คนแห่ทำอาหาร-โพสต์รูป ยอดขายเครื่องครัว “มานะ เอาท์เล็ท” พุ่ง

“มานะ Outlet” ใครได้ยินชื่อนี้เป็นต้องนึกถึงอาณาจักรเครื่องครัว ราคาสบายกระเป๋า ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์เครื่องครัวนานาชนิด บนพื้นที่ 2 ไร่ ย่านเพชรเกษม บางแค 

“รักษิต โพธิ์โลหะกุล” อายุ 29 ปี ทายาทรุ่น 3 มานะ เอาท์เล็ท เล่าว่า เมื่อ 50 ปีก่อน ที่ตั้งของ มานะ เอาท์เล็ท คือโรงงานผลิตอะลูมิเนียม ริเริ่มโดยอากงอาม่าของตน ผลิตหม้ออะลูมิเนียมส่งจำหน่ายทั่วประเทศ

กระทั่งเมื่อ 4 ปีก่อน ยุคสมัยเปลี่ยนไป ทางครอบครัวจึงปรับเปลี่ยนธุรกิจ ด้วยการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า โดยมี “อา” เป็นกำลังสำคัญ

“คุณอามีความเชี่ยวชาญด้านเครื่องครัว ได้นำเข้าเครื่องครัวต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เช่น เครื่องครัวเซรามิก, ปิ่นโตสี, ปิ่นโตลายไทย, ถ้วย, ชาม, แก้ว, หม้อสเตนเลส,อะลูมิเนียม, เครื่องครัวงานไม้, กระทะ, ตะหลิว, มีด, อุปกรณ์ครัวอื่นๆ แล้วแบ่งพื้นที่โรงงานมาเป็นหน้าร้าน แต่ธุรกิจอะลูมิเนียมแย่ลงคนไม่นิยมใช้ จึงเปลี่ยนโรงงานมาเป็นมานะ เอาท์เล็ท ขายอุปกรณ์เครื่องครัวในปัจจุบัน”

“รักษิต” รับไม้ต่อกิจการเป็นรุ่นที่ 4 ทั้งที่ตัวเองเรียนจบด้านคอมพิวเตอร์ และเคยทำงานในบริษัทชั้นนำ อย่างซัมซุง แกรมมี่ บริษัทสตาร์ตอัพ ก่อนข้ามสายไปเป็นสจ๊วตสายการบินเจแปนแอร์ไลน์เกือบ 2 ปี แถมเวลาว่างยังรับงานฟรีแลนซ์อีก จนทางครอบครัวเอ่ยปากให้มาช่วยดูธุรกิจครอบครัว

“แรกๆ ยังลังเล แต่คิดว่าลองดูสักตั้ง ตอนที่ผมเข้ามาธุรกิจได้เปลี่ยนมาเป็นมานะ เอาท์เล็ทเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยมีคุณอาวางรากฐานไว้ทั้งหมด ท่านเน้นขายออนไลน์มาตั้งแต่เริ่ม ขายผ่านไลฟ์สดมานาน ซึ่งทำได้ดีอยู่แล้ว มียอดขายเพิ่มขึ้น ผมแค่เข้ามาช่วยเสริมนิดหน่อย”

ในวันที่ “รักษิต” ตัดสินใจมาช่วยดูแลกิจการครอบครัว เป็นเวลาเดียวกับที่โควิดแพร่ระบาด ในจังหวะเดียวนั้น ได้เกิดกระแสทำอาหารรับประทานที่บ้าน ถ่ายรูปลงโซเชียล

“ก่อนหน้านี้ที่ร้านรับลูกค้าวันละ 10-20 คน แต่พอเกิดโควิด คนหันมาทำอาหาร เกิดเป็นกระแสถ่ายรูปลงโซเชียล ทำให้จาน ชาม เซรามิกที่มีสีสัน มีลายน่ารักๆ ขายดีมากขึ้น บวกกับเพจและสื่อต่างๆ มารีวิวร้านให้ ทำให้ลูกค้าเข้ามาหน้าร้านเป็นร้อยเป็นพันคน ต้องขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้ร้านได้กลุ่มลูกค้าวัยรุ่นเพิ่มเติม”

ด้วยจำนวนคนที่มาทำให้ระบบภายในรับไม่ไหว ทำงานช้า บาร์โค้ดไม่พร้อมใช้งาน ลูกค้าต้องเข้าแถวรอคิดเงินนาน 2 ชั่วโมง พนักงานแทบไม่ได้พัก เพราะรับลูกค้า 3 วันเต็ม

“ตัดสินใจปิดร้าน 7 วัน เพื่อพัฒนาระบบ เพราะคิดว่าถ้ายังขายต่อไปแย่กว่าเดิมแน่นอน ลูกค้าต้องมาต่อแถวรอ ของก็ไม่พร้อมขาย พนักงานก็เหนื่อยทำไม่ไหว เลยปรับระบบให้พร้อมขายมากขึ้น บรรยากาศหน้าร้านดีขึ้นลูกค้าไม่ต้องต่อคิวยาวแล้ว พอรัฐคลายล็อกต้นพฤษภาคม ลูกค้าเข้ามาอุดหนุนเพิ่มอีก”

สาเหตุที่ทำให้ มานะ เอาท์เล็ท เป็นที่นิยม เพราะมีสินค้าที่หลากหลาย มีครบทุกอย่าง ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการ

“ลูกค้ามาที่เดียว สามารถซื้อได้ทุกอย่างที่ต้องการใช้ เราดูคุณภาพเป็นหลัก ใช้งานง่าย มาแล้วได้ของคุณภาพราคาจับต้องได้ ถูกสุดไม่ถึง 10 บาทก็มี เป็นช้อนเล็กๆ ขึ้นมาจนถึงหลักพัน ราคาสูงสุดช่วงนี้จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า”

ตอนนี้ยอดขาย เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพิ่มขึ้นมาจากช่วงก่อนหน้าโควิดเป็นเท่าตัว โดยลูกค้านิยมซื้อ จาน ชามเซรามิกตามกระแส

“สินค้าขายดีเป็นพิเศษ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.จานเซรามิก สีสันสดใส ซึ่งเรามีหลายแบบ นำไปจัดเซตได้ 2. หม้อสเตนเลส กระทะเคลือบหินอ่อน ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มแม่บ้าน 3. แก้วใส 4.อุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร ช้อน ส้อม มีด และ 5.อุปกรณ์ทำครัว”

ปัจจุบัน “รักษิต” กับอา ช่วยกันดูแลมานะ เอาท์เล็ท ตั้งใจว่าจะพัฒนาธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น เพิ่มบรรยากาศในการช็อป โดยเก็บข้อมูลจากลูกค้ามาปรับใช้ และจะยังหาสินค้าใหม่ๆ ที่ลูกค้าต้องการเข้ามาขายเรื่อยๆ เนื่องจากมั่นใจว่าตลาดจะโตขึ้นอีก

สำหรับใครที่อยากไปซื้อเครื่องครัว สามารถแวะไปได้ที่ มานะ เอาท์เล็ท ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม บางแค เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-19.00 น.

ข้อมูล เส้นทางเศรษฐี 

ประชาชาติธุรกิจ นำเสนอซีรีส์ “รวมพลังสู้ โควิด-19” ภายใต้เนื้อหาที่มาจากประชาชน นักคิด นักเขียน ผู้รู้ นักธุรกิจ สตาร์ตอัพ ผู้ประกอบการทุกระดับ ที่นำเสนอแนวคิด ความรู้ และทางออกจากปัญหาไปด้วยกัน