาะในส่วนของค่าเทอม ถ้าเราอยากให้ลูกได้เรียนพิเศษก็ควรหารายได้เสริม ไม่อยากนั่งเสียเวลาไปวัน ๆ หาอาชีพเสริมทำดีกว่า แล้วแต่ความถนัด อย่างเพื่อนบางคนทำอาหารขาย ตัวเราเองพอทำได้ แต่ไม่ถึงขนาดทำขาย อาชีพขับรถส่งของมีคนทำเยอะจริง แต่เป็นเพราะเราชอบขับรถ ได้บริการไปในตัวและสนุก”

“ปริมรัศมี” เล่าอีกว่า ของที่ขับรถส่งส่วนใหญ่จะเป็นของ ซีพี เฟรชมาร์ท กล่องบรรจุอาหาร จาน ชาม กระดาษ ของเอสซีจี และยังมีส่งเค้ก ลูกโป่ง ต้นไม้ ฯลฯ เท่าที่สังเกตของที่ไปส่งจะเป็นของที่ไม่หนัก แต่ต้องอาศัยการดูแลระหว่างทาง และความชำนาญในการขับรถ บางพื้นที่เราไม่คุ้น ต้องดูแผนที่ไปด้วย ถือว่าช่วยเปิดโลกทัศน์เหมือนกัน

เมื่อให้เปรียบเทียบระหว่าง 2 อาชีพ แอร์ฯ การบินไทย บอกว่า แอร์โฮสเตสเหนื่อยมากกว่ากว่าขับรถส่งของ

“เป็นแอร์ฯ ปัญหาใหญ่ ๆ คือเรื่องการนอน แต่สามารถแลกตารางบินได้ อีกเรื่องคือต้องจากบ้านไปนาน ๆ แต่รายได้ดีกว่า ส่วนรายได้อาชีพเสริมนี้ไม่มาก พอได้ค่าเรียนพิเศษลูก รายได้ขึ้นอยู่กับดวงและความเร็วในการรับงาน อย่างบางวันได้ 700 บาทก็มี”

แต่หากสถานการณ์ปกติ “ปริมรัศมี” เผยว่า ยังคงยึดอาชีพแอร์โฮสเตสต่อไป เพียงแต่ในระหว่างที่ยังไม่มีบิน หรือมีเที่ยวบินน้อย คงจะยึดเป็นอาชีพเสริมด้วย บินเสร็จเปลี่ยนชุด ใส่กางเกงยีนส์ เสื้อโปโล ซึ่งเตรียมไว้ในรถได้ กดรับงานเสร็จขับไปส่งได้เลย ส่วนใหญ่งานจะอยู่ใน กทม.

“คิดถึงการเป็นแอร์ฯ เหมือนกัน เพราะบินมา 20 ปี ไม่เคยมีปิดเทอมใหญ่แบบนี้ แต่พอเกิดเหตุการณ์นี้ทำให้เราได้รู้ว่านอนเต็มอิ่ม ได้อยู่กับลูกก็ดีเหมือนกัน” ปริมรัศมีกล่าวและว่า “ทุกสิ่งทุกอย่าง การเริ่มต้นยากที่สุด แต่ถ้าลองทำแล้วก็กลายเป็นเรื่องง่าย”

ประชาชาติธุรกิจ นำเสนอซีรีส์ “รวมพลังสู้ โควิด-19” ภายใต้เนื้อหาที่มาจากประชาชน นักคิด นักเขียน ผู้รู้ นักธุรกิจ สตาร์ตอัพ ผู้ประกอบการทุกระดับ ที่นำเสนอแนวคิด ความรู้ และทางออกจากปัญหาไปด้วยกัน